ภูเก็ตสแควร์ เตรียมจัดงานฉลอง “จังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต” โฉมใหม่อย่างเต็มรูปแบบครบทั้ง 4 โซน หลังใช้เวลาในการรีโนเวตมาตั้งแต่ปี 2565 โดยครึ่งปีหลังเตรียมทุ่มงบฯ 60 ล้านบาท ปูพรมอีเวนต์ รับกระแสท่องเที่ยวภูเก็ตบูม
วันที่ 24 มิถุนายน 2567 นายประวิช จรรยาสิทธิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ภูเก็ตสแควร์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต เผยถึงโปรเจ็กต์ Asset Enhancement Initiative (AEI) ซึ่งเกิดขึ้นภายใต้กลยุทธ์หลักของบริษัทที่มุ่งเน้นสร้างการเติบโต การพัฒนาปรับปรุง และสร้างความโดดเด่นให้กับศูนย์การค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มแผนงานพัฒนาและปรับปรุงศูนย์การค้าตั้งแต่ปี 2565 ทั้งภายในและภายนอกศูนย์การค้า บนพื้นที่กว่า 200,000 ตารางเมตร ด้วยเงินลงทุนรวมกว่า 1,000 ล้านบาท
ซึ่งขณะนี้พร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบครบทั้ง 4 โซน พร้อมด้วย Anchor, Entertainment และร้านค้าผู้เช่าเต็มพื้นที่กว่า 300 ร้านค้า ภายใต้การตกแต่งที่แตกต่างกันในแต่ละโซน ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น ที่ช่วยเพิ่มสุนทรียภาพของการช็อปปิ้ง ให้ความรู้สึกที่สดชื่น ผ่อนคลาย ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
เริ่มต้นจากโซนเดอะจังเกิ้ล อาคาร 4 ชั้น ต่อเนื่องจากถนนป่าตองสาย 2 ที่เป็นทางเข้าหลักของศูนย์การค้า มีทางเชื่อมต่อกับโรงแรมเอ็ม โซเชียล ภูเก็ต (M Social Phuket) ฝั่ง After Glow ภายในโซนตกแต่งภายใต้คอนเซ็ปต์ “Amid the Shady Trees” ร่มรื่นด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ อุดมสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติ และสัตว์ป่ามากมายที่สรรสร้างผ่านงานสถาปัตยกรรม และงานตกแต่งภายในได้อย่างกลมกลืนและลงตัว ในรูปแบบของ “Tropical Resort Mall”
โซนเดอะโบทานิกา อาคาร 3 ชั้น ที่อยู่ติดถนนป่าตองสาย 3 จุดเชื่อมต่อระหว่างโซนต่าง ๆ และเชื่อมต่อ โรงแรมเอ็ม โซเชียล ภูเก็ต (M Social Phuket) ฝั่ง Sun-Kissed โดยภายในโซนตกแต่งในรูปแบบ “Colour of Flower Blooming” เพิ่มความสนุกสดใสด้วย Sculpture ดอกไม้ และ Gazebo ในแบบ Modern Park Style โดยมี Anchor หลัก ได้แก่ บิ๊กซี (Big C), ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน (Robinson) และโรงภาพยนตร์ เอส เอฟ ซีเนม่า (SF cinema)
นอกจากนี้ ยังเป็นโซนที่รวบรวมร้านค้าแฟชั่นแบรนด์เนมมากมาย ได้แก่ Coach, Birkenstock, Jaspal, CPS, CC DOUBLE O, GENTLEWOMAN, Playboy, New Era, Under Armour, Skechers, Charles & Keith, Annebra, Levi’s, GUESS, G-Shock, Fitflop, Crocs ฯลฯ
โซนเดอะเบย์ ลานอเนกประสงค์แบบ Semi Outdoor ใจกลางศูนย์การค้า ตกแต่งบรรยากาศภายใต้คอนเซ็ปต์ “A Sense of Sea Breeze” มีสัญลักษณ์ที่โดดเด่น คือเรือขนาดใหญ่ และ Art Sculpture ปลาโลมาและวาฬขนาดใหญ่กลางสระน้ำ รายล้อมไปด้วยเหล่าฝูงปลาและแมงกะพรุนที่มาแต่งแต้มสีสันใจกลางโอเอซิส ให้ตื่นตา ตื่นใจ และสนุกสนานยิ่งขึ้น
โดยบริเวณนี้จะเป็นพื้นที่เปิดสำหรับจัดกิจกรรมอีเวนต์และโปรโมชั่นต่าง ๆ ล้อมรอบไปด้วยร้านค้าชั้นนำ ได้แก่ Shabushi, McDonald’s, Fuji Japanese Restaurant, Le Siam, KFC, Tim Hortons, และ Superdry
