“Lazada” เผยอินไซต์ผู้ใช้บนแพลตฟอร์ม พบผู้เล่น LazGame มีมากกว่า 1 ล้านคนต่อวัน พร้อมชู 3 กลยุทธ์ เดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างยืน หลัง ก.ค. 2567 “Lazada Group” พลิกทำ EBITDA จากการให้บริการใน 6 ประเทศ

วันที่ 20 กันยายน 2567 นางสาววาริสฐา เกียรติภิญโญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า 12 ปี ลาซาด้าได้ขับเคลื่อนนวัตกรรมและเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ควบคู่ไปกับการพัฒนาธุรกิจอีคอมเมิร์ซให้แข็งแกร่ง สะท้อนจากสถานะ EBITDA ของการดำเนินธุรกิจใน 6 ประเทศ ที่มีผลเป็นบวกเป็นครั้งแรกในเดือน ก.ค. 2567

“ความสำเร็จดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงการก้าวสู่ยุคใหม่ของอีคอมเมิร์ซ คือโฟกัสที่ประสิทธิภาพและความมั่นคงในการดำเนินธุรกิจ มากกว่าการบรรลุเป้าหมายในระยะสั้น เพื่อมุ่งสู่การเติบโตระยะยาวอย่างยั่งยืน”

นอกจากนี้ นางสาววาริสฐายังได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซและพฤติกรรมของผู้ใช้ลาซาด้าในไทย ดังนี้

• ในปี 2566 ไทยมีมูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซสูงเป็นอันดับ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยอัตราการเติบโต 20% เทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาค
• ยอดขายรวมของ LazMall ในช่วงเมกะแคมเปญ ก้าวกระโดดมากกว่า 7 เท่า เมื่อเทียบกับวันปกติ
• LazBEAUTY มีจำนวนสมาชิกในไทยกว่า 1 ล้านราย
• เมกะแคมเปญของลาซาด้าช่วยเพิ่มยอดขายเฉลี่ย 3.3 เท่า
• ผู้เล่น LazGame ในไทยมากกว่า 1 ล้านคนต่อวัน ถือเป็นกลุ่มที่มีการใช้แอปพลิเคชั่นนานกว่าค่าเฉลี่ยของแพลตฟอร์มถึง 3 เท่า และราว 82% กลับมาใช้งานแอปพลิเคชั่นเป็นประจำทุกวัน
• ฟีเจอร์ “ถามผู้ใช้งานจริง” (Ask the Buyer) ที่นำ AI มาช่วยตั้งคำถามเชิญชวนให้ผู้ซื้อรายก่อนมาร่วมรีวิวสินค้า เพื่อให้ผู้ซื้อรายใหม่ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น มีการตอบคำถามจากผู้ซื้อจริงไปแล้วกว่า 1.5 ล้านครั้ง
• เครื่องมือที่ใช้ AI ช่วยปรับแต่งรูปภาพ เขียนคำอธิบายสินค้า และให้บริการลูกค้า ช่วยเพิ่มอัตราการซื้อ (Conversion) ได้กว่า 30%

ผู้บริหารลาซาด้า กล่าวต่อว่า จากพฤติกรรมการซื้อของผู้ใช้ชาวไทย และศักยภาพการเติบโตของตลาด ลาซาด้า จึงเดินหน้าลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ 3 ด้าน ได้แก่

ยกระดับประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคล

ลาซาด้าเดินหน้ากลยุทธ์เพิ่มประสบการณ์การช็อปที่แตกต่าง ภายใต้แนวคิด “Customer-First” เน้นการตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคลได้ดียิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มอัตราการซื้อซ้ำและความเหนียวแน่นของนักช็อป ตอบรับการขยายตัวของกลุ่มนักช็อปหญิงและบทบาทที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคกลุ่ม Gen Z

โดยสร้างความแตกต่างในหมวดหมู่สินค้าพรีเมี่ยม แฟชั่น และความงาม ซึ่งเป็นจุดแข็งของแพลตฟอร์ม ซึ่งช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2567 ลาซาด้า จะเสริมความแข็งแกร่งของ LazMall ผ่านการขยายพันธมิตรแบรนด์เอ็กซ์คลูซีฟ รวมถึงรุกเซ็กเมนต์สินค้าลักชูรี่ผ่านหมวดสินค้า LazMall Premium Brand และเพิ่มแคมเปญ LazLOOK รายสัปดาห์ที่จะเข้ามาสร้างความตื่นเต้นและสีสันให้แก่นักช็อปอย่างต่อเนื่อง

ลงทุนด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี

ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำให้การช็อปเป็นเรื่องสะดวกและสนุกยิ่งขึ้น ลาซาด้าได้นำเทคโนโลยี AI เข้ามาขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมและฟีเจอร์ต่าง ๆ โดยมี Gamification เป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างการมีส่วนร่วมกับนักช็อป 

ส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพผู้ขายไทย

ด้วยพันธกิจในการสนับสนุนเอสเอ็มอีไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ลาซาด้าให้ความสำคัญกับการพัฒนาโซลูชั่นการตลาดเพื่อสนับสนุนผู้ขายให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านการใช้เครื่องมือ AI และนำเสนอโปรแกรมสิทธิประโยชน์ที่ออกแบบให้เหมาะสมกับร้านค้าในทุกกลุ่มและทุกก้าวของธุรกิจ

นอกจากนี้ยังพัฒนาบริการเสริมที่จะช่วยให้ผู้ขายนำเสนอประสบการณ์ช็อปปิงออนไลน์ที่ผสานกับออฟไลน์ได้อย่างไร้รอยต่อ เช่น บริการติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าและเฟอร์นิเจอร์ การประกันสินค้าประเภทต่าง ๆ รวมถึงการนำสินค้าเก่ามาแลกสินค้าใหม่ในหมวดโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

ในขณะเดียวกัน ลาซาด้า ประเทศไทย ยังสร้างความร่วมมือระยะยาวกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อส่งเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจอีคอมเมิร์ซของผู้ประกอบการไทยและขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และกรุงเทพมหานคร ผ่านโครงการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง