ตลาดหลักทรัพย์ฯต่อเวลาสมัคร ‘Jump+’ ถึง 31 มี.ค.69
GH News December 26, 2025 01:40 PM

ตลาดหลักทรัพย์ฯขยายระยะเวลารับสมัคร-นำส่งแผนงานโครงการ Jump+ ถึง 31 มี.ค. 69 ปลื้มล่าสุดมี บจ. สมัครเข้าร่วมมากกว่า 104 ราย สถานะ Active แล้ว 14 บริษัท คาดเริ่มเห็นการสื่อสารแผนงานที่ชัดเจนจากหลายบริษัทภายในไตรมาส 2 ปีหน้า

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ขยายระยะเวลารับสมัครและการนำส่งแผนงานของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ Jump+ จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 30 ธ.ค. 2568 เป็นวันที่ 31 มี.ค. 2569 ทั้งนี้ เดิมโครงการตั้งเป้าให้มี บจ. เข้าร่วมประมาณ 50-100 บริษัท

แต่ปัจจุบันมี บจ.สมัครเข้าร่วมแล้วมากกว่า 104 บริษัท แบ่งเป็น บจ.ใน SET จำนวน 51 ราย และ บจ.ใน mai จำนวน 53 ราย (ข้อมูล ณ 22 ธ.ค. 2568) และคาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต สะท้อนถึงพลังความร่วมมือของภาคธุรกิจไทยในการยกระดับศักยภาพและขับเคลื่อนตลาดทุนไทยสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

“ขั้นตอนถัดไป คือ บริษัทจดทะเบียนที่เข้าร่วมโครงการต้องจัดทำแผนการเพิ่มมูลค่าของบริษัทในมิติต่าง ๆ ระยะ 3 ปี ครอบคลุมทั้งแผนธุรกิจ, แผนด้านธรรมาภิบาล และแผนการจัดการก๊าซเรือนกระจก ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นการสื่อสารแผนงานที่ชัดเจนจากหลายบริษัทภายในไตรมาส 2 ปี 2569”

นายอัสสเดชกล่าวว่า การเติบโตของธุรกิจในประเทศอยู่ในระดับต่ำ ผลประกอบการของ บจ.ไทยในปี 2568 มีทิศทางติดลบ โดยเฉพาะกำไรหลัก (Core Profit) ในช่วง 9 เดือนแรกของปีที่ผ่านมา ลดลงถึง 7.3% สะท้อนการชะลอตัวของเศรษฐกิจอย่างชัดเจน ขณะที่กำไรที่เพิ่มขึ้นในบางช่วงเกิดจากรายการพิเศษแบบครั้งเดียว ซึ่งไม่สามารถเกิดซ้ำได้ในอนาคต

ขณะเดียวกัน สภาพคล่องในตลาดทุนไทยปรับลดลงต่อเนื่อง โดยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน คาดว่าจะปิดปีนี้ที่ประมาณ 40,000-42,000 ล้านบาท ส่วนมูลค่าหลักทรัพย์ฯตามราคาตลาด (Market Cap) ปรับลดลงจากในอดีตที่เคยสูงกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) สอดคล้องกับทิศทางเงินลงทุนที่ไหลออกไปยังตลาดต่างประเทศ ซึ่งมีบริษัทที่เติบโตสูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญ

“ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯจึงเร่งผลักดัน โครงการ Jump+ เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนไทย หันมามุ่งเน้นการสร้างศักยภาพของตัวเอง เพิ่มมูลค่ากิจการ และสร้างผลกำไรให้เติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อให้สินค้าในตลาดหุ้นไทยกลับมามีความน่าสนใจอีกครั้ง”

รายงานแจ้งว่า จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯพบว่า ปัจจุบันมีบริษัทที่เข้าสู่สถานะ “Active” หรือมีสถานะดำรงอยู่ในโครงการ Jump+ แล้ว 14 บริษัท แบ่งเป็น บจ.ใน SET จำนวน 4 ราย ได้แก่ บมจ.บริทาเนีย (BRI), บมจ.เมดีซ กรุ๊ป (MEDEZE), บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) และ บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC)

และ บจ.ใน mai จำนวน 10 ราย ได้แก่ บมจ.ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ (FPI), บมจ.หาญ เอ็นจิเนียริ่ง โซลูชั่นส์ (HARN), บมจ.อินสไปร์ ไอวีเอฟ (IVF), บมจ.คัมเวล คอร์ปอเรชั่น (KUMWEL), บมจ.เอส.เอ.เอฟ. สเปเชียล สตีล (SAF), บมจ.เอส.ซี.แอล.มอเตอร์ พาร์ท (SCL), บมจ.สกิน ลาบอราทอรี่ (SKIN), บมจ.เอสทีซี คอนกรีตโปรดัคท์ (STC), บมจ.ที.เอ็ม.ซี. อุตสาหกรรม (TMC) และ บมจ.ซิก้า อินโนเวชั่น (ZIGA)

ขณะเดียวกันพบว่า มี บจ.ในกลุ่ม SET100 เข้าร่วมโครงการเพียง 7 บริษัท ได้แก่ บมจ.ออโรร่า ดีไซน์ (AURA), บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH), บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW), บมจ.โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น (MOSHI), บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC), บมจ.ศุภาลัย (SPALI) และ บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC)

สำหรับรายละเอียดและกำหนดการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในโครงการ JUMP+ ประกอบด้วย 1.บริษัทจดทะเบียนสมัครเข้าร่วมโครงการ ระหว่างวันที่ 26 มิ.ย. 2568-31 มี.ค. 2569 โดยต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริษัทหรือผู้บริหารสูงสุด

2.บจ. จัดทำ เผยแพร่ และสื่อสารแผนงาน JUMP+ (ปี 2569-2571) ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริษัท ระหว่างวันที่ 16 ก.ค. 2568-31 มี.ค. 2569 และต้องสื่อสารกับผู้ลงทุนภายใน 15 วัน และ 3.บจ.รายงานความคืบหน้าและสื่อสารกับผู้ลงทุนตามไตรมาสหรือตามเหตุการณ์ ทุก 6 เดือนตามรอบระยะเวลาบัญชีรอบครึ่งปีแรก (6M) และรอบสิ้นปี (YE) ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในโครงการ ผ่านระบบ SETLINK และกิจกรรม OPPDAY

ทั้งนี้ เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการกำหนดให้บริษัทต้องไม่ถูกขึ้นเครื่องหมายที่สะท้อนปัญหาทางการเงิน ได้แก่ CB, CS, CC, CF, NP, SP และต้องไม่ถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ณ วันที่สมัคร) โดยโครงการ JUMP+ มีกำหนดสิ้นสุดในปี 2571

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.