250 แรงงานไทยเคว้งกลางสนามบินสุวรรณภูมิ ถูกตุ๋นไปทำงานต่างประเทศ ถึงเวลานัดเจอลอยแพ สูญ 12 ล้าน เตรียมแจ้งกองปราบวันนี้
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 5 มกราคม กลุ่มแรงงานไทยทั้งชายหญิงเกือบ 50 ชีวิต เข้าแจ้งความ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ หลังจากที่ผู้เสียหายทั้งหมดได้โอนเงินให้กับหญิงสาวรายหนึ่ง เพื่อจะเดินทางไปทำงานการเกษตรและอุตสาหกรรมในต่างประเทศ โดยนัดเดินทางที่สนามบินสุวรรณภูมิในช่วง 22.00 น. วันที่ 4 มกราคม แต่พอใกล้เวลาผู้เสียหายทั้งหมดไปเช็กตั๋วเดินทางกลับไม่พบข้อมูลการจองตั๋วเที่ยวบินแต่อย่างใด
นางสลิลทิพย์ หนึ่งในผู้เสียหาย ชาว จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ลูกของตนได้รับการติดต่อจากคนรู้จักกัน ชักชวนให้ไปทำงานด้านการเกษตร มีรายได้ดี จึงตอบตกลงและโอนเงิน 60,000 บาท ให้กับ น.ส.ออย ที่อ้างว่าเป็นตัวแทนในการจัดหาคนงานไปทำงาน โดยนัดบินในค่ำคืนนี้ จึงพากันเดินทางมาที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่พอมาถึงไม่พบว่ามีการจองตั๋วเครื่องบินแต่อย่างใด
ด้าน นายธนายุทธ อายุ 36 ปี ชาว จ.สกลนคร ระบุว่า โอนเงินไป 120,000 บาท และเหมารถเดินทางมาจาก จ.สกลนคร ซึ่งได้รับการชักชวนจาก น.ส.ออย เนื่องจากมีการระบุเชิญชวนว่าหากไปทำงานจะได้รับเงินเดือนเฉลี่ยเดือนละ 70,000 บาท โดยจะต้องเสียค่าใช้จ่ายรวมเงินกว่า 2 แสนบาท แต่ต้องจ่ายก่อน 120,000 บาท ที่เหลือหักจากเงินเดือน ที่หลงเชื่อใจเพราะมีการบอกกันปากต่อปากว่าสามารถพาไปทำงานได้จริง
ขณะที่ น.ส.ออย อายุ 28 ปี อ้างว่า ตกเป็นผู้เสียหายเช่นกัน เพราะไปรู้จักกับรุ่นพี่ที่เคยทำงานด้วยกันชื่อฟ้า ชักชวนว่าถ้าสามารถพาคนไทยไปทำงานที่ต่างประเทศได้ จะได้ค่าตอบแทนหัวละ 2,000 บาท ส่วนใครที่จะไปทำงานจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางตั้งแต่ 30,000-60,000 บาท หรือบางคน 1-1.5 แสนบาท แล้วแต่ระยะเวลาที่จะอยู่ทำงานที่นั่น จึงเอาเรื่องราวดังกล่าวไปบอกกับญาติพี่น้อง ว่าหากใครจะไปสามารถติดต่อตนได้และโอนค่าใช้จ่ายผ่านตน โดยทุกครั้งที่มีเงินเข้ามาผ่านบัญชีตนจากผู้เสียหายก็จะเบิกเงินฝากเป็นเช็คให้กับ น.ส.ฟ้า และนัดมอบเช็คกับ น.ส.ฟ้า ที่หน้าสถานทูตซึ่งรวมผู้เสียหายแล้วประมาณ 250 คน รวมเป็นเงินที่นำฝากผ่านเช็กให้กับ น.ส.ฟ้า ไปกว่า 12 ล้านบาท
ขณะที่ ร.ต.อ.ชนธัญ พรหมรักษา รอง สว.(สอบสวน) สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ออกมาแนะนำกลุ่มผู้เสียหาย เบื้องต้นผู้เสียหายจะต้องแจ้งความร้องทุกข์กับทางพนักงานสอบสวนในท้องที่ที่มีการโอนเงิน แต่เนื่องด้วยผู้เสียหายมีจำนวนมากและมูลค่าความเสียหายเยอะ จึงมีการแนะนำให้กลุ่มผู้เสียหายรวมตัวกันไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อสะดวกกับการทำสำนวนคดี โดยผู้เสียหายทั้งหมดนัดรวมตัวเตรียมเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทางพนักงานสอบสวนที่กองปราบปรามในวันที่ 6 มกราคม ในเวลา 10.00 น.
นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน กล่าวว่าแนะนำให้ผู้เสียหายร้องทุกข์ที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ในวันที่ 6 มกราคมในส่วนการดำเนินการช่วยเหลือคนหางานกรณีดังกล่าวในเบื้องต้น กระทรวงแรงงานโดย กกจ.ได้ให้กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน จัดเจ้าหน้าที่ไปรับเรื่องร้องทุกข์จากกลุ่มผู้เสียหายดังกล่าว ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เบื้องต้นจากการสืบสวนทราบตัวบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการหลอกลวงคนหางานกลุ่มดังกล่าวแล้ว โดยจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำการหลอกลวงคนหางานตามกฎหมาย ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้ด่านตรวจคนหางานสุวรรณภูมิ เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบคนหางานที่มีพฤติการณ์ รวมทั้งการตรวจสอบความเคลื่อนไหวของบุคคล/กลุ่มบุคคลที่มีลักษณะเป็นสาย/นายหน้าจัดหางานเถื่อน ที่นำพาคนหางานเดินทางไปทำงานต่างประเทศแบบผิดกฎหมาย พร้อมทั้งมีหนังสือเเจ้งถึงสายการบินตรวจสอบความผิดปกติ ซึ่งอาจจะมีการลักลอบไปทำงานต่างประเทศ หรือกรณีเดินทางเป็นกลุ่มใหญ่ มีหนังสือถึง สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อขอให้ช่วยแจ้งเบาะแสกรณีมีบุคคลมาแจ้งความร้องทุกข์ถูกหลอกไปทำงานต่างประเทศ เพื่อจะได้ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป