วิน เมธวิน ขำคนแซว นักเตะค่าแต่งตัวแพงที่สุด รีวิวชีวิตปี 2024 เหนื่อยและหนัก บินต่างประเทศบ่อย เผยชอบความเร็ว อยากลองแข่งรถ

เรียกว่าตลอดปี 2024 เป็นปีทองของนักแสดงหนุ่ม วิน เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร ที่มีคิวงานแน่นทั้งในไทยและต่างประเทศ รวมทั้งธุรกิจร้านขนมก็ปัง ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นอีกปีที่หนักและเหนื่อย แต่ก็ทำให้ได้เรียนรู้เติบโตขึ้นมาก โดยล่าสุด หนุ่มวิน มาร่วมงานเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา Digital Sound Check ชุดใหม่ “ISUZU 2.2 DDI MAXFORCE” ณ โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีเนม่า ศูนย์การค้าเซ็นลาดพร้าว ได้เปิดใจถึงชีวิตการทำงานในปีนี้ และโปรเจ็กต์ในปีหน้า พร้อมกันนี้ยังเผยถึงเรื่องที่โดนแซว เป็นนักเตะที่ค่าแต่งตัวแพงที่สุด หลังเจ้าตัวจัดเต็มใส่แบรนด์หรูทั้งตัวในงานแข่งกีฬาสี GMM TV

รีแคปชีวิตในปีนี้เป็นอย่างไร? “เป็นอีกหนึ่งปีที่เรารู้สึกว่าเหนื่อยและหนักเหมือนกันอาจจะด้วยเราทำงานทั้งธุรกิจและวงการบันเทิงพร้อม ๆ กัน ในช่วงที่มันหนักทั้งสองฝั่งก็เลยรู้สึกว่าเป็นปีหนึ่งที่เราได้เรียนรู้เยอะมากและเติบโตขึ้นเยอะมาก ก็หวังว่าปีหน้าจะดีขึ้นจะเมเนจเวลาได้ดีมากกว่าเดิม”

ช่วงเวลายากลำบากที่จำได้ขึ้นใจ? “ผมว่าน่าจะเป็นช่วงที่ผมบินบ่อย ๆ บินเยอะ ๆ ในหนึ่งเดือน แล้วต้องรีบกลับมาเข้าประชุมที่ออฟฟิศ หรือว่ารีบกลับมาอีเวนต์ในไทยก่อนเป็นช่วงที่เราเดินทางเยอะด้วย มันเหนื่อยกับการเดินทาง แล้วก็เรื่องงานมีหลายเรื่องที่ต้องเคลียร์ให้มันเข้าที่เข้าทางก็ทำให้เราเครียดเยอะครับ”

ส่งผลต่อสุขภาพใจ สุขภาพกายยังไงบ้าง? “ผมว่ามันสุขภาพร่างกายมากกว่าจิตใจ มันเหนื่อย ต่อให้เราขึ้นเครื่องไปแล้วเราไปนอนบนเครื่อง ลงมามันก็รู้สึกเหนื่อยอยู่ดี”

เดือนหนึ่งบินประมาณกี่ครั้ง? “ถ้าบินมากสุดในหนึ่งเดือนน่าจะประมาณ 6 ประเทศ ในช่วงหนึ่งที่บินเยอะ ๆ แต่ช่วงนี้ก็ดีขึ้นเบาแล้วครับ”

ปีนี้ทำงานหนัก ปีหน้าจะจัดสมดุลชีวิตใหม่อย่างไร? “ปีหน้าผมอยากจะเมเนจเรื่องเวลาของตัวเองให้มันดีกว่านี้หมายถึงว่าพอเราทำอะไรหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน แล้วถ้าเกิดว่าเราไม่สามารถจัดลำดับความสำคัญสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตได้ มันจะทำให้ทำไม่ดีสักอย่าง”

ปีหน้าจะมีโปรเจ็กต์อะไรใหม่ๆ? “ปีหน้าผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนก็รอติดตาม ตัวผมเองก็ตั้งตารอกับโปรเจ็กต์นี้มาก ๆ Scarlet Heart Thailand เป็นอีกหนึ่งโปรเจ็กต์ที่ใหญ่มาก ๆ ของ GMM TV และของตัวผมเองด้วย เป็นหนึ่งโปรเจ็กต์เราตั้งใจกับมันมากที่สุด อยากทำมันออกมาให้ดีมากที่สุด”

ช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในปีนี้? “น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ได้เจอแฟน ๆ มันเป็นอีกปีหนึ่งที่เรารู้สึกว่าได้เจอแฟน ๆ น้อย เพราะว่าเรามีอีเวนต์ต่างประเทศเยอะ เราเดินทางบ่อย ทำงานเบื้องหลังเยอะหมายถึงว่าทำงานเป็นอีเวนต์ที่ไม่ได้เจอแฟนๆ ก็เลยรู้สึกว่าเรามีโอกาสได้เจอกันน้อย ก็เป็นโมเมนต์หนึ่งที่เวลาได้เจอแฟนๆ รู้สึกประทับใจ ดีใจ มีความสุขทุกครั้ง”

ปีหน้าจะรับงานที่ไทยเยอะขึ้นมั้ย? “ครับ ก็อยากรับงานเยอะขึ้น ขอให้เป็นอย่างนั้นครับ”