และโซนเดอะการ์เด้น บนพื้นที่กว่า 4,700 ตร.ม. ตั้งอยู่บริเวณชั้น G เชื่อมต่อทางเข้าฝั่งถนนสาย 3 ต่อเนื่องสู่บริเวณโซนเดอะเบย์ ซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านอาหารนานาชาติ ไลฟ์สไตล์คาเฟ่ และแหล่งบันเทิง Hang Out สุดชิก ที่ตกแต่งภายใต้คอนเซ็ปต์ “A Green Mythical Romance” โดดเด่นด้วยตึกแถวโบราณสไตล์ชิโนโปรตุกีสของภูเก็ต ที่ตกแต่งในแบบ Modern Classic ให้ความรู้สึกโล่ง โปร่งสบาย ผ่อนคลาย เสมือนอยู่ในสวนสวย
ซึ่งโซนนี้ประกอบไปด้วยร้านอาหารชั้นนำ ได้แก่ Hachiban Ramen, The Thai Food Factory, Zen, Urban Food, Spoon ฯลฯ รวมถึงยังมีโรงแรมพิมนารา บูติค โฮเต็ล ซึ่งพร้อมเปิดให้บริการในโซนนี้เช่นกัน นอกจากนี้ยังเสริมสร้างบรรยากาศการช็อปปิ้ง ให้สนุกสนาน ประทับใจตั้งแต่ก้าวแรกด้วยการสร้างสรรค์ Modern Art Sculptures ขนาดใหญ่ อาทิ ช้าง, นกฟามิงโก้, นกแก้ว, กระต่าย, ผีเสื้อ, ปลาโลมา, ปลาวาฬ, ฝูงปลา แมงกะพรุน และประติมากรรมดอกไม้และภาพวาดทั้งภายในและภายนอกศูนย์การค้าอีกด้วย
สำหรับ โรงแรมเอ็ม โซเชียล ภูเก็ต (M Social Phuket) ในเครือแบรนด์ “M Social” แห่งที่ 6 ของโลก และแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งอยู่ภายใต้บริษัท ภูเก็ตสแควร์ จำกัด เช่นเดียวกัน โดยได้ทำการ Rebrand และปรับปรุงใหม่ทั้งหมด
โดยมีจุดเด่นคือการนำนวัตกรรมผู้ช่วย AI Voice-Controlled มาให้บริการพร้อมอำนวยความสะดวกภายในห้องพัก ครบครันด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานอย่างพิถีพิถันและล้ำยุค ผสานการออกแบบสุดเก๋เข้ากับเทคโนโลยีอย่างไร้รอยต่อ M Social Phuket
จึงนับเป็นโรงแรมไฮเทคสุดล้ำแห่งแรกในภูเก็ต ที่ให้คุณสัมผัสประสบการณ์โรงแรมแนวใหม่กับเทรนด์อนาคตแห่งการพักผ่อน โดยโรงแรมมีห้องพักและห้องสวีตให้บริการรวม 418 ห้อง
นายประวิชยังกล่าวอีกว่า สำหรับช่วงครึ่งปีหลังนี้ ศูนย์การค้าจังซีลอน ได้เตรียมงบฯการตลาดกว่า 60 ล้านบาท เพื่อจัดโปรโมชั่น โฆษณา ประชาสัมพันธ์ และปูพรมสร้างสรรค์อีเวนต์ที่โดดเด่นน่าสนใจ เพื่อสร้างสีสันในวันพักผ่อน และมอบความสุขให้กับนักช็อปนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างเต็มรูปแบบ
เพื่อตอกย้ำความเป็น “Shopping Destination in Patong” รองรับการฟื้นตัวการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตที่กลับมามีความคึกคัก และมีสีสันมากขึ้นกว่าช่วงโควิดที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ศูนย์การค้า มีลูกค้าเพิ่มสูงขึ้นเทียบเท่าปี 2562 ประมาณ 45,000-50,000 คนต่อวัน (ก่อนโควิด-19)
โดยกลุ่มเป้าหมายหลัก ยังคงเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 80% โดยปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนที่กลับมาส่วนใหญ่ จะเป็นกลุ่มประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน และมาเลเซียเป็นหลัก ซึ่งเราได้มีการปรับแนวทางการทำตลาดรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป อาทิ กลุ่ม FIT (Free Individual Traveler) ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวที่วางแผนการเดินทางเอง และมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นในปัจจุบัน
