การแข่งขันพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023/24 ในวันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2568 คู่ที่แฟนบอลให้ความสนใจมาก ก็คือ ลิเวอร์พูล พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เวลา 23.00 น. ผลการแข่งขันขันจะเป็นอย่างไร วันนี้เราไปวิเคราะห์กันค่ะ

หลังจากที่แพ้ นิวคาสเซิล คาบ้าน แมนฯ ยูไนเต็ด หล่นมาอยู่อันดับ 14 มีแต้มมากกว่าโซนหนีตกชั้น 7 แต้ม และ รูเบน อโมริม บอกว่าพวกเขาต้องหนีตกชั้น

ครั้งสุดท้ายที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ตกชั้น คือสิ้นสุดฤดูกาล 1973-74 และพวกเขาคือ 1 ใน 6 ทีม ที่ไม่เคยตกชั้นเลย นับตั้งแต่ลีกสูงสุดเปลี่ยนเป็นพรีเมียร์ลีก เมื่อปี 1992

อโมริม ได้รับการแต่งตั้งเมื่อ พ.ย. 2024 พาทีมเก็บได้แค่ 7 จากทั้งหมด 24 คะแนน ชนะแค่ 2, เสมอ 1 และแพ้ถึง 5 นัด ในพรีเมียร์ลีก 8 นัด

ครั้งสุดท้ายที่ แมนฯ ยูไนเต็ด อันดับต่ำกว่าที่ 14 เมื่อถึงปีใหม่ คือปี 1989 ซึ่งพวกเขาอยู่ที่ 15 และฤดูกาลนั้น เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พาทีมจบที่ 13 แต่ได้แชมป์เอฟเอคัพ

ยังมีสถิติด้านลบอีกนับไม่ถ้วน ที่เกิดกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ตอนนี้ และบางที มันอาจจะแย่กว่านี้ได้อีก เมื่อนัดต่อไป พวกเขาต้องไปเยือน แอนฟิลด์ เพื่อทำ “ศึกแดงเดือด” กับจ่าฝูงที่กำลังร้อนแรงสุดๆ อย่าง ลิเวอร์พูล

แถมหลังจากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ยังต้องไปเยือน เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เพื่อเตะเอฟเอ คัพ รอบ 3 กับ อาร์เซนอล ในสัปดาห์หน้าด้วย

จากนี้จึงเป็นงานหนักจริงๆ สำหรับ อโมริม และลูกทีม จะผ่านไปได้หรือไม่ แดงเดือดนัดนี้ อาจเป็นผู้ให้คำตอบ

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

ลิเวอร์พูล – แมนฯยูไนเต็ด

วันที่: อาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2568

เวลา: 23.30 น.

สนาม: แอนฟิลด์

ถ่ายทอดสด: ทรู พรีเมียร์ 1

ลิเวอร์พูล

“หงส์แดง” ยังผลงานร้อนแรง เกมส่งท้ายปี บุกไปยำ เวสต์แฮม 5-0 ทำให้ชนะในลีก 3 เกมติดต่อกัน และลงเตะ 18 นัด ชนะ 14 เสมอ 3 แพ้แค่เกมเดียว มี 45 คะแนน นำโด่งเป็นจ่าฝูง เกมนี้ อาร์เนอ สลอต จะได้ โดมินิก โซโบซไล มิดฟิลด์ฮังการี พ้นโทษแบนกลับมา ขณะที่ คอนอร์ แบรดลีย์, อิบราฮิมา โกนาเต และ โจ โกเมซ ยังมีอาการบาดเจ็บ

แต่ที่เหลือพร้อมลงสนาม และจัดชุดใหญ่แน่ โดยมี อลิสซง เบคเกอร์ ลงเฝ้าเสา แดนหลังใช้ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ กับ จาร์เรลล์ ควานซา เป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ แล้วใส่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เป็นแบ๊กขวา-ซ้าย แดนกลางมี ไรอัน กราเฟนแบร์ก, เคอร์ติส โจนส์ และ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ทำเกม ส่วนเกมรุกจัด โม ซาลาห์, โคดี กักโป และ หลุยส์ ดิอาซ ล่าตาข่าย

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

“ผีแดง” อยู่ในช่วงฟอร์มแย่สุดๆ แม้จะเปลี่ยนโค้ชมาเป็น รูเบน อโมริม แล้วก็ตาม โดยล่าสุดบุกไปถูก นิวคาสเซิล ถล่ม 0-2 ในเกมส่งท้ายปี ทำให้แพ้ถึง 5 จาก 6 เกมหลังในลีก และลงเตะไปแล้ว 19 นัด หรือครึ่งฤดูกาล เพิ่งมีแค่ 22 คะแนน อยู่ที่ 14 ห่างจาก อิปสวิช ทีมอันดับ 18 แค่ 7 คะแนน

เกมนี้ อโมริม จะได้ บรูโน แฟร์นันด์ส และ มานูเอล อูกาเต 2 มิดฟิลด์พ้นโทษแบนกลับมา แต่ เมสัน เมาท์, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ และ ลุค ชอว์ ยังเจ็บ

โดยการจัดทัพใช้ อังเดร โอนานา เฝ้าเสา แดนหลัง 3 คนเป็น มาไธส์ เดอ ลิกต์, แฮร์รี แม็คไกวร์ และ ลิซานโดร มาร์ติเนซ โดยมี ดีโอโก ดาโลต์ กับ นุสแซร์ มาสราอุย เป็นวิงแบ๊ก 2 ข้าง แดนกลางส่ง อูกาเต กับ ค็อบบี เมนู คุมเกม แล้วใส่ บรูโน, อาหมัด ดิยัลโล และราสมุส ฮอยจ์ลุนด์ เป็น 3 ประสานเกมรุก

ความน่าจะเป็นของเกม

เจอกันนัดแรก ลิเวอร์พูล บุกไปถล่ม 3-0 และเทียบฟอร์ม ความมั่นใจ สภาพทีม รวมถึงความได้เปรียบจากการเล่นในบ้านถือว่าลิเวอร์พูลเป็นต่อทุกอย่าง และยิ่งเล่น ยิ่งมั่นใจ ไม่ว่าสถานการณ์ไหน ก็กลับมาชนะได้หมด ต่างจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ความมั่นใจแทบไม่เหลือ ระบบทีมก็ยังไม่ลงตัว นักเตะยังมึนงงกับระบบใหม่ ไม่รู้ตำแหน่ง หน้าที่ของตัวเองเท่าที่ควร ทำให้เป็นแดงเดือดที่ลิเวอร์พูลเป็นต่อพอสมควรและผีแดงต้องงัดฟอร์มเทพสุดๆเท่านั้น ถึงจะมีแต้มกลับบ้าน แต่ดูแล้ว เป็นไปได้ยาก และเจ้าถิ่นน่าจะถล่มเอาชนะไปได้ไม่ยาก

ผลที่คาด

ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1