แม่ร้อง แจ้งจับรถตู้ขืนใจลูกสาว 19 ถ่ายคลิปแบล็กเมล์ คดีไม่คืบ แถมเจ้าตัวโพสต์เยาะเย้ย 

เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ที่จ.สุุรินทร์ ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี อาศัยอยู่ที่ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ว่าลูกสาว คือ น.ส.บี อายุ 19 ปี ได้ถูกนายมนตรี อายุ 36 ปี คนขับรถตู้โดยสาร ชาวบ้านตาเมียง ม.1 ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ข่มขืนในบ้านพักของนายมนตรี เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 04.00น. วันที่ 21 ธันวาคม 67 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้เนื่องจากลูกสาวได้ใช้บริการรถตู้โดยสารคันที่นายมนตรีขับ ซึ่งรับลูกสาวมาจาก กทม.เพื่อกลับบ้านที่อำเภอพนมดงรัก โดยมีผู้โดยสารหลายคนที่มากับรถตู้ แต่ละคนได้ลงรถตามจุดหมายและพอมาถึงอำเภอพนมดงรัก นายมนตรีได้ออกอุบายวนส่งผู้โดยสารคนอื่นลงก่อนเหลือลูกสาวตนไว้เป็นคนสุดท้าย ก่อนจะพาไปที่บ้านพักของนายมนตรี และใช้กำลังฉุดกระชากลากตัวลงจากรถตู้เข้าบ้าน น้องได้ขัดขืนจึงถูกชกเข้าที่ท้องและถูกนายมนตรีลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ และได้มีการถ่ายรูปไว้ด้วยเพื่อแบล็กเมล์พร้อมข่มขู่ห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกใคร ไม่อย่างนั้นจะนำรูปถ่ายไปโพสต์ประจานให้อับอาย รวมถึงมีการขู่ตามฆ่าด้วย ซึ่งผู้เป็นแม่ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.พนมดงรัก กับทาง ร.ต.อ.สมพงษ์ ชาวพงษ์ พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี แต่เรื่องยังเงียบและไม่ได้รับการประสานงานจาก จนท.ตำรวจ แถมคนก่อเหตุก็ยังมีการโพสต์เฟซบุ๊กเยาะเย้ยถากถางเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย พร้อมทั้งมีเพื่อน ญาติ พี่น้องและเจ้าของรถตู้ซึ่งเป็นนายจ้างของผู้ก่อเหตุ เข้ามาแสดงความคิดเห็นในทางเสียหายกับลูกสาวตนด้วย จึงได้ร้องสื่อเพื่อให้ช่วยเหลือ

น.ส.เอ แม่ของผู้เสียหาย บอกว่า ตนทราบเรื่องเมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา เพราะสังเกตลูกสาวซึมๆไม่พูดไม่จา ไม่ยอมกินข้าว เก็บตัวเงียบอยู่คนเดียว ถามก็บอกว่าปวดท้องจะพาไปหาหมอก็ไม่ไป ตนคิดว่าลูกคงเครียดจากการเรียน พอเราซักมากๆ เขาจึงยอมบอกว่า “ตอนวันที่ 20 ธันวาคมที่แม่ให้ขึ้นรถตู้จาก กทม.กลับบ้านในช่วงเย็น พอมาถึงบ้านเขตอำเภอพนมดงรัก คนขับรถตู้ไม่ยอมมาส่งที่บ้านและได้พาไปที่บ้านของเขา ก่อนลากลงจากรถเข้าไปข่มขืนในบ้านช่วงประมาณตี 4 วันที่ 21 ธันวาคม”

