ปารีส 2024 ที่น่าจดจำ ส่งไม้ต่อสู่ แอลเอ2028
ในขวบปี 2024 ที่ผ่านมา ไฮไลท์ของวงการกีฬาที่สำคัญที่สุดก็คงหนีไม่พ้นการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ฤดูร้อน ครั้งที่ 33 หรือ “ปารีส 2024” ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
แน่นอนว่าในช่วงระยะเวลาเกือบ 1 เดือนของโอลิมปิกเกมส์ มีอะไรให้พูดถึงอย่างมากมาย วันนี้ “มติชน” จะมาย้อนดูไฮไลท์ที่สำคัญสำหรับโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ ก่อนจะนับถอยหลัง 4 ปี สู่ ‘แอลเอ 2028’ กัน
1.พิธีเปิดที่ไม่เหมือนใคร
เมื่อพูดถึง ปารีส 2024 สิ่งแรกที่ทุกคนจะต้องนึกถึงเลยนั่นก็คือการจัดพิธีเปิดที่แหวกแนวที่สุดนั่นคือการจัดพิธีเปิดนอกสนามกีฬาเป็นครั้งแรก เปลี่ยนจากการเดินพาเหรดเข้าสนาม กลายเป็นการให้นักกีฬาล่องเรือผ่านแม่น้ำแซน แม่น้ำสายสำคัญของกรุงปารีส เป็นระยะทางราว 6 กม. ก่อนจะไปขึ้นท่าเรือที่โทรคาเดโล่
นอกจากนี้ระหว่างทาง ยังมีการแสดงต่างๆ อาทิเช่น การปฏิวัติฝรั่งเศส, วัฒนธรรมคาบาเรต์, วรรณกรรมเจ้าชายน้อย, โจน ออฟ อาร์ค ก่อนจะปิดท้ายด้วยการแสดงโชว์ร้องเพลงครั้งแรกในรอบ 2 ปี ของ ซีลีน ดิออน นักร้องหญิงระดับโลก บนหอไอเฟล
ภาพที่ออกมาสำหรับผู้ชมที่ชมผ่านการถ่ายทอดสด ต่างให้คำชื่นชมถึงพิธีเปิดที่แหวกแนว ทว่าเสียงสะท้อนจากผู้ชมที่อยู่ในสถานที่จริง กลับออกมาทางตรงกันข้าม เพราะมีเสียงตำหนิทั้งเรื่องของการชมการแสดงแบบไม่เต็มอรรถรส หรือปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้อย่างฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืน
หนำซ้ำยังมีดราม่าชุดการแสดงที่ให้นักแสดงแต่งตัวเป็น Drag Queen ล้อเลียนภาพวาด The Last Supper อาหารค่ำมื้อสุดท้ายของพระเยซู ผลงานชิ้นเอกของ เลโอนาร์โด ดา วินชี ศิลปินเอกชาวอิตาลี ทำให้ถูกชาวคริสต์เตียนประนามอย่างหนัก จนต้องรีบลบคลิปการแสดงช่วงดังกล่าวออกจากแพลตฟอร์มยูทูป
เรียกว่ามีทั้งเรื่องดีและไม่ดี แต่ก็กลายเป็นพิธีเปิดที่เป็นภาพจำไปอีกนานแน่นอน
2.ประวัติศาสต์จาก ‘พาณิภัค’
หลังจากคว้าเหรียญทองเมื่อ 3 ปีก่อนที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโดสาวทีมชาติไทย ก็ยังคงเดินหน้าความเป็นเป็นเบอร์ 1 ของโลก พร้อมทั้งเป้าหมายที่จะป้องกันแชมป์โอลิมปิกเกมส์ให้ได้อีกครั้ง ซึ่งไม่มีนักกีฬาไทยคนใดเคยทำได้มาก่อน
ก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มต้องบอกว่าพาณิภัคต้องรับมือกับความกดดันอย่างหนัก ถึงกับแทบไม่ออกสื่อหรือให้สัมภาษณ์ใดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 2-3 เดือนสุดท้ายก่อนการแข่งขัน
ความเครียดของพาณิภัคเห็นได้ชัดตอนออกมาแข่งขันรอบ 16 คนสุดท้ายกับ อูเมม่า เอล บุชชี่ จากโมร็อกโก แต่พอเอาชนะไปได้สีหน้าของพาณิภัคก็ดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งย้ำแค้นกั๊วะ ฉิง คู่ปรับเก่าจากจีน ในรอบชิงชนะเลิศไปได้ คว้าเหรียญทองที่ต้องการได้สำเร็จ