งานประเภทไหนที่อยากลองลุยอีก? “งานที่เกี่ยวกับรถ เป็นงานที่เรารู้สึกชอบมาก ๆ มีโอกาสก็อยากจะไปแข่งรถอีก เพราะอย่างวันนั้นที่เป็นอีเวนต์เปิดตัวเครื่องยนต์ใหม่ มันมีรถคันหนึ่งที่จอดโชว์ รถแข่ง เราก็ขอเขาขับ สนุกดี (ชอบความเร็ว เคยลงสนามจริงหรือยัง?) ไม่เคยเลยครับ แล้วอีเวนต์อีซูซุ เป็นอีเวนต์แรกที่เหมือนสานฝันเราให้ได้ลงสนามแข่งจริง ผมว่าบุรีรัมย์ก็เป็นอีกหนึ่งสนามที่น่าสนใจมาก ๆ เราเป็นคนขับรถจะรู้ว่าพื้นถนนที่ไหนดี แล้วพอไปลงแข่งที่บุรีรัมย์รู้สึกว่า โห ในประเทศไทยมันดีขนาดนี้เลยหรอ มันดีมาก (อนาคตอาจจะได้เห็นวินลงแข่ง?) เป็นไปได้ เป็นอีกหนึ่งความฝัน วิน เรซซิ่ง”

คิดว่าจุดแข็งของเราคืออะไร? “ผมว่าน่าจะเป็นสายแซงทางโค้ง เพราะว่าการแข่’รถมันไม่ใช่ความเร็วอย่างเดียว มันมีการเลี้ยว ถ้าจะชนะน่าจะต้องแซงโค้ง”

วันแข่งกีฬา GMM วินเป็นนักกีฬาที่มีการแต่งกายแพงที่สุด? “รู้มั้ยว่าผมเครียดเรื่องคอสตูมมากจะออกมาเป็นอะไร เพราะว่าผมโม้ให้คำสัมภาษณ์ไปเยอะมาก (หัวเราะ) เราจะต้องทำให้ทุกคนไม่ผิดหวัง เราก็พยายามเลือกแบรนด์ที่เราเป็นคนพรีเซนต์ออกมาให้ได้ดีที่สุดเริ่มตั้งแต่สร้อยเพชร แล้วก็กำไล แหวนมาผสมผสานให้ออกมาดูดีมากที่สุด ไม่พอเรายังมีรองเท้าที่มีคู่เดียวในโลก เพราะทำเองเลย เบื้องหลังก็คือคอสตูมผมก็นั่งเย็บอยู่”

เป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุด? “(หัวเราะ) ไม่ใช่ฝีมือนะ ของที่ใส่อยู่ (วางแผนกลยุทธ์ไม่ให้เพื่อนมาแย่ง?) แน่นอน ผมวางแผนมา เพชรที่คอถ้าเขาไม่ให้ถอดออก ผมวางแผนว่าไฟสปอร์ตไลต์ในสนามมันแรง เข้าตา จะมาแย่งผม เขาแสบตา แย่งไม่ได้ ไม่กล้าเหยียบ ไม่กล้าเข้ามาแย่ง แต่เขาให้ถอดสร้อยออกก่อน ก็เลยไม่ค่อยได้เป็นตามแผนเท่าไหร่ คือจริง ๆ ฝีมือมันก็มีอยู่แล้ว เรื่องของอุปกรณ์มันแค่มาเสริมภาพลักษณ์ให้มันดูดีขึ้น ต่อให้ถอดอะไรออกก็ยังเตะเก่งเหมือนเดิมในสนามเราเต็มที่จนปวดสะโพก คลิปที่ทุกคนเห็นที่ล้มไป มันเป็นจังหวะที่เราพยายามจะโชว์เท่ไงแต่ว่ามันไม่เท่ มันไม่โดนบอลก็เลยล้ม เพราะล้มเสร็จด้วยแรงของมัน เราไม่หมุนตัวตามแรงไป มันก็เลยจะทำให้เราบาดเจ็บมากกว่านี้ (เป็นคนล้มที่หล่อ ล้มแล้วลุกเลย?) ใช่ อันนั้นคือเก๊กแต่ข้างในนี่เจ็บเลย แต่วันนั้นสนุกครับ”

แฟนๆ ก็กรี๊ด วินกับน้องมิค พี่ชายน้องชายอยู่ในสนามบอลเดียวกัน? “ก็ยังเป็นพี่น้องกันนะครับ สามัคคี จริง ๆ ต้องบอกว่าผมกับมิคเราเตะบอลกันตั้งแต่เด็ก ๆ เตะมาด้วยกันตั้งแต่น้องมิคเด็กๆ เตะกันหน้าบ้าน ในบ้าน พอโตมามันก็ทำให้เราเล่นแบบรู้ใจกัน (น้องมิคเตะลูกจุดโทษเข้าไปโอบกอดดีใจ?) เราจะถึงน้องอยู่แล้ว แต่มีคนหนึ่งตัดหน้าไปถึงน้องก่อนแล้ว ดีใจ ๆ รู้แหละว่าน้องกดดันมาก ๆ ลูกสุดท้ายที่จะตัดสินว่าชนะหรือยังไม่ชนะ มิคก็เต็มที่มาก ๆ ส่วนปีหน้านี่หนักใจแล้วนะว่าคอสตูมผมจะเป็นยังไง เดี๋ยวต้องไปนั่งคิดดี ๆ ว่าจะทำอะไร”.