บิ๊กอ้วน รอรายละเอียดดาราจีนหายตัว เผย 27 ม.ค.นี้เรียกคุยตร.-ผวจ. 14 จว. ถกมาตรการซีลเข้มชายแดน สกัดข้ามแดนผิดกม.-ยาเสพติด-แก๊งคอล-ค้ามนุษย์ ตั้งเป้า 6 เดือนเห็นผล หากไร้ผลงานต้องสมัครใจย้ายออกจากพื้นที่
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 7 ม.ค.2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายซิงซิง ดาราจีน หายตัวไปจากชายแดนไทย-เมียนมา โดยมีกระแสข่าวขณะนี้พบตัวแล้วว่า ขณะนี้ต้องรอรายละเอียดก่อนว่าเหตุการณ์ทั้งหมด และข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่าผู้บังคับการฉก.ราชมนู เสนอแก้ปัญหาต่างชาติถูกหลอก โดยกำหนดให้พื้นที่ชายแดนเป็นพื้นที่สีแดงเพื่อเพิ่มอำนาจเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง เพราะหากเป็นพื้นที่สีแดง จะมีปัญหากระทบกับเศรษฐกิจ แต่เรื่องของคนหายและเราเป็นเส้นทางผ่านก็เป็นเรื่องที่สำคัญ
โดยวันที่ 27 ม.ค.นี้ ตนจะเรียกประชุม โดยมีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบนโยบาย ซึ่งจะเรียกทั้งนายอำเภอทั้ง 14 จังหวัด 51 อำเภอ 76 ผู้กำกับสถานีตำรวจ ผู้การจังหวัดทั้ง 14 จังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด 14 จังหวัด รวมถึงแม่ทัพภาคทุกภาคที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือถึงการซีลชายแดนโดยต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย
สำหรับฝ่ายทหารโดยกรมกิจการชายแดน จะต้องควบคุมดูแลซึ่งยอมรับว่าควบคุมได้ยาก เพราะเราคุมเส้นทางหลัก แต่เส้นทางธรรมชาติมีอยู่มากและมีระยะยาว ส่วนนี้จะเป็นปัญหา ตนคิดว่าอำเภอทั้งหมดที่อยู่รอบชายแดนทุกด้าน เราจะร่วมกันซีลชายแดนเหมือนมีกำแพง 2 ชั้น
เรื่องของชายแดน จะมีการจัดการปัญหาทั้งยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการค้ามนุษย์ ซึ่งการพูดคุยจะเป็นมาตรการหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้กรณีเช่นนี้เกิดขึ้นอีกง่ายๆ โดยตั้งเป้า 6 เดือนจะต้องเห็นผล แต่ถ้า 6 เดือน ไม่สามารถทำให้เห็นได้ว่าดีขึ้นหรือมีลักษณะของปัญหาลดลง จะต้องสมัครใจย้ายออกนอกพื้นที่ แต่หากทำดีจะมีการพิจารณาความดีความชอบต่อไป ซึ่งเป็นมาตรการที่เอาจริงเอาจัง
นายภูมิธรร กล่าวด้วยว่า หากเราไม่ดำเนินการเรื่องดังกล่าวจะทำให้มีการข้ามฝั่งเข้ามาในประเทศไทยได้ง่าย ฉะนั้นสถานีตำรวจในพื้นที่ต้องทำงานให้เต็มที่ และถือเป็นมาตรการแรกที่จะมีการประกาศใช้ และจากนี้ต้องดูเฉพาะราย เพราะแต่ละพื้นที่แต่ละส่วนมีปัญหาที่ไม่เหมือนกัน
ส่วนการหายตัวของดาราจีนรายดังกล่าวมีการเชื่อมโยงถึงกลุ่มมาเฟียจีนที่มีอิทธิพลในประเทศไทย ซึ่งมีเสียงสะท้อนว่าอยากให้ดูแลปัญหาเรื่องนี้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราจะทำทั้งหมด ทั้งเรื่องการข้ามแดน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และผู้อิทธิพล ซึ่งจะอยู่ในกระบวนการเดียวกันทั้งหมด
โดยเฉพาะเรื่องผู้มีอิทธิพล เป็นสิ่งที่มีความกังวลไปถึงการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นในเดือนก.พ. ซึ่งมีตัวอย่างที่เกิดขึ้นที่จ.ปราจีนบุรี ดังนั้น จะทำควบคู่กันไปทั้งระบบ ทั้งนี้ ยอมรับว่ามีการทำงานประสานกันกับทั้งรัฐบาลเมียนมา รัฐบาลจีน และทุกภาคส่วน