ฟอร์ดโชว์ 7 ทีเด็ด‘เรนเจอร์’
ไลฟ์สไตล์อเนกประสงค์

ปี2567 ตลาดรถปิกอัพปิดไปอย่างเหนื่อยล้า ยอดขาย 11 เดือน ร่วงไปถึง 34.4% สะท้อนสภาพเศรษฐกิจได้ชัดมาก เพราะปิกอัพส่วนใหญ่ใช้เป็นเครื่องมือทำมาหากิน

อย่างไรก็ตาม ในบรรดาปิกอัพ ท็อปทรี 3 อันดับแรก ต้องถือว่าค่ายฟอร์ดไม่ธรรมดา เพราะสามารถรักษาตำแหน่งนี้มาได้อย่างยาวนาน ด้วยส่วนแบ่งการตลาดล่าสุด เดือน พ.ย.67 ได้ถึง 8.4% แม้ว่าจะยังห่างโตโยต้า อีซูซุ อยู่ไกล แต่การรักษาตำแหน่งนี้ไว้ได้ ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดถือว่าต้องมีสิ่งดึงดูด นั่นก็คือรูปร่างหน้าตาและสมรรถนะ

ฟอร์ด เรนเจอร์ ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานหลากหลาย ทั้งเพื่อการทำงาน การเดินทางกับครอบครัว และการออกทริปสำหรับวันพักผ่อน

ล่าสุด ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดตัว ฟอร์ด เรนเจอร์ XLS ใหม่ รุ่นปี 2024 กระบะสี่ประตูยกสูงเกียร์อัตโนมัติ ดีไซน์ภายนอกและภายในใหม่ดูสปอร์ตและหรูหรายิ่งขึ้น และเพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์อเนกประสงค์

การออกแบบฟีเจอร์นวัตกรรมใหม่ๆ ของฟอร์ด ล้วนมาจากผู้ใช้งานจริง ฟอร์ดได้พูดคุยกับผู้ใช้งานหลายพันคนและจัดเวิร์กช็อปหลายสิบครั้งทั่วโลก เพื่อให้เข้าใจความต้องการที่แท้จริงของผู้ใช้รถกระบะ

ฟอร์ดได้แนะนำ 7 ฟีเจอร์เอกลักษณ์เด่นในฟอร์ด เรนเจอร์ สามารถใช้งานได้แบบอเนกประสงค์ ได้แก่

1.บันไดเหยียบข้างกระบะท้าย ขึ้นลงและขนย้ายของอย่างง่ายดาย หลังจากพบว่าผู้ใช้งานต้องปีนขึ้นไปบนล้อรถยนต์ หรือพยายามดันตัวเองข้ามขอบกระบะท้าย ไม่สะดวกในการใช้งาน

2.ราวหลังคาและสปอร์ตบาร์แบบปรับได้ (Flexible Rack System) กรณีต้องบรรทุกของที่มีลักษณะยาว บางครั้งต้องติดตั้งแร็คหลังคาเสริมบนรถกระบะ ทำให้ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เจ้าของรถที่จำเป็นต้องบรรทุกอุปกรณ์ เช่น ลองบอร์ด เรือคยัค หรือไม้อยู่บ่อยครั้ง จะใช้ประโยชน์จากราวหลังคาและสปอร์ตบาร์แบบปรับได้ (Flexible Rack System) ที่ติดตั้งมากับฟอร์ด เรนเจอร์ สตอร์มแทรคได้ โดยสามารถปรับรูปแบบสปอร์ตบาร์ด้วยการเลื่อนจุดล็อกได้ 5 ตำแหน่งด้วยมือเดียว

3.ระบบไฟส่องสว่างแบบแบ่งโซน (Zone Lighting) การใช้งาน หรือการตั้งแคมป์ในยามกลางคืนจะง่ายขึ้นด้วยระบบไฟส่องสว่างแบบแบ่งโซน (Zone Lighting) บนฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร วี 6 ควบคุมได้ผ่านหน้าจอสัมผัสในรถ หรือแอพพลิเคชั่น FordPass บนสมาร์ทโฟน ช่วยให้มีแสงสว่างรอบตัวรถ โดยเลือกเปิดปิดเฉพาะบางโซน หรือทุกโซนพร้อมกันได้ถึง 4 โซน ขึ้นอยู่กับว่าต้องการแสงสว่างบริเวณส่วนไหนของรถ

4.กระบะท้ายแบ่งสัดส่วน จัดการพื้นที่ได้ตามใจ ทีมงานฟอร์ดออกแบบพื้นปูกระบะท้ายให้ผู้ใช้งานจัดสรรพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนได้เองด้วยแผ่นไม้อัด และสามารถเก็บอุปกรณ์ในกระบะท้ายได้อย่างเป็นระเบียบตามต้องการ รวมถึงลดความเสี่ยงที่อุปกรณ์จะเคลื่อนที่ไปมาจนเกิดความเสียหายได้

5.ฝาท้ายอเนกประสงค์ เปลี่ยนเป็นโต๊ะทำงานได้ทุกที่ด้วยจุดยึดอุปกรณ์ช่างและไม้บรรทัดในตัวเพื่อให้ลูกค้าทำงานต่างๆ ได้แบบอเนกประสงค์ ด้วยการเปลี่ยนฝาท้ายเป็นโต๊ะทำงานเคลื่อนที่ได้ โดยมีจุดยึดอุปกรณ์ช่าง 2 จุด มาพร้อมกับไม้บรรทัดวัดขนาดแบบ Built-in (ในรุ่นที่ไม่ติดตั้งพื้นปูกระบะเสริม) แบ่งระยะวัดทุก 10 มิลลิเมตร สำหรับวัดขนาดวัตถุต่างๆ ที่ใช้ในการทำงานได้

6.จุดยึดสำหรับอุปกรณ์เสริม พร้อมสำหรับปรับแต่งตามสไตล์ของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นฝาปิดกระบะท้าย หรือเต็นท์พับ เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตทั้งด้านการทำงาน การพักผ่อน และการเดินทางไปพักผ่อนกับครอบครัว

7.ฟอร์ดพาส ดูแลรถง่ายแค่ปลายนิ้ว ลูกค้าสามารถดูแลและจัดการรถฟอร์ดของตนเองได้ง่ายๆ ผ่านแอพพลิเคชั่น ‘ฟอร์ดพาส’ เพื่อเชื่อมต่อกับรถได้ตลอดเวลา ยกระดับประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถ ด้วยฟีเจอร์น่าสนใจ เช่น การสตาร์ตรถจากระยะไกล ตรวจเช็กข้อมูลรถเบื้องต้น รวมถึงการล็อกและปลดล็อกจากระยะไกลผ่านสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ ยังสามารถนัดหมายรับบริการออนไลน์ผ่านแอพพลิเคชั่นได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการเรียกใช้หน่วยบริการเคลื่อนที่ ใช้บริการรับ-ส่งรถนอกสถานที่ หรือเข้ารับบริการ Express Service รับประกันเช็กระยะใน 60 นาที เป็นต้น

ถือว่าเป็นทีเด็ดที่ทำให้เชื่อได้ว่า ฟอร์ด เรนเจอร์ จะยังคงรักษาตำแหน่งท็อปทรีไว้ได้ต่อไป หากไม่สะดุดขาตัวเองไปซะก่อน