ทำให้พาณิภัค สร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักกีฬาไทยเป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่สามารถคว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2 สมัย จากการเข้าร่วมทั้งหมด 3 ครั้ง ปิดฉากชีวิตนักกีฬาด้วยการเป็น G.O.A.T. (The Greatest of All Time หรือภาษาไทยว่าที่สุดตลอดกาล) ของวงการเทควันโดโลกคนหนึ่งได้เลย
3.การพิสูจน์คุณภาพน้ำในแม่น้ำแซน
ในโอลิมปิกเกมส์ 2024 ประเด็นหนึ่งที่สำคัญและมีการติดตามอย่างมากนั่นคือการที่เจ้าภาพเลือกใช้แม่น้ำแซน แม่น้ำสายสำคัญของกรุงปารีส เป็นหมุดหมายสำคัญ ตั้งแต่พิธีเปิดการแข่งขันที่ล่องเรือแล้ว แม่น้ำแห่งนี้ยังถูกกำหนดให้ใช้สำหรับการแข่งขัน ไตรกีฬา ในพาร์ทของการว่ายน้ำอีกด้วย
ซึ่งการเลือกใช้แม่น้ำแซน มีทั้งเสียงต่อต้านจากฝ่ายแพทย์ ที่มองว่าคุณภาพน้ำไม่เหมาะสำหรับการลงไปว่ายน้ำเป็นระยะทางไกลๆ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพนักกีฬาได้ แต่เจ้าภาพก็พยายามฟื้นฟูสภาพน้ำในแม่น้ำแซนอย่างหนักเพื่อพิสูจน์ว่าสามารถทำการแข่งขันได้ ใช้งบประมาณไปถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์! (ราวๆ 5.4 หมื่นล้านบาท)
ทว่าด้วยฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในช่วงพิธีเปิดการแข่งขัน ทำให้คุณภาพน้ำในแม่น้ำแซนไม่ผ่านเกณฑ์ จนทำให้นักกีฬาไม่สามารถลงพรีเรซได้ ยังดีที่คุณภาพน้ำผ่านเกณฑ์ในวันที่ 31 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันแข่งขันพอดี จึงทำให้การแข่งขันดำเนินต่อไป ก่อนที่ คาสซองเดร โบกรองด์ นักไตรกีฬาเจ้าภาพ คว้าเหรียญทองบุคคลหญิง และอเล็กซ์ ยี จากสหราชอาณาจักร คว้าทองบุคคลชาย ไปครอง
4.แบดมินตันและเหรียญที่รอคอย
ประวัติศาสตร์ของประเทศไทยกับโอลิมปิกเกมส์ที่ผ่านมา เคยคว้าเหรียญรางวัลได้จากแค่ 3 ชนิดกีฬาเท่านั้น ก็คือ มวยสากล, ยกน้ำหนัก และเทควันโด
แต่กีฬาหนึ่งที่มีลุ้นมาโดยตลอดแต่ก็ยังไม่ถึงฝั่งฝันเสียที นั่นก็คือ แบดมินตัน เพราะเรามาได้ไกลที่สุดก็คือการเข้าชิงเหรียญทองแดงของ “ซุปเปอร์แมน” บุญศักดิ์ พลสนะ ในประเภทชายเดี่ยว เมื่อปี 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ จากนั้นมาส่วนใหญ่ดีที่สุดก็คือเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศเท่านั้น
จนมาถึงครั้งนี้ แบดมินตัน ก็สามารถสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญแรกในโอลิมปิกเกมส์ได้สำเร็จ จาก “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ แบดมินตันชายเดี่ยว ซึ่งคว้าแชมป์โลกมาก่อนหน้านี้ในปี 2023
