‘คนละครึ่ง พลัส’ ฮอตไม่เลิก คลังกางตัวเลขยอดใช้จ่ายสะพัดแล้ว 1.93 หมื่นล้านบาท มีประชาชนใช้จ่ายเฉียด 19 ล้านราย ตีปี๊บ 7 พ.ย. วันแรกใช้สิทธิผ่าน Food Delivery พร้อมกระทุ้ง 4 หมื่นร้านค้าเร่งกดปุ่ม ‘ยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไข’ เพื่อเข้าร่วมโครงการ

6 พ.ย. 2568 – นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง พลัส ณ วันที่ 6 พ.ย. 2568 เวลา 17.00 น. พบว่า มีผู้ใช้จ่ายผ่านโครงการสำเร็จแล้วกว่า 18.91 ล้านราย ยอดใช้จ่ายรวมกว่า 19,358.60 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายจำนวน 9,796.76 ล้านบาท และเงินที่รัฐร่วมจ่ายจำนวน 9,561.84 ล้านบาท 

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2568 ระหว่างเวลา 06.00 – 23.00 น. ผ่าน G-Wallet ในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” โดยในแต่ละวันไม่จำเป็นต้องใช้จ่ายให้เต็มสิทธิ 200 บาท สำหรับความคืบหน้าของการลงทะเบียนร้านค้าในโครงการฯ จากข้อมูลสะสม ณ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 เวลา 17.00 น. มีร้านค้าที่ผ่านการตรวจสอบข้อมูลแล้วจำนวน 868,148 ราย 

“ในวันพรุ่งนี้ (วันที่ 7 พ.ย. 2568) จะเป็นวันแรกที่ประชาชนสามารถใช้จ่ายกับร้านอาหารและเครื่องดื่มที่เข้าร่วมโครงการ ผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) 4 แพลตฟอร์ม ได้แก่ Grab, Lineman, Robinhood และ ShopeeFood โดยต้องเริ่มการใช้สิทธิผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ก่อนจะเชื่อมโยงไปยัง Food Delivery Platform ที่ต้องการได้ต่อไป ทั้งนี้ สามารถสั่งอาหารและเครื่องดื่มได้ระหว่างเวลา 06.00 – 21.00 น. จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2568” นายวินิจ กล่าว 

นอกจากนี้ ขอเน้นย้ำว่า ประชาชนจะต้องเริ่มใช้จ่ายครั้งแรกภายในวันที่ 11 พ.ย. 2568 เวลา 23.00 น. ซึ่งหากพ้นระยะเวลาดังกล่าว จะถือว่า ไม่ประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ และถูกตัดสิทธิในโครงการฯ ขณะเดียวกันขอประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมสำหรับร้านค้าที่สมัครเข้าร่วมโครงการ ว่า ปัจจุบันมีร้านค้าที่ได้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้เข้ามากดปุ่ม “ยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไข” ของโครงการฯ ในแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” เป็นจำนวนประมาณ 40,000 ราย ทำให้ยังไม่สามารถเริ่มต้นรับสิทธิจากประชาชนได้ 

ดังนั้น ขอให้ตรวจสอบและรักษาสิทธิของร้านค้าของท่านโดยเข้ามากดปุ่มดังกล่าวด้วย อย่างไรก็ดี หากร้านค้ามีปัญหาข้อขัดข้องเกี่ยวกับการใช้งานแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” สามารถติดต่อธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ต่อไป