แพลตฟอร์ม EOC โดย LPP เฝ้าระวังภัยเรียลไทม์ 260 โครงการ
SUB_NUM September 20, 2024 11:00 AM

เมืองไทยเผชิญภัยธรรมชาติที่ไม่อาจคาดเดาได้ แต่การบริหารจัดการสามารถออกแบบได้

ล่าสุด LPP บริษัทลูกในเครือ LPN นำเสนอโมเดลบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน เสริมขีดความสามารถในการบริหารจัดการแบบเรียลไทม์ ภายใต้โปรเจ็กต์ EOC Platform

โดย “สุรวุฒิ สุขเจริญสิน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด หรือ LPP ผู้นำในธุรกิจบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวว่า LPP ให้ความสำคัญในการนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาการบริหารจัดการให้ครอบคลุมความต้องการด้านการอยู่อาศัยในทุกมิติ รวมถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่ผู้อยู่อาศัยและผู้ใช้งานอาคารสูงสุด

สุรวุฒิ สุขเจริญสิน LPP LPN
สุรวุฒิ สุขเจริญสิน

จากประสบการณ์ LPP ที่สั่งสมการวางแผนบริหารจัดการ เฝ้าระวัง และรับมือกับความเสี่ยงของสถานการณ์น้ำท่วมให้ 260 โครงการที่รับผิดชอบดูแล มีการนำเทคโนโลยี IOT (Internet of Things) และดิจิทัลแพลตฟอร์ม เป็นส่วนสำคัญในการช่วยบริหารสถานการณ์และรายงานผล เตือนภัย ป้องกัน เพื่อดูแลความปลอดภัยให้แก่ผู้อยู่อาศัยแบบเรียลไทม์

โดยโครงการที่ LPP ได้ทำการประเมินแล้วพบว่าอยู่ในความเสี่ยงน้ำท่วมตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น อยู่ใกล้แม่น้ำ หรือคลองสายหลัก, มีชั้นจอดรถใต้ดิน เป็นต้น จะต้องรายงานสถานการณ์และเตือนภัยทุกวันผ่านระบบ EOC Platform ที่จะรวบรวมและประมวลทุกข้อมูลสำคัญไว้ใน Dashboard หรือแผงควบคุมกลางรวมศูนย์ข้อมูล

อาทิ การรายงานเพื่ออัพเดตสถานการณ์ประจำวัน การประเมินทิศทางของมวลน้ำจากตอนบนที่อาจกระทบโครงการที่ LPP บริหาร ตลอดจนการติดตามการแจ้งน้ำท่วมฉับพลันแบบ FFPI (Flash Flood Potential Indicator)

ซึ่งเป็นการรวบรวมข้อมูลสำคัญทั้งภายในและภายนอก ในการประเมินสถานการณ์แบบรายวันไว้ใน Dashboard ที่ LPP ได้พัฒนาขึ้นเองด้วยทีมวิศวกรข้อมูล (Data Engineering) พร้อมผู้เชี่ยวชาญคอยเฝ้าระวัง สั่งการ และประสานงาน ภายใต้การดำเนินงานของ ศูนย์ปฏิบัติการเหตุฉุกเฉิน : Emergency Operations Center (EOC)

และฝ่ายวิศวกรรมส่วนกลาง Engineering Center ที่พร้อมลงพื้นที่แก้ไขสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง จึงมั่นใจได้ว่าทั้งผู้อยู่อาศัยและผู้ใช้อาคารจะได้รับความปลอดภัยภายใต้การดูแลจาก LPP อย่างสูงสุด

นอกจากนี้ ในการดูแลความปลอดภัยให้กับโครงการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงานและทรัพย์สินรูปแบบอื่น ๆ ที่ LPP บริหารจัดการ มีการผสานการใช้เทคโนโลยีเครือข่ายอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อสื่อสารกันผ่านสัญญาณอินเทอร์เน็ต หรือ IOT (Internet of Things) ติดตั้งในจุดวิกฤตที่น้ำจะเดินทางเข้ามา และ Digital Platform เข้ามาใช้และบริหารจัดการเพื่อส่งมอบความปลอดภัยของผู้ใช้งานอาคารของ LPP อย่างครอบคลุมแบบ 24/7

ทั้งระบบ “Monitor CCTV Analytics” ในการเฝ้าติดตามระยะไกลได้อย่างรอบด้านและทั่วถึง เพื่อตรวจจับสิ่งผิดปกติต่าง ๆ, ระบบ “Face Camera” ระบบกล้องจดจำใบหน้าที่คอยตรวจสอบสแกนบุคคลเข้า-ออกอาคาร เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติ ได้แก่ กรณีที่เกิดเหตุน้ำท่วม หรือมีบุคคลภายนอกเข้ามาในโครงการโดยไม่ได้รับอนุญาต

ระบบ “SOS Emergency Call & VDO” จะสื่อสารทั้งภาพและเสียง ไปยังเจ้าหน้าที่ศูนย์ EOC เพื่อเข้าให้ความช่วยเหลือแบบทันท่วงที โดยทำการเชื่อมต่อทุกข้อมูลถึงกันอย่างรวดเร็วและไร้ขีดจำกัดผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ที่ทำให้การตรวจสอบและติดตามสถานการณ์รอบด้านให้เป็นไปอย่างเรียลไทม์

ที่สำคัญ เป็นตัวช่วยในการประหยัดทรัพยากร และช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วนกลางของโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกต่างหาก

“LPP จะยังคงมุ่งมั่นศึกษาพัฒนาเทคโนโลยีและบริการต่าง ๆ เพื่อให้สามารถส่งมอบบริการที่ดีที่สุดสมกับที่ได้รับความไว้วางใจ ให้คุณใช้ชีวิตสมูทได้ทุกวัน”

© Copyright @2024 LIDEA. All Rights Reserved.