คิมซังซิก โค้ชเวียดนาม ลั่น "มาเพื่อชนะ" ก่อนเกมชี้ชะตาแย่งเจ้าอาเซียนกับทีมชาติไทย วันอาทิตย์นี้ เชื่อว่า "ช้างศึก" จะมาอย่างดุดันแน่นอน แต่พร้อมรับมือการแข่งขันฟุตบอลอาเซียนคัพ 2024 รอบชิงชนะเลิศ นัดชี้ชะตา นัดที่ 2 “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย อันดับ 97 ของโลก พบ “ดาวทอง” เวียดนาม อันดับ 114 ของโลก ที่ราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 5 ม.ค. 68 เวลา 20.00 น. ถ่ายทอดสด ไทยรัฐทีวี, ไทยรัฐออนไลน์ ทั้งเฟซบุ๊ก ยูทูบ, เว็บไซต์/AIS PLAY/ยูทูบ BG SPORTS/เฟซบุ๊ก นกพลัส/True sport2 ช่อง 667
สำหรับนัดแรก เวียดนาม ชนะมาก่อน 2-1 จาก เหงียนซวนซอน ทั้ง 2 ประตู ส่วนไทยตีไข่แตกจาก เฉลิมศักดิ์ อักขี โดยจะนับผลรวม 2 นัด ไม่มีกฎอเวย์โกล ทั้งนี้ทีมชาติไทย เป็นแชมป์มาสูงสุด 7 สมัย จาก 14 ครั้งที่ผ่านมา รวมทั้งลุ้นเป็นทีมแรกที่ได้แชมป์ 3 สมัยติด ส่วน เวียดนาม เป็นแชมป์มา 2 สมัย
ล่าสุด วันที่ 4 ม.ค. 68 มีการแถลงข่าวก่อนเกม คิม ซัง ซิก เฮดโค้ชเวียดนาม ชาวเกาหลีใต้ กล่าวว่า พอใจกับชัยชนะเกมแรก แต่ต้องลืมไปก่อน เพราะต้องโฟกัสกับชัยชนะในวันอาทิตย์ เป็นเกมที่ยาก เพราะต้องมาเยือน สำหรับทีมชาติไทย เคยแพ้มาแล้ว แต่ก็กลับมาได้ เชื่อว่าไทยจะพยายามเพิ่มความดุดัน ความกระหายที่จะเอาชนะ เวียดนามต้องพยายามเล่นตามที่ซ้อม และเตรียมตัวให้ดีที่สุด หวังว่าเกมนี้จะเป็นเกมที่ดี และเวียดนามจะพยายามคว้าแชมป์มาครอง
ส่วนเรื่องกระแสแฟนบอลนั้น ซังซิก กล่าวว่า นัดแรกเวียดนามได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากแฟนบอลในเกมเหย้า ตนได้ยินว่าแฟนบอลไทยจะมาเต็มสนาม คิดว่าการมีแฟนบอลจำนวนมากเข้ามาชมเกม ไม่น่าจะมีผลต่อนักเตะและทีม ต้องพยายามมีสมาธิ เล่นให้ตามแผนที่ซ้อม ซึ่งก็เตรียมตัวมาพร้อมแล้ว
“นี่ไม่ใช่การเจอกันระดับสโมสร และไม่ใช่ ญี่ปุ่นเจอกับเกาหลีใต้ แต่แน่นอนว่า จะเป็นเกมที่ตื่นเต้น ผมกำชับนักเตะตั้งแต่ก่อนมาที่นี่แล้วว่าเรามี 2 เป้าหมาย คือชนะ และชนะเท่านั้น สิ่งสำคัญคือหัวใจที่แข็งแกร่ง ในการลงสนามในเกมนี้ ได้เน้นย้ำอีกว่า เรามาที่ประเทศไทย เพื่อชนะทีมชาติไทย และเอาผลการแข่งขันที่ดีกลับไปให้ได้” ซังซิก กล่าว พร้อมระบุว่า สภาพอากาศที่แตกต่างไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะใน 1 เดือน เราต้องลงสนามถึง 8 เกม ทุกคนต่างล้าทั้งกายและใจ ได้รับประสบการณ์มากมาย แต่มาถึงจุดนี้ได้
กุนซือชาวเกาหลีใต้ กล่าวต่อไปว่า ตนมาคุมเวียดนามได้ 6 เดือนแล้ว ยอมรับว่า วันแรกที่เข้ามาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะไม่รู้เลยว่า สไตล์การเล่นเป็นอย่างไร รวมถึงการใช้ชีวิตต่างๆ แต่พยายามเป็นพิเศษ ในการอยู่ใกล้ชิดกับนักกีฬา ทั้งในห้องแต่งตัว ห้องแพทย์ พยายามเข้าหานักเตะเพื่อเรียนรู้กันและกันให้มากขึ้น จากการได้เก็บตัว ได้ฝึกซ้อมร่วมกัน ทำให้ตอนนี้มีความเข้าใจกันมากขึ้น ทำให้ได้ผลการแข่งขันตามที่ต้องการในช่วงที่ผ่านมา
ส่วนนักเตะ โจว หง็อก กวาง กล่าวว่า ไม่ใช่เกมที่ง่ายแน่นอน แต่คิดว่าพร้อมเต็มที่ เกมนี้ไม่ได้สำคัญแค่กับนักเตะและสตาฟฟ์ แต่สำหรับชาวเวียดนามทุกคน นี่คือเกมสุดท้ายของรายการนี้ จะพยายามทำให้ดีที่สุด