เส้นทางของกุลวุฒิ อาจจะไม่ง่าย เมื่อเขาต้องโคจรมาพบกับ ฉี ยู่ฉี มือ 1 ของโลกจากจีนในรอบ 8 คนสุดท้าย แต่ก็งัดฟอร์มเก่งเอาชนะไปได้แบบ 2 เกมรวด ก่อนจะปราบ หลี่ ซีเจี๋ย จากมาเลเซีย เข้าชิงและการันตีเหรียญรางวัลได้สำเร็จ
แม้ว่าในรอบชิง กุลวุฒิ จะต้านทาน วิคเตอร์ อักเซลเซ่น แชมป์เก่าไม่อยู่ แต่แค่นี้ก็พอแล้วสำหรับประวัติศาสตร์ใหม่และเหรียญที่รอคอยของแบดมินตันไทย
5.สนามกีฬาสุดว้าวของเจ้าภาพ
ในทุกโอลิมปิกเกมส์ สิ่งหนึ่งที่มักจะเห็นเจ้าภาพทำก็คือการสร้างสนามใหม่ ซึ่งหลายๆ ครั้งกลายเป็นโบราณวัตถุ หรือไม่ได้ถูกใช้งานได้เทียบเท่ากับงบที่สร้างมันขึ้นมา
แต่ในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ ประเทศฝรั่งเศส สร้างนิมิตหมายของการเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาขึ้นมา นั่นคือการใช้สนามกีฬาที่มีอยู่เป็นหลัก บวกกับการเอาสถานที่สำคัญต่างๆ มาดัดแปลงให้เป็นสนามกีฬา เพื่อเป็นการเผยแพร่ภาพเมืองปารีสไปสู่ชาวโลกได้
อย่างเช่นการใช้พื้นที่สวนภายในพระราชวังแวร์ซายน์ เป็นสนามแข่งขันสำหรับกีฬาขี่ม้า, การสร้างสนามวอลเลย์บอลชายหาดโดยมีพื้นหลังเป็นหอไอเฟล หรือศูนย์รวมกีฬาเอ็กซ์ตรีม ที่จตุรัสคองคอร์ด และยังเป็นสถานที่ตั้งของบอลลูนที่เป็นตัวแทนของคบเพลิงโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้อีกด้วย
และสนามหนึ่งที่จัดได้ว่าเป็นความสวยระดับโลก คือการเนรมิตร กรองด์ ปาเลส์ สถาปัตยกรรมโดมกระจกทรงโค้งที่ถูกใช้เป็นพื้นที่จัดนิทรรศการ จัดงานแสดงสินค้าต่างๆ นำมาเป็นสนามฟันดาบและเทควันโด ที่เมื่อรวมกับการจัดแสงสีเสียง ทำให้สนามแห่งนี้พิเศษอย่างมาก
6.การทวงความยิ่งใหญ่ยกเหล็ก
หนึ่งในชนิดกีฬาที่สร้างความสำเร็จให้กับทัพนักกีฬาไทยมาโดยตลอด นั่นก็คือ ยกน้ำหนัก หลังจากที่ เกษราภรณ์ สุตา คว้าเหรียญรางวัลแรกของยกน้ำหนักไทย ในโอลิมปิกเกมส์ 2000 ที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย จากนั้นมายกเหล็กก็มีเหรียญให้คนไทยได้ชื่นใจทุกครั้ง
อย่างไรก็ตามปัญหาของยกเหล็กไทยเกิดขึ้นเมื่อถูกตรวจพบเรื่องของการใช้สารต้องห้าม ทำให้โดนแบนในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ทำให้ยกเหล็กไทยพลาดการล่าเหรียญรางวัลในโอลิมปิกเกมส์หนก่อนไป
แต่สมาคมกีฬายกน้ำหนักแห่งประเทศไทยฯ ก็ใช้เวลาดังกล่าวในการสร้างสายเลือดใหม่แห่งวงการยกเหล็กไทย และคัมแบ๊กอย่างยิ่งใหญ่ ได้โควต้าไปโอลิมปิกเกมส์ รอบสุดท้าย แค่ 4 คนแต่กลับคว้าได้ถึง 2 เหรียญเงิน จาก “ฟ่าง” ธีรพงศ์ ศิลาชัย รุ่น 61 กก.ชาย, “เวฟ” วีรพล วิชุมา รุ่น 73 กก.ชาย และ 1 เหรียญทองแดง จาก “ออย” สุรจนา คำเบ้า รุ่น 49 กก.หญิง
ถือว่าเป็นการคัมแบ๊กอย่างยิ่งใหญ่ของยกเหล็กไทย ที่วางเป้าสู่เหรียญทองใน แอลเอ 2028 เลยทีเดียว
7.ดราม่าเพศสภาพนักมวย(หญิง)
