"จักรภพ-ป๊อบ" พบ "ทักษิณ" เชิญเป็นสักขีพยานจดทะเบียนสมรส ต้อนรับ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ด้านอดีตนายกฯ แนะดูฤกษ์ตามโบราณประเพณี
เมื่อวันที่ 4 ม.ค.68 นายจักรภพ เพ็ญแข อดีต รมต.ประจำสำนักนายก และอดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันที่ 3 ม.ค.ตนพร้อมด้วย "ป๊อบ"สุไพรพล ช่วยชู หรือ เดินทางเข้าพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เพื่อเรียนเชิญเป็นสักขีพยานในการจดทะเบียนสมรส รับกฎหมาย พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ที่ประเทศไทยจะประกาศใช้ ในวันที่ 22 ม.ค.68
นายจักรภพ กล่าวว่า การเข้าพบครั้งนี้ เพื่อขอคำปรึกษานายทักษิณ เกี่ยวกับการจดทะเบียนสมรสและการฉลองแต่งงานของเรา ในฐานะที่นายทักษิณเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดัน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ในนามพรรคเพื่อไทย(พท.)จนนำไปสู่ประกาศใช้ในวันที่ 22 ม.ค.นับเป็นวันประวัติศาสตร์ของประเทศไทยและโลก ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความหมายมาก เพราะว่าคนเพศเดียวกันหรือที่เรียกว่า LGBTQ+ ก็สามารถจดทะเบียนสมรสได้ เหมือนกับมนุษย์คนอื่นในโลกนี้ เพื่ออยู่ภายใต้ระบบกฎหมายเดียวกัน โดยนายทักษิณเมตตาให้คำปรึกษาอย่างผู้ใหญ่ในครอบครัวทั้งในเรื่องวัน เวลา รูปแบบ แม้แต่ฤกษ์ผานาที โดยย้ำว่าต้องยึดหลักโบราณเพื่อหาวันที่เหมาะสม
นายจักรภพ กล่าวอีกว่า สำหรับเส้นทางความรักของตัวเองว่า คบหาดูใจกับ คุณป๊อบมายาวนานถึงกว่า 23 ปี พอ ๆ กับ การผลักดัน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม เมื่อปี 44 ที่รัฐบาล นำโดยอดีตนายกฯทักษิณ เริ่มเสนอแนวคิดให้คนรักเพศเดียวกันสามารถจดทะเบียนสมรสได้ตามกฎหมาย แต่ต้องยุติลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากกระแสสังคมต่อต้าน รัฐบาลจึงมองเห็นว่าสังคมไม่พร้อม เรื่องนี้จึงตกไป ต่อมา ปี 55 มีการเรียกร้องจากกลุ่ม LGBTQ+ ต้องการจดทะเบียนสมรส แต่ถูกปฏิเสธ จึงได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ต่อมาในปี 56 สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็มีผลักดันให้มีกฎหมายรองรับของกลุ่ม LGBTQ+ อีกครั้ง โดยได้ยื่นเสนอร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิตเพื่อให้ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร แต่ไม่สำเร็จ และยุติลงในปี 57 หลังจากนั้นก็มีการเคลื่อนไหวจากภาคประชาชนและพรรคการเมือง และกระแสโลก ที่เรียกร้องสมรสเท่าเทียม และมีการเดินหน้าอย่างจริงจัง จนนำไปสู่ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ในสมัยรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี และจะประกาศใช้ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมอย่างเป็นทางการ ในรัฐบาลของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นับเป็นการผลักดันต่อสู้อย่างยาวนานของพรรคพท. ในการสร้างประวัติศาสตร์ไทยและประวัติศาสตร์โลกจนประสบความสำเร็จในที่สุด