สรุปสถานการณ์น้ำวันนี้ เตือน 6 จังหวัด รับมือพายุดีเปรสชัน คัลแมกี บ่ายนี้
ศูนย์อำนวยการน้ำแห่งชาติ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 7 พฤศจิกายน เวลา 07.00 น. ดังนี้
1. สภาพอากาศวันนี้ : เนื่องจากอิทธิพลของ พายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” บริเวณเมืองกอนตูม ประเทศเวียดนามได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรงแล้ว หลังจากนั้นมีแนวโน้มจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันเคลื่อนผ่านประเทศลาว โดยจะเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ในช่วงบ่ายของวันนี้ ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ บริเวณ จ.อุบลราชธานี ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์
คาดการณ์ วันที่ 8 – 9 พฤศจิกายน 68 ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากอิทธิพลของพายุ ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากลมตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น
พายุไต้ฝุ่น “คัลแมกี” บริเวณประเทศเวียดนาม คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองบิ่ญดิ่ญ ประเทศเวียดนามตอนกลางจากนั้นมีแนวโน้มจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและพายุดีเปรสชันเคลื่อนผ่านประเทศลาว โดยจะเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ในช่วงบ่ายของวันนี้ ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ

2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 88% ของความจุเก็บกัก (71,298 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 81% (47,176 ล้าน ลบ.ม.)
การประเมินสถานการณ์แหล่งน้ำขนาดใหญ่
แหล่งน้ำขนาดใหญ่ปริมาณน้ำต่ำกว่าระดับควบคุมต่ำสุด จำนวน 1 แห่ง ภาคตะวันออก : คลองสียัด
แหล่งน้ำขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำเก็บกักน้อยกว่า 30% จำนวน 19 แห่ง ดังนี้ ภาคเหนือ 3 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 แห่ง ภาคตะวันออก 6 แห่ง ภาคตะวันตก 5 แห่ง และภาคใต้ 2 แห่ง
3. คุณภาพน้ำ ณ จุดเฝ้าระวัง แม่น้ำสายหลัก
น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค แม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีสูบน้ำสำแล จ.ปทุมธานี อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
น้ำเพื่อการเกษตร แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำบางปะกง อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
วานนี้ (6 พฤศจิกายน. 68) นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำและการวางแผนการบริหารจัดการน้ำเขื่อนภูมิพล ณ ห้องประชุมเขื่อนภูมิพล จ.ตาก จากการที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ “พายุคัลแมกี”
ซึ่งอิทธิพลของพายุจะส่งผลให้ในช่วงวันที่ 7-9 พฤศจิกายน 68 ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่โดยจะเริ่มจากบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือ
ทั้งนี้ สทนช. ได้ร่วมกับทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์ฝน สถานการณ์น้ำท่า และปริมาณน้ำในเขื่อนแต่ละแห่งอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเขื่อนขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ในแนวพื้นที่รับฝนจากพายุคัลแมกี ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนอุบลรัตน์ ที่ปัจจุบันมีปริมาณน้ำในเขื่อนเกือบ 100% จึงต้องมีการวางแผนพร่องระบายน้ำของแต่ละเขื่อนอย่างรอบคอบรัดกุม โดยจากการติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พบว่า เขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนอุบลรัตน์ สถานการณ์ยังไม่น่าเป็นห่วงและสามารถรองรับปริมาณฝนที่จะตกมาเพิ่มได้
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบให้ กฟผ. วางแผนปรับเพิ่มการระบายน้ำแบบขั้นบันไดตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน 68 เป็นต้นไป ในอัตรา 30 ล้าน ลบ.ม./วัน 40 และ 45 ล้าน ลบ.ม./วัน สูงสุดไม่เกิน 60 ล้าน ลบ.ม./วัน ปริมาณน้ำที่ระบายออกจากเขื่อนดังกล่าวจะส่งผลให้ระดับน้ำ
ด้านท้ายเขื่อนฯ เพิ่มสูงขึ้นไม่เกิน 20 เซนติเมตร โดยมวลน้ำจากเขื่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำปิง ผ่าน จ.ตาก กำแพงเพชร และนครสวรรค์ จนถึงเขื่อนเจ้าพระยาใช้เวลาอีก 8-9 วัน ซึ่งจะไม่ส่งผลให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น โดยขอให้ กฟผ. พิจารณาปรับการระบายน้ำให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของเขื่อนและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อด้านท้ายน้ำเป็นสำคัญ รวมทั้ง ให้มีการสื่อสารประชาสัมพันธ์กับพื้นที่และประชาชนล่วงหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ได้