ในช่วงการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ข่าวหนึ่งที่ถือว่ามาแรงแซงทุกโค้งนั่นคือการที่ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ปล่อยให้นักชกหญิง 2 คนที่ไม่ผ่านการตรวจเพศสภาพลงทำการแข่งขันมวยสากลหญิง
นักชกทั้ง 2 คน คือ อิมาน เคลิฟ ในรุ่น 66 กก. จากแอลจีเรีย และหลิน ยู่ ถิง ในรุ่น 57 กก. จากไต้หวัน ซึ่งทั้งสองคนถูก สมาคมมวยสากลนานาชาติ (ไอบ้า) ลงโทษตัดสิทธิ์ในมวยสากลชิงแชมป์โลก 2023 ที่ผ่านมา
แต่คนที่มีประเด็นหนักที่สุดก็คือ อิมาน เคลิฟ หลังเจ้าตัวขึ้นชกกับแองเจล่า คารินี่ นักชกสาวอิตาลี ในรอบ 16 คนสุดท้าย ซึ่งคารินี่ขอยอมแพ้หลังชกไปได้แค่ 46 วินาทีของยกแรกเท่านั้น ก่อนจะให้สัมภาษณ์ว่าไม่เคยโดนชกหนักขนาดนี้มาก่อน (เปรียบเปรยว่าไม่ใช่แรงชกจากผู้หญิง)
จากนั้นกลายเป็นสงครามระหว่าง ไอบ้า กับ ไอโอซี ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมาในระยะหลังจนไอโอซีตัดสิทธิไอบ้าออกจากการจัดแข่งขันมวยสากลในโอลิมปิกเกมส์
อูมาร์ เครมเลฟ ประธานไอบ้า ออกแถลงการณ์ว่าทั้งสองคนเป็นนักมวยที่ไม่ผ่านการตรวจเพศสภาพ และมีโครโมโซม XY (โครโมโซมเพศชาย) ส่วนทาง มาร์ค อดัมส์ โฆษกไอโอซี ยืนยันว่า หนังสือเดินทางของทั้งคู่ระบุชัดเจนว่าเป็นเพศหญิง ฉะนั้นก็สามารถแข่งขันในประเภทหญิงได้
สุดท้ายแล้ว เคลิฟ กับ หลิน ยู่ถิง ก็สามารถคว้าเหรียญทองในรุ่นของตัวเองได้สำเร็จ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ที่ยังคงมีจนถึงทุกวันนี้
8.อีกครั้งที่ผิดหวังกับมวยสากล(ชาย)
เมื่อพูดถึงชนิดกีฬาที่ทำเหรียญรางวัลให้กับประเทศไทยมากที่สุดในโอลิมปิกเกมส์ ก็ต้องว่ากันถึงมวยสากล เพราะนับตั้งแต่ พเยาว์ พูนธรัตน์ ที่คว้าทองแดงเมื่อปี 1976 มวยสากลของไทยก็มีเหรียญติดมือกลับมาแทบทุกครั้ง
ทว่านับตั้งแต่ที่ แก้ว พงษ์ประยูร คว้าเหรียญเงินในลอนดอน 2012 ปรากฎว่ามวยสากลของไทย โดยเฉพาะมวยชาย กลับมีผลงานที่ตกลงอย่างต่อเนื่อง พลาดเหรียญรางวัลในรีโอ 2016 ส่วนโตเกียว 2020 ก็ได้เหรียญทองแดงจากมวยหญิงอย่าง สุดาพร สีสอนดี เท่านั้น
ซึ่งในครั้งนี้ ต้องบอกว่ามวยสากลของไทยมีผลงานในรอบคัดเลือกที่ดีมากๆ คว้าโควต้ามาได้ถึง 8 ใบ แบ่งเป็นชาย 3 หญิง 5 ท่ามกลางความมั่นใจของสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ว่าจะมีเหรียญทองกลับมาแน่นอน
ทว่าเมื่อเริ่มแข่งขันจริง กลับกลายเป็นว่านักชกไทยต่างทยอยตกรอบไปเรื่อยๆ แม้กระทั่งตัวเต็งอย่าง “เหลิม” ธิติสรรค์ ปั้นโหมด ซึ่งเคยได้เหรียญทองเยาวชนโลก และเหรียญเงินเอเชี่ยนเกมส์ ที่หางโจว กลับตกรอบแรกไปแบบพลิกความคาดหมาย
สุดท้ายผลงานดีที่สุดก็คือ “บี” จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง ที่ได้เหรียญทองแดงรุ่น 66 กก.หญิง กู้หน้าให้กับทัพมวยสากลไทย แต่ก็เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันแล้วที่มวยชาย ไม่มีเหรียญรางวัลติดมือ!
