ทีมจับกุม ‘ยุน ซอกยอล’ เตรียมยื่นศาลขยายเวลาหมายจับ CIO ขอตำรวจช่วยรวบตัว
นายอี แจซึง รองผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนการทุจริตสำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสูง (CIO) กล่าวเมื่อวันที่ 6 มกราคม ว่า พวกเขาจะยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อขอขยายเวลาออกหมายจับประธานาธิบดียุน ซอกยอล ที่กำลังจะหมดอายุลงในวันเดียวกันนี้
นายอีกล่าวว่า CIO ยังได้ขอความช่วยเหลือจากตำรวจในการเข้าควบคุมตัวยุน เนื่องจากเจ้าหน้าที่สอบสวนประสบกับความยากลำบากในความพยายามที่จะเข้าควบคุมตัวยุนตามหมายจับเมื่อวันศุกร์ที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา ทั้งยังจะปรึกษากับตำรวจเกี่ยวกับการยื่นขอให้ขยายเวลาการออกหมานจับ แต่ตำรวจยังไม่ตอบรับคำร้องขอดังกล่าว
รายงานข่าวระบุว่า CIO ได้ส่งคำร้องผ่านจดหมายให้กับตำรวจอย่างเป็นทางการในช่วงค่ำวันที่ 5 มกราคม ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียง 1 วันก่อนที่หมายจับจะหมดอายุลง ด้านตำรวจรายหนึ่งบอกกับสำนักช่าวยอนฮัปว่า CIO ไม่ได้ปรึกษาหารือกับตำรวจก่อนที่จะส่งจดหมายดังกล่าว โดยขณะนี้ตำรวจกำลังทำการตรวจสอบข้อกฎหมายเป็นการภายในอยู่
แหล่งข่าวระบุว่า จดหมายของ CIO ทำให้เกิดการร้องเรียนภายในตำรวจว่า CIO กำลังพยายามโอนความรับผิดชอบหลังจากบังคับใช้หมายจับที่ไม่ประสบความสำเร็จเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ประธานาธิบดียุน ซึ่งเป็นอดีตอัยการผู้โด่งดังกักตัวอยู่แต่ในทำเนียบประธานาธิบดีหลังประกาศกฎอัยการศึกที่กลายเป็นชนวนเหตุให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองอย่างหนัก เขาปฎิเสธที่จะให้ความร่วมมือกับการสอบปากคำถึง 3 ครั้ง จนทำให้ CIO ได้ยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อออกหมายจับ แต่ก็ยังไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ เนื่องจากหน่วยรักษาความปลอดภัยของประธานาธิบดี (PSS) ปฎิเสธที่จะให้ความร่วมมือ และยืนยันว่าพวกเขามีหน้าที่ที่จะต้องปกป้องประธานาธิบดียุน ซึ่งหากเขาถูกจับกุมและถูกดำเนินคดีก็อาจต้องโทษจำคุกหรืออาจถึงถูกประหารชีวิตได้
ด้านศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้จะเริ่มต้นพิจารณาคดีถอดถอนยุนในวันที่ 14 มกราคมนี้ หลังจากที่มีการส่งต่อเรื่องมายังศาลเมื่อที่ประชุมรัฐสภาได้ผ่านร่างมติถอดถอนยุนไปก่อนหน้านี้ ซึ่งหากยุนไม่ปรากฎตัวในวันพิจารณาคดี ศาลก็จะยังคงเดินหน้าพิจาณาคดีต่อไปแม้ยุนจะไม่มาขึ้นศาลก็ตามที โดยศาลรัฐธรรมนูญมีเวลา 180 วันที่จะตัดสินคดีว่าจะปลดหรือคืนอำนาจให้กับประธานาธิบดียุน
เอเอฟพีรายงานโดยอ้างรายงานของอัยการเกี่ยวกับอดีตรัฐมนตรีกลาโหมเห็นเมื่อวันอาทิตย์ ที่แสดงให้เห็นว่ายุนเพิกเฉยต่อคำคัดค้านของรัฐมนตรีคนสำคัญในคณะรัฐมนตรีก่อนที่เขาจะประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งศาลนำหลักฐานดังกล่าวมาประกอบการพิจารณา
รายงานระบุว่านายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีต่างประเทศ และรัฐมนตรีกระทรวงการคลังในขณะนั้น ต่างแสดงความไม่เห็นด้วยกับผลที่อาจเกิดขึ้นทางเศรษฐกิจและการทูตในการประชุมคณะรัฐมนตรีในคืนที่ยุนได้ตัดสินใจประกาศกฎอัยการศึกในวันที่ 3 ธันวาคม
ขณะที่พรรคประชาธิปไตย (ดีพี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ ได้เรียกร้องให้ยุบหน่วยงาน PSS ที่คอยปกป้องยุน แต่ทนายความของยุนยืนกรานว่าจะทำการต่อสู้ตามข้อกฎหมายด้วยตนเอง โดยจะยื่นฟ้องหัวหน้า CIO ซึ่งพยายามจับกุมยุนอีกครั้ง