พิชัย กล่อม 14 บริษัทญี่ปุ่น เพิ่มลงทุนในไทย คาดดึงดูดเงินอีก 2-3 หมื่นล้านบาท

วันที่ 20 ธันวาคม เวลา 16.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการเยือนกรุงโตเกียววันแรก ได้มีการประชุมร่วมและรับฟังสถานการณ์การค้าและการลงทุนกับผู้ประกอบการญี่ปุ่น 14 ราย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผู้การลงทุนอย่างต่อเนื่องแล้วในประเทศไทย เช่น องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ JETRO , Mitsubishi Electric Corporation , บริษัท Toray , Hitachi เป็นต้น กอบด้วย GS Yuasa International , Extrabold Corporation , Hitachi , Scheme Verge , SIIX , Mitsubishi Electric Corporation และ Softbank รวมถึง JETRO, JICA, แบงค์กรุงเทพในญี่ปุ่น สำนักงาน BOI โตเกียว เป็นต้น

นายพิชัย กล่าว่า ผู้ประกอบการรายใหญ่ อย่าง Nippon Steel Corporation ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ ยังให้ความมั่นใจที่จะลงทุนเพิ่มในประเทศไทย อีกประมาณ 10,000 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม ยังแสดงความกังวลจากปัญหากรณีเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กนำเข้าจากจีน มีการดัมพ์หรือกำหนดราคาขายต่ำกว่าท้องตลาด ซึ่งจะมีผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อบริษัท ซึ่งเป็นทั้งผู้ผลิตครบวงจร ซึ่งเรื่องนี้ตนได้รับเรื่องแล้ว เพื่อที่ดูว่าจะสามารถดำเนินการอย่างไรต่อไปได้

นอกจากนี้ ได้หารือองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น(JETRO ) ได้แสดงความเป็นห่วงในเรื่องของกำลังซื้อภายในประเทศไทย ด้วยไทยกำลังประสบปัญหาเรื่องหนี้สินครัวเรือนค่อนข้างสูง และภาวะต้นทุนคงสูงในหลายหลายเรื่อง เช่น อัตราดอกเบี้ยของไทย รวมถึงค่าเงินบาทผันผวน เรื่องนี้ จะประสานไปที่กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย ดูแล จากที่ภาคเอกชนแสดงความกังวล

พร้อมกันนี้ ส่วนผู้ประกอบการรายอื่นๆ ยังแสดงความสนใจลงทุนในไทย แต่เขายังมีความวิตกในหลากหลายประเด็น เช่น แก้กฎระเบียบ การขอลดขั้นตอนการยื่นขอสิทธิพิเศษด้านการลงทุน(บีโอไอ)ที่ยังเป็นอุปสรรคอยู่

นอกจากนี้ ตนได้พบผู้บริหาร NTT Data Corporation ด้านดาต้าเซ็นเตอร์ มีแผนจะลงทุนทั่วโลก ต่อเนื่อง ซึ่งเราได้เชิญชวนมาลงทุนในไทยด้วย

สำหรับบริษัทผู้ผลิตเหล็กแบบครบวงจร ที่มีขนาดใหญ่อันดับที่ 4 ของโลก Nippon Steel Corporation (NSC) ก็สนใจที่จะมาลงทุนเพิ่มซึ่งระบบการผลิตเหล็กของเขาเป็นแบบครบวงจร ยังมีปัญหาเรื่องการถูกดั๊มราคาสินค้าและมีสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาเยอะจนอาจเป็นปัญหาได้ แต่ทางบริษัทฯมั่นใจว่าจะลงทุนที่ไทย ซึ่งทางบริษัทฯลงทุนที่ไทยมาแล้ว 60 ปี และจะมาลงทุนอีกหลายหมื่นล้านบาท ตนจึงให้ความมั่นใจในกว่ารัฐบาล และกระทรวงพาณิชย์จะให้การช่วยเหลือในทุกทาง โดยไทยเป็นเป็นประเทศที่ทาง NSC มาลงเป็นอันดับสาม รองจาก อเมริกาและอินเดีย เราจะช่วยแก้ไขปัญหาให้เขามาลงทุนในประเทศไทยได้ ต้องเห็นคุณค่าไม่เช่นนั้นจะไม่มีใครอยากมาอยู่ที่เมืองไทย

“ การมาครั้งนี้ ผมมั่นใจ จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะให้ความมั่นใจกับนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในไทย ว่า จะสามารถดูแลและลดข้อกังวลต่างๆจากที่ได้พบปะพูดคุย ซึ่งเบื้องต้น ผมเชื่อว่าจะเกิดเม็ดเงินลงทุนใหม่ในไทยอีกกว่า 2-3 หมื่นล้านบาทในเร็วๆนี้ และญี่ปุ่นยืนยันมุ่งเป็นเบอร์หนึ่งของต่างชาติเข้าลงทุนในไทย ” นายพิชัย กล่าว

นายพิชัย ยังกล่าวถึงภาพรวมแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่น โดยมองว่า ในปี 68 แม้ว่าขณะนี้ค่าเงินอ่อน ะส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าของญี่ปุ่นได้มากขึ้น แต่ผลเสียก็จะทำให้นำเข้าสินค้ามีราคาสูงขึ้น ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่า ทางรัฐบาลญี่ปุ่นจะเดินหน้าแก้ปัญหาเรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 21 ธันวาคม เป็นวันที่สองของการเยือน กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นายพิชัย จะเป็นสักขีพยานในกิจกรรมประชาสัมพันธ์ยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์สินค้าและบริการไทย (Think Thailand – Next Level) ที่ ห้าแยกชิบูย่า และพบภาคเอกชน