กลายเป็นเมนูไวรัลที่เห็นกันเต็มหน้าฟีดโซเชียลมีเดีย ทั้ง TikTok และ Instagram สำหรับ “ยำเห็ดหูหนูสไตล์จีน” อาหารเรียกน้ำย่อยรสชาติจัดจ้าน หอมกลิ่นน้ำมันงา ที่มาพร้อมรสสัมผัสกรุบกรอบ เราจะพาไปเจาะลึกที่มาของกระแสนี้ พร้อมแจกสูตรเด็ดที่ทำง่ายแต่อร่อยเหมือนบินไปกินที่เมืองจีน และพาไปดูประโยชน์สุดล้ำของ “เห็ดหูหนู” ที่ดีต่อสุขภาพ
ทำไม “ยำเห็ดหูหนู” ถึงครองใจชาวโซเชียล?
กระแสความนิยมของ ยำเห็ดหูหนูสไตล์จีน หรือที่ภาษาจีนเรียกว่า “เหลียงปั้น มูเอ่อร์” (Liangban Mu'er) เริ่มต้นมาจากแพลตฟอร์ม Douyin (TikTok จีน) และลามมาสู่ฝั่งไทย ผ่านคลิปวิดีโอแนว ASMR ที่ครีเอเตอร์โชว์การกินเห็ดหูหนูที่มีความกรุบกรอบ สู้ฟัน พร้อมกับสีสันของพริกและกระเทียมที่ดูจัดจ้าน
นอกจากเรื่องของเสียงและหน้าตาอาหารแล้ว ปัจจัยหลักที่ทำให้เมนูนี้เป็นกระแสคือเทรนด์ “อาหารคลีนรสแซ่บ” เพราะเป็นเมนูที่แคลอรีต่ำมาก ไขมันต่ำ (หากใส่น้ำมันงาพอเหมาะ) ตอบโจทย์คนที่กำลังลดน้ำหนักแต่เบื่ออาหารจืดชืด ทำให้เมนูนี้ถูกแชร์ต่อกันอย่างรวดเร็วในกลุ่มคนรักสุขภาพและชอบรสแซ่บ
ประโยชน์ของ “เห็ดหูหนู” (Wood Ear Mushroom) ของดีราคาถูก
ก่อนจะไปจดสูตร ลองมาดูประโยชน์ของพระเอกในจานนี้กันก่อน เห็ดหูหนูไม่ได้มีดีแค่ความกรอบ แต่ยังอัดแน่นด้วยสรรพคุณทางยาตามตำราแพทย์แผนจีนและโภชนาการสมัยใหม่
- ช่วยระบบขับถ่ายและดีท็อกซ์ลำไส้: เห็ดหูหนูมีไฟเบอร์สูงมาก ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย และมีคุณสมบัติในการดูดซับสารพิษตกค้างในลำไส้
- บำรุงเลือดและหัวใจ: มีธาตุเหล็กสูง ช่วยบำรุงเลือด และมีสารที่ช่วยลดความข้นเหนียวของเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนดี ลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ
- แคลอรีต่ำ เหมาะกับการลดน้ำหนัก: เห็ดหูหนู 100 กรัม ให้พลังงานเพียงประมาณ 20-30 กิโลแคลอรีเท่านั้น ทำให้อิ่มท้องได้นานโดยไม่อ้วน
- ลดระดับคอเลสเตอรอล: ช่วยลดไขมันไม่ดี (LDL) ในเลือดได้หากรับประทานอย่างต่อเนื่อง
แจกสูตร “ยำเห็ดหูหนูสไตล์จีน”
เคล็ดลับความอร่อยของสูตรนี้อยู่ที่ “ความเย็นและความกรอบ” ของเห็ด และกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของจิ๊กโฉ่และน้ำมันงา
วัตถุดิบหลัก
- เห็ดหูหนูดำ (สดหรือแห้งแช่น้ำ) 300 กรัม
- กระเทียมสับละเอียด 1-2 ช้อนโต๊ะ
- พริกจินดาแดงซอย (เผ็ดตามชอบ) 5-7 เม็ด
- ผักชี (สำหรับโรยหน้า)
- ต้นหอมซอย







