รวย..อย่างชินวัตร
Episode 2 : “รวยโดยมิชอบ”
แก้วสรร อติโพธิ
ถาม เห็นอาทิตย์ที่แล้ว ทักษิณไปปราศัยที่เชียงรายว่า ตนรวยที่สุดในประเทศไทยตั้งแต่ปี ๓๕ แล้ว มี
ทรัพย์สินถึง ๖ หมื่นล้านเลยทีเดียว