เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.67 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า  ได้เกิดเหตุเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ของสายการบิน "เชจู แอร์" หรือ Jeju Air เที่ยวบินที่ 7 ซี 2216 เดินทางมาจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย พร้อมผู้โดยสาร 175 คน และพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน 6 คน รวมเป็น 181 คน ประสบอุบัติเหตุไถลออกออกนอกรันเวย์ และชนเข้ากับแนวรั้วกั้น ระหว่างลงจอด ที่สนามบินนานาชาติมูอัน ในจังหวัดช็อลลาใต้ ซึ่งอยู่ทางตะวันวันตกเฉียงใต้ของประเทศเกาหลีใต้ เมื่อเวลา 09.07 น. ตามเวลาท้องถิ่น (07.07 น. ตามเวลาในประเทศไทย)
    
ด้าน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ได้ตรวจสอบกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติของสาธารณรัฐเกาหลี และทราบว่ามีผู้โดยสารชาวไทย 2 คน โดยรายชื่อผู้โดยสารคนไทย 2 ราย คือ Chaue sirithon และ Doungmanee jongluk โดยสารเครื่องบินลำดังกล่าวมาด้วย (ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบสถานภาพของคนไทยทั้งสองคน)หากมีคนไทยรายใดได้รับบาดเจ็บ หรือประสบความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ดังกล่าว สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซลได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน + 82 10 6747 0095 และ + 82 10 3099 2955
    
รายงานข่าวแจ้งว่า จำนวนผู้เสียชีวิต 179  ราย ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังดำเนินการอย่างสุดความสามารถ เพื่อเร่งค้นหาผู้สูญหาย ขณะที่มีการช่วยผู้รอดชีวิตออกมาได้แล้ว 2 คน เป็นผู้โดยสารและพนักงานต้อนรับ โดยผู้โดยสาร 175 คน เป็นชาวเกาหลีใต้ 173 คน และชาวไทย 2 คน ส่วนลูกเรือ 6 คน เป็นชาวเกาหลีใต้ทั้งหมด
    
ทางด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานกรณีสายการบิน Jeju Air ไถลไปชนรั้ว เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ นั้น นายกรัฐมนตรีได้สั่งการด่วนให้กระทรวงการต่างประเทศตรวจสอบว่า มีคนไทยเป็นผู้โดยสารบนเครื่องบินกี่คน เพราะเป็นการเดินทางออกจากกรุงเทพมหานคร และให้รายงานสถานการณ์ตลอดเวลา พร้อมกำชับให้สถานเอกอัครราชทูตในเกาหลีใต้ เร่งให้การช่วยเหลือทันที หากทางการเกาหลีใต้หรือสายการบิน ฯ รายงานว่า มีผู้โดยสารชาวไทย รวมทั้งเร่งให้ติดต่อครอบครัวเพื่อแจ้งความคืบหน้า และให้กระทรวงการต่างประเทศรายงานสถานการณ์ให้ทราบทุกระยะ โดยขอให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล เกาหลีใต้ เป็นศูนย์อำนวยการในการประสานงานต่างๆ
    
“หากมีคนไทยได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล เกาหลีใต้ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน + 82 10 6747 0095 และ + 82 10 3099 2955” นาย จิรายุกล่าว
    
ขณะที่ พ.ต.อ.คธาธร คำเที่ยง รอง ผบก.ตม.3 โฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้สั่งการให้เร่งตรวจสอบ และประสานงานอย่างใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายเกาหลีใต้ ทราบว่า สาเหตุที่เกิดจากระบบนำร่องในการลงจอดขัดข้อง เป็นเหตุให้เครื่องบินกระแทกกับรันเวย์ แล้วลื่นไถลไปประสบอุบัติเหตุ แล้วเกิดระเบิดที่ตัวเครื่องขึ้น เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
    
โฆษก สตม. กล่าวต่อว่า เครื่องบิน เชจู แอร์ ลำนี้ บรรทุกผู้โดยสารทั้งหมด 175 คน เป็นชาวเกาหลีใต้ 173 คน โดยมีคนไทย จำนวน 2 คน และยังมีลูกเรืออีก 6 คน รวมเป็น 181 คน เบื้องต้นกำลังเร่งตรวจสอบว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 28 คนเป็นใครบ้าง ทั้งนี้ ผบช.สตม.ได้สั่งการให้เร่งประสานข้อมูล โดยหากทราบข้อมูลแล้วจะรีบรายงานให้ทราบในทันที
    
