ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่สอง โดยตลาดยังคงจับตาผลการเจรจาสันติภาพเพื่อยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน หลังยูเครนเตรียมเสนอแผนฉบับแก้ไขเพื่อเพิ่มโอกาสในการเจรจา

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่าปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคามีดังนี้ ราคาน้ำมับดิบปรับลดลงต่อเนื่อง หลังจากยูเครนเตรียมเสนอแผนสันติภาพฉบับปรับปรุงต่อสหรัฐ หลังหารือกับผู้นำอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี โดยแผนนี้อาจปรับตามข้อเสนอพันธมิตรเพื่อเพิ่มโอกาสเจรจา และสร้างแรงกดดันทางการทูตต่อรัสเซีย สันติภาพระหว่างยูเครน และรัสเซียอาจนำไปสู่การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรระหว่างประเทศต่อบริษัทของรัสเซีย และปลดล็อกอุปทานน้ำมันที่ถูกจำกัดของรัสเซีย

โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 9 ธ.ค. 68 อยู่ที่ 58.25 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -0.63 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 61.94 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -0.55

นักวิเคราะห์ระบุว่าปริมาณน้ำมันที่ลอยอยู่ในทะเล (floating storage) สะท้อนถึงปริมาณน้ำมันที่มีมากเกินความต้องการของตลาด และเป็นปัจจัยที่กดดันราคาน้ำมันหลังปริมาณน้ำมันที่ลอยอยู่ในทะเลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือน ส.ค. ที่ผ่านมา โดยคาดว่าปริมาณน้ำมันส่วนเกินจะอยู่ที่ระดับ 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน

สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) เปิดเผยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐ ลดลง 4.78 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปคงคลังของสหรัฐปรับเพิ่มขึ้น 8.03 ล้านบาร์เรล

ตลาดกำลังจับตาการหารือระหว่างกลุ่มประเทศ G7 (สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น และแคนาดา) และสหภาพยุโรปเกี่ยวกับมาตรการ “Full maritime services ban” ซึ่งจะห้ามการให้บริการทางทะเลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งน้ำมันของรัสเซีย ครอบคลุมการขนส่งทางเรือ การประกันภัย การจัดการโลจิสติกส์ บริการท่าเรือ และธุรกรรมทางการเงิน มาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อตัดช่องทางการส่งออกน้ำมันของรัสเซียสู่จากตลาดโลก และลดรายได้จากการขายน้ำมันของประเทศดังกล่าว