ถามว่ารู้จักผู้ก่อเหตุหรือไม่ ก็รู้จักเพราะเป็นคนขับรถตู้ที่วิ่งอยู่ละแวกหมู่บ้าน เราก็ไว้ใจให้ลูกโดยสารมาตลอดเวลากลับบ้าน ไม่คิดว่าจะทำกับลูกเรา หลังจากรู้ความจริงจึงพาลูกสาวไปแจ้งความที่ สภ.พนมดงรัก และตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล แพทย์ระบุว่ามีการล่วงละเมิดทางเพศจริง หลังจากตำรวจรับเรื่องคดีเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ก็ไม่มีการติดต่อให้เข้าไปให้ปากคำเพิ่มเติม ซึ่งเราก็อยากให้เอาตัวคนกระทำผิดไปลงโทษ และหลังจากเกิดเรื่องตนได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว และตัวผู้กระทำผิดก็ได้แค็ปโพสต์ตนนำไปโพสต์ในเฟซของเขายอมรับว่าเป็นคนทำเองและบอกว่าเขาไม่ได้ข่มขืน เป็นการสมยอม แล้วก็มีกลุ่มเพื่อนเขาที่แชร์ต่อข่มขู่เราว่าจะฆ่าเรา ก็อยากให้ทางตำรวจเร่งรัดคดีเพราะเป็นภัยต่อสังคมหากปล่อยผู้กระทำลอยนวลอยู่แบบนี้ ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีการเรียกตัวผู้กระทำผิดเลย สภาพจิตใจน้องเวลานี้ย่ำแย่ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เนื่องจากระหว่างเกิดเหตุมีการต่อยท้อง ปิดปาก กดแขนน้อง ก่อนข่มขืนและมีการถ่ายรูปน้องไว้แบล็กเมล์ข่มขู่เพื่อจะประจานด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากนี้ยังมีหญิงสาวรายหนึ่งได้ให้ข้อมูลหลังเห็นโพสต์ของแม่ผู้เสียหาย โดยเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังทางโทรศัพท์ว่า เคยถูกกระทำในลักษณะเดียวกันมาแล้วเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ในช่วงนั้นเดินทางกลับบ้านโดยรถตู้โดยสาร เมื่อมาถึงบ้านนายมนตรี คนขับได้ออกอุบายให้ช่วยเป็นเพื่อนไปส่งผู้โดยสาร ตนก็คิดว่าไม่มีอะไรเพราะเป็นคนรู้จักกัน จนกระทั่งส่งผู้โดยสารหมดเหลือตนคนเดียวนั่งข้างกับคนขับ นายมนตรีก็เริ่มลวนลามใช้กำลังบังคับข่มขืนภายในรถ แต่ไม่ได้ทำร้ายร่างกายรุนแรง ตนพยายามสู้ขัดขืนปกป้องตนเองแต่ทานแรงไม่ไหว หลังเกิดเหตุตนไม่ได้ไปแจ้งความเพราะกลัวและอายด้วย แต่พอทราบเรื่องที่เกิดขึ้นกับน้อง ตนก็พร้อมที่จะเปิดเผยความจริงและพร้อมจะแจ้งความในเรื่องที่เกิดขึ้นกับตน

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.นพดล พินิจอักษร ผกก.สภ.พนมดงรัก เพื่อติดตามเรื่องที่เกิดขึ้น โดยพ.ต.อ.นพดล เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2567 ทางผู้เสียหายได้มาแจ้งความร้องทุกข์ ทางตำรวจได้รับแจ้งความร้องทุกข์ไว้แล้ว และสอบปากคำผู้เสียหายไว้ในเบื้องต้น ซึ่งผู้เสียหายมีความประสงค์อยากได้พนักงานสอบสวนที่เป็นผู้หญิง พนักงานสอบสวนเราจึงไม่สามารถสอบสวนรายละเอียดได้ แต่เราก็รับเรื่องร้องทุกข์ไว้แล้ว เรื่องนี้ตนจะให้ทางรองผู้กำกับสอบสวนได้ประสานไปยังผู้เสียหายแล้วดำเนินงานสอบสวนด้วยตัวเอง อาจจะทบทวนให้มาให้ปากคำใหม่อีกครั้ง จะได้ดำเนินการให้ความเป็นธรรมและเร่งรัดคดีให้

หากเรายังไม่สอบปากคำบันทึกรายละเอียดในการดำเนินคดี ก็จะเอาตัวผู้ต้องหามาแจ้งข้อกล่าวหาลำบาก ก็อยากได้รายละเอียดการสอบสวนให้แน่ชัดก่อน โดยจะเร่งดำเนินการภายใน 1-2 วันนี้ ทราบว่าตัวผู้ต้องหาเองก็ยังอยู่ในพื้นที่ ยังไม่ได้หลบหนีไปไหน เพียงแต่เราอยากให้ได้รายละเอียดสอบปากคำผู้เสียหายกับพนักงานสอบสวนของเรา เพราะถ้ารอพนักงานสอบสวนที่เป็นผู้หญิง จะล้าช้า เนื่องจากโรงพักเราไม่มีพนักงานสอบสวนที่เป็นผู้หญิง ซึ่งจริงๆ แล้วพนักงานสอบสวนผู้ชายก็ให้ความเป็นธรรมได้ โดยตนจะให้ทางรองผู้กำกับสอบสวน สอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง และตนจะกำกับดูแลคดีนี้ด้วยตนเอง พร้อมให้ความเป็นธรรมเต็มที่ และจะนัดผู้เสียหายเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมในวันที่ 29 ธันวาคม 67

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ยังมีคลิปเสียงการสนทนาที่ทางญาติผู้เสียหายโทรไปสอบถามความจริงกับนายมนตรี คนขับรถตู้โดยสาร ว่าจะยอมรับไหมว่าข่มขืนน.ส.เอ ซึ่งตอนแรกนายมนตรีไม่ยอมรับ และจะขอต่อรองเจรจาชดใช้ค่าเสียหาย แต่เมื่อจี้ถามหนักเข้านายมนตรีจึงยอมรับว่าข่มขืนน้องจริงและจะหาเงินมาไกล่เกลี่ยชดใช้ แต่ทางญาติผู้เสียหายไม่ยอม ซึ่งหากเป็นเพียงแค่การลวนลามก็จะยอมไกล่เกลี่ย แต่เมื่อนายมนตรียอมรับว่าข่มขืนน้องจริง ทางญาติจึงต้องให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด