เจรจาสำเร็จ กรณีชาวบ้านบางบาล รวมตัวปิดถนนอยุธยา–อ่างทอง เรียกร้องเปิดประตูระบายน้ำบางกุ้ง หลังประสบปัญหาน้ำท่วมขังยาวนานกว่า 4 เดือน ล่าสุด กรมชลประทานยอมเปิดบานประตูน้ำบางกุ้ง 1 เมตร เป็นระยะเวลา 10 วัน เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำ และจะประเมินสถานการณ์อีกครั้งหลังครบกำหนด
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มชาวบ้านจากพื้นที่ตำบลบ้านกุ่ม อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมตัวกันปิดถนนสายอยุธยา–อ่างทอง ทั้ง 4 ช่องจราจร ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก เพื่อกดดันให้กรมชลประทานเร่งเปิดประตูระบายน้ำบางกุ้งลงทุ่งรับน้ำ หลังพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขังต่อเนื่องนานกว่า 4 เดือน
ชาวบ้านเรียกร้องให้กรมชลประทาน “เปิดบานประตูระบายน้ำบางกุ้งอย่างน้อย 1 เมตร” เพื่อช่วยระบายน้ำออกจากพื้นที่ หากไม่มีการดำเนินการในวันนี้ กลุ่มชาวบ้านประกาศว่าจะไม่ยอมถอย
นางทองแท้ อายุ 71 ปี ชาวบ้านหมู่ 1 ตำบลบ้านกุ่ม เปิดเผยว่า น้ำท่วมบ้านจนถึงชั้นสอง ต้องหนุนพื้นอยู่อาศัยทุกวัน ความเดือดร้อนสะสมมานานหลายเดือน จึงตัดสินใจออกมาร่วมปิดถนน พร้อมกล่าวว่า “ขอยอมตายกลางถนน” หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่แก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ สาเหตุความเดือดร้อนเกิดจากการที่เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำลงใต้เขื่อนอยู่ที่ระดับ 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่ประตูระบายน้ำบางกุ้งยังคงปิด ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในอำเภอบางบาลเป็นเวลานาน
ระหว่างการชุมนุม นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายทวิวงค์ โตทวิวงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เขต 1 พรรคประชาชน นายประพันธ์ ตรีบุบผา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา(รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา) ได้ลงพื้นที่รับฟังปัญหาและเจรจากับชาวบ้าน เพื่อหาทางออกร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เข้าดูแลความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์บานปลาย
ต่อมาเวลา 12.00 น. ชาวบ้านได้ทยอยเคลื่อนย้ายออกจากถนน เปิดการจราจรให้กลับมาเป็นปกติ หลังการเจรจาเป็นไปด้วยดี โดยกรมชลประทานรับปากว่าจะเปิดบานประตูระบายน้ำบางกุ้ง หมู่ที่ 9 ตำบลบ้านกุ่ม ขึ้น 1 เมตร เป็นระยะเวลา 10 วัน เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำ และจะประเมินสถานการณ์อีกครั้งหลังครบกำหนด
หลังการเจรจาสิ้นสุด ชาวบ้านต่างแสดงความดีใจ หลายคนถึงกับร้องเฮด้วยความโล่งอก เนื่องจากคาดว่าระดับน้ำในพื้นที่จะลดลง ถือเป็นสัญญาณดีหลังต้องทนทุกข์จากน้ำท่วมยาวนานกว่า 4 เดือน ชาวบ้านส่วนใหญ่หวังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามดูแลอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในอนาคต