เจ้าของเพจกล้าที่ก้าว แจ้งเอาผิดเจ้าของร้านเหล้าบางใหญ่ หมิ่นประมาทออกทีวี แจงปมรับเงิน เป็นเงินสปอนเซอร์ที่หุ้นส่วน ติดต่อมาเอง
จากกรณีที่เจ้าของร้านเหล้าชื่อดังย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี ให้สัมภาษณ์กลางรายการดัง โดยกล่าวหาว่านายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว มีพฤติกรรมไปข่มขู่กรรโชกทรัพย์จากร้านเหล้าดังกล่าว
วันที่ 7 ม.ค.2568 ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว ได้นำหลักฐานเดินทางเข้าแจ้งความ พนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายต่อ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง อายุ 32 ปี เจ้าของร้านเหล้าที่ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ในรายการเมื่อวานนี้ โดยกล่าวหานายอธิวัฒน์โทรศัพท์ไปข่มขู่กรรโชกทรัพย์ เพื่อเรียกรับเงินจากทางเจ้าของร้าน จนทำให้เกิดความเสียหาย เพื่อดำเนินคดีกับนายต่อในข้อหาหมิ่นประมาท
โดยนายอธิวัฒน์ กล่าวว่า วันนี้ที่ตนต้องเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับนายต่อ เพราะระหว่างออกรายการ ได้มีการโฟนอิน นายต่อได้กล่าวหาใส่ร้ายว่า ไปข่มขู่กรรโชกทรัพย์เพื่อเรียกเอาเงินกับทางนายต่อ ทั้งๆที่ความจริง มีหุ้นส่วนเจ้าของร้านติดต่อมาหาทางไลน์ แล้วบอกว่าจะสนับสนุนเพจเป็นเงินจำนวน 5,000 บาท แลกกับการลงโฆษณาในเพจ เหมือนสปอนเซอร์รายอื่นๆ
ซึ่งหุ้นส่วนคนดังกล่าวได้โอนเงินสนับสนุนเพจตนมาจำนวน 2 เดือน คือเดือน พ.ย. และธ.ค.66 ซึ่งทางตนก็ได้ทำโฆษณาลงเพจ ในฐานะสปอนเซอร์ผู้สนับสนุนไป แต่เนื่องจากทางหุ้นส่วนร้านรายนี้เกรงว่า การลงโฆษณาร้านเหล้าดังกล่าวไม่เหมาะสม จึงขอเปลี่ยนเป็นการโปรโมทเป็นตัวบุคคล ซึ่งเป็นหุ้นส่วนของร้านแทน
โดยตนมีหลักฐานการพูดคุยทางผ่านไลน์ข้อความ และการลงโฆษณาให้ในเพจตามที่หุ้นส่วนได้เสนอมา และตนก็ได้นำมาลงในเพจเหมือนกับผู้สนับสนุนเพจคนอื่นๆ แต่ต่อมาในเดือนที่ 3 ทางหุ้นส่วนก็ไลน์ข้อความมาบอกว่า ขอยกเลิกการสนับสนุนเพจตนไปก่อน เนื่องจากทางร้านมีรายจ่ายเยอะ ซึ่งตนก็ตอบว่าไม่เป็นไร จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกับทางร้านอีก
นายอธิวัฒน์ กล่าวอีกว่า ตนจึงต้องเดินทางมาเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายต่อเจ้าของร้านเหล้าบางใหญ่ เพื่อปกป้องตัวเอง รวมทั้งลูกเมียและครอบครัว เพราะเกิดผลกระทบตามมา ทั้งในเรื่องชื่อเสียง และทำให้ลูกคนเล็กเสียใจ ที่ถูกใส่ร้าย วันนี้ได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายต่อ ในข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เนื่องจากรายการที่ออกอากาศดังกล่าวมีคนดูทั่วประเทศ
นายอธิวัฒน์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่ถูกกล่าวหาใส่ร้ายกลางรายการ ว่าไปกรรโชกทรัพย์ เกิดผลกระทบต่อลูกสาว ลูกอายุเพียง 5 ปี เดินมาถามว่า ใครด่าพ่อ และทำไมเขาด่าพ่อ มันเป็นคำถามที่รู้สึกจุกในอก ติดอยู่ในใจ วันนี้จึงต้องออกมาปกป้องชื่อเสียง และศักดิ์ศรี ซึ่งเรื่องนี้จะไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบหายไป ยืนยัน100เปอร์เซ็นต์ว่า ไม่ได้ไปกรรโชกทรัพย์ตามที่ถูกกล่าว
แต่เงินที่หุ้นส่วนร้านโอนมาให้เป็นเงินค่าสนับสนุนเพจ ซึ่งก็ลงขอบคุณในเพจให้ หากไปกรรโชกทรัพย์เขาจริง เรื่องมันเกิดตั้งแต่ปี 66 ผ่านมาปี 67เข้าปี 68 ทำไมเพิ่งจะมาฟ้อง ไม่แจ้งความหรือฟ้องดำเนินคดีตั้งแต่ในตอนนั้น แต่พอตนออกมาช่วยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากทางร้าน เกี่ยวกับเรื่องบัตรประชาชน เขาถึงมาฟ้องร้องดำเนินคดีกับตน
ซึ่งเรื่องร้านเหล้าแห่งนี้ ตนจะติดตามและเดินต่อให้สุด ตอนนี้ทราบข้อมูลมาว่า มีผู้เสียหายทยอยเข้าแจ้งความแล้วทั้งที่ สภ.บางใหญ่ และ สภ.ปากเกร็ด จำนวน 400 กว่าราย หลังจากนี้จะประสานกับทางนายอนุทิน ชาญวีรกุล รมว.มหาดไทย เพื่อติดตามตรวจสอบพฤติกรรมของร้านเหล้าแห่งนี้อีกทาง