9.ปีของทัพพาราลิมปิกไทย
สิ่งหนึ่งที่ควบคู่มากับโอลิมปิกเกมส์ นั่นก็คือกีฬาคนพิการหรือ พาราลิมปิกเกมส์ ซึ่งครั้งนี้ต้องบอกว่าเป็นปีทองของทัพพาราลิมปิกไทยที่สร้างประวัติศาสตร์อย่างมากมายในการแข่งขันครั้งนี้
โดยทัพพาราไทยปิดฉากการแข่งขันด้วยการจบอันดับ 21 บนตารางเหรียญ ด้วยผลงาน 6 ทอง 11 เงิน 13 ทองแดง รวมทั้งหมด 30 เหรียญ นับเป็นผลงานที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์จากการเข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 11 ครั้ง และทิ้งห่างสถิติเก่าที่เคยทำได้ดีที่สุด 18 เหรียญ ที่บราซิล 2016 และญี่ปุ่น 2020
และหนึ่งในนักกีฬาที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็คือ “แวว” สายสุนีย์ จ๊ะนะ ยอดนักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบของไทย ในวัย 50 ปี ที่สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาหญิงคนแรกของโลกที่คว้า 3 เหรียญทองประเภทบุคคลทั้ง เซเบอร์, ฟอยล์ และเอเป้ ได้สำเร็จ นอกจากนี้ยังมีอีก 1 ทองแดงจากเอเป้ทีมหญิงด้วย
ส่วนชนิดกีฬาที่ทำเหรียญรางวัลมากที่สุดก็คือเทเบิลเทนนิส ที่แม้จะไม่ถึงเหรียญทอง แต่ก็ได้มาถึง 4 เงิน และ 5 ทองแดงด้วยกัน เป็นครั้งแรกที่เข้าชิงชนะเลิศได้ถึง 4 รายการ
นับว่าเป็นผลงานที่น่าจดจำมากๆ ของทัพพาราลิมปิกไทยจริงๆ ครับ
10.สหรัฐแซงเจ้าทองปูทางสู่แอลเอ
ว่ากันถึงการลุ้นตำแหน่งเจ้าเหรียญทอง ต้องบอกว่าเป็นครั้งหนึ่งที่สนุกตื่นเต้นอย่างมาก เพราะลุ้นกันจนถึงอีเวนต์สุดท้ายที่ชิงชัยอย่าง บาสเกตบอลทีมหญิง ก่อนที่สหรัฐจะเอาชนะฝรั่งเศส คว้าเหรียญทองที่ 40 ปาดหน้าจีน คว้าเจ้าเหรียญทองไปแบบที่ต้องวัดกันที่เหรียญเงิน ซึ่งสหรัฐทำได้มากกว่า 44-27 เหรียญเงิน
นับเป็นเจ้าเหรียญทองสมัยที่ 19 และเป็นการคว้าเจ้าเหรียญทอง 4 ครั้งติดต่อกันไปแล้วสำหรับสหรัฐ ซึ่งพวกเขายังมีลุ้นทำสถิติ 5 สมัยติดต่อกัน เพราะว่าในโอลิมปิกเกมส์คราวหน้าจะกลับไปจัดกันที่สหรัฐอีกครั้งใน แอลเอ 2028
แล้วในพิธีปิดก็ต้องบอกเลยว่าสหรัฐเล่นใหญไฟกระพริบ เมื่อให้ ทอม ครูซ นักแสดงฮอลีวู้ดชื่อดังจากภาพยนต์เรื่อง Mission Impossible โรยตัวลงมาจากหลังคาสต๊าด เดอ ฟร้องซ์ เพื่อรับธงเจ้าภาพครั้งต่อไป
บอกเลยว่าอดใจรอให้ถึง 4 ปีหน้าที่ลอส แองเจลิส ไม่ไหวแล้ว…