เว็บไซต์ไฟล์ทเรดาร์ 24 (Flightradar 24) ซึ่งรายงานสภาพการจราจรทางอากาศ เปิดเผยรายละเอียดการบินของเที่ยวบินดังกล่าวว่า เครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ของเจจูแอร์พยายามลงจอดที่เมืองมูอัน ประเทศเกาหลีใต้ โดยใช้ลำตัวเครื่อง (Gear-up landing) แต่เครื่องบินไถลออกนอกรันเวย์ พุ่งชนคันดินและชุดไฟฟ้าส่องสว่างจนแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย รายงานเบื้องต้นระบุว่ามีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตหลายสิบราย โดยผู้รอดชีวิตอย่างน้อย 2 ราย แต่ความพยายามในการกู้ภัยยังคงดำเนินต่อไป
    
เที่ยวบินที่ 7C 2216 ของสายการบินเจจูแอร์ มีกำหนดออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังเมืองมูอัน ประเทศเกาหลีใต้ โดยออกจากกรุงเทพฯ เวลา 02.29 น. ตามเวลาท้องถิ่น (หรือ 19.29 น. ตามเวลาสากลเชิงพิกัด หรือ UTC) โดยเที่ยวบินดังกล่าวเดินทางมาถึงเมืองมูอันด้วยเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง 30 นาทีหลังจากออกเดินทาง โดยข้อความจากระบบเฝ้าระวังผ่านดาวเทียม หรือ ADS-B ครั้งสุดท้ายที่ได้รับจากเครื่องบินเกิดขึ้นเมื่อเวลา 23:58:50 UTC โดยเครื่องบินอยู่ที่ตำแหน่ง 34.95966, 126.38426 ที่ระดับความสูง 500 ฟุต ขณะเข้าใกล้รันเวย์ 1 ที่เมืองมูอัน
    
จากหลักฐานภาพ และข้อมูลความสูงและอัตราแนวตั้งที่ Flightradar24 ได้รับ เชื่อว่าข้อความ ADS-B สุดท้ายที่ได้รับแสดงถึงการเตรียมพร้อมสำหรับการทำการบินในระดับต่ำ หรือฟลายโอเวอร์ (Flyover) ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งการบินแบบ Flyover มักดำเนินการเพื่อยืนยันว่าขาตั้งเครื่องบินถูกกดลงมาหรือไม่ ก่อนที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับขั้นตอนต่อไป โดยมีการนำเสนอแผนภูมิที่แสดงความสูงและอัตราแนวตั้งที่รายงานของเครื่องบินตั้งแต่ 2,000 ฟุตจนถึงสัญญาณสุดท้ายที่ได้รับที่ 500 ฟุต
    
ส่วนข้อมูลหลัง ADS-B ดูเหมือนว่าเครื่องบินจะไม่ส่งข้อมูล ADS-B อีกต่อไป หรือเครื่องบินอยู่นอกพื้นที่ให้บริการ หลังจากเวลา 23:58:50 UTC จากการรายงานเที่ยวบินก่อนหน้านี้และเครื่องบินลำอื่นๆ บนพื้นดินที่เมืองมูอันก่อนและหลังเที่ยวบินที่เกิดอุบัติเหตุ เชื่อว่าคำอธิบายแรกน่าจะเป็นไปได้มากกว่า มีสาเหตุที่เป็นไปได้หลายประการที่ทำให้เครื่องบินหยุดส่งข้อความ ADS-B เช่น การสูญเสียพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องส่งสัญญาณ ความล้มเหลวของระบบไฟฟ้าในวงกว้าง หรือการกระทำของนักบินบนดาดฟ้าบิน ซึ่งวีดีโอคลิปรายงานข่าวจากสำนักข่าว MOC NEWS แสดงให้เห็นเครื่องบินไถลลงรันเวย์ด้วยเครื่องยนต์โดยที่ล้อลงจอดไม่ได้กางออก สิ่งที่น่าสังเกตคือ Flaps and slats บนปีกเครื่องบิน ดูเหมือนจะหุบเอาไว้ เครื่องบินเคลื่อนตัวออกจากรันเวย์ด้วยความเร็วสูง ก่อนจะชนกับชุดไฟฟ้าส่องสว่างและคันดิน
    
สำหรับข้อมูลอากาศยานนั้น สายการบินเจจูแอร์ให้บริการโดยเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ทะเบียน HL8088 โดยเครื่องบิน 737 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ CFM56-7B จำนวน 2 เครื่อง เครื่องบินลำนี้สายการบินเชจูแอร์ซื้อเมื่อปี 2560 โดยก่อนหน้านี้เคยให้บริการบินกับสายการบินไรอันแอร์ ประเทศไอร์แลนด์ ตั้งแต่ปี 2552-2559

#เครื่องบินตก #jejuair #jejuairline #SouthKorea #เชจูแอร์