เครือข่ายมิจฉาชีพไม่ได้เกิดขึ้นแค่ที่ประเทศไทย แต่ระบาดไปทั่วโลก หลายคนสูญเสียทรัพย์สิน ถึงขั้นจบชีวิต ไปแจ้งความก็มีโอกาสน้อยมากที่จะได้เงินกลับมา บางคนจึงคิดหาวิธีเอาคืนในแบบฉบับของตัวเอง
หนึ่งในผู้ที่ทำสำเร็จคือหนุ่มชาวไต้หวันรายหนึ่งซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อ ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องการเอาคืนแก๊งมิจฉาชีพของตนกับสำนักข่าว Taiwan EBC News
ชายไต้หวันรายนี้เล่าว่า พ่อของเขาตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงให้ลงทุนออนไลน์ หลังมีมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นผู้หญิง ชักจูงให้ลงทุนเป็นจำนวนเงิน 700,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 728,000 บาท) และยังโน้มน้าวให้พ่อของเขาติดตั้งแอพพลิเคชั่นที่ไม่รู้จักในโทรศัพท์อีกด้วย
“กลุ่มมิจฉาชีพเรียกพ่อผมว่า ‘พ่อ’ และถามอยู่ตลอดว่า ‘สบายดีไหม? ทานข้าวเย็นหรือยัง? หลับสบายไหม?’ พวกเขาถามถึงสุขภาพของพ่อตลอดเวลา”
แอพพ์แสดงให้เห็นว่าเงินลงทุนทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 1.3 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 1.35 ล้านบาท) และแสดงผลกำไรมากกว่า 600,000 ดอลลาร์ไต้หวัน จากเงินลงทุนตอนแรก 700,000 ดอลลาร์ไต้หวัน เมื่อพ่อของเขาต้องการที่จะถอนเงิน มิจฉาชีพกลับบอกว่า “คุณต้องมียอดถึงจำนวนหนึ่งก่อนถึงจะถอนได้” ลูกชายเริ่มสงสัยหลังจากที่พ่อบ่นเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
“หลังจากพ่อของผมเล่าถึงประสบการณ์เลวร้ายของเขา ผมกลับบ้านและเริ่มดูวิดีโอต่อต้านการหลอกลวงบนยูทูบ แล้วไปเจอคลิปหนึ่งบอกว่า ‘คุณต้องมีเหยื่อที่ใหญ่กว่าที่คุณเสียไป จึงจะมีโอกาสเอาเงินของคุณคืนมา’”
เขาจึงเริ่มเอาคืนมิจฉาชีพ โดยบอกเพื่อนสองคนของเขา ประทับใจกับผลกำไร อยากจะลงทุน 500,000 และ 1 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน ด้วยความโลภ มิจฉาชีพก็ตกหลุมพราง ลูกชายจึงเริ่มแผนการขั้นที่ 2 โดยแสดงความต้องการเงินอย่างเร่งด่วนโดยอ้างเรื่องปัญหาครอบครัว และขอถอนเงิน 700,000 ดอลลาร์ไต้หวันจากกำไรที่อ้างว่าได้รับ
ในตอนแรก กลุ่มมิจฉาชีพลังเลที่จะทำตาม แต่ลูกชายได้พูดคุยโน้มน้าวเป็นเวลาหลายชั่วโมง โดยแสดงบทบาทเป็น ‘นักลงทุน’ ที่สนใจสองคน และสอบถามรายละเอียดการลงทุนอย่างจริงจัง
ในที่สุด เมื่อเห็นโอกาสที่จะได้เงินก้อนใหญ่ กลุ่มมิจฉาชีพจึงตกลงคืนเงินให้ผู้เสียหายแล้ว นั่นทำให้ลูกชายได้เงิน 700,000 ดอลลาร์ไต้หวันคืนมาให้พ่อของเขา
อย่างไรก็ตาม พวกมิจฉาชีพก็อ้างว่าแอพแสดงผลกำไร 2.35 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 2.44 ล้านบาท) แต่ต้องจ่ายภาษี 5-10 เปอร์เซ็นต์ก่อนจึงจะถอนเงินได้ แต่คราวนี้พ่อของเขาไม่ได้หลงกลอีกต่อไป
ขอบคุณ ข่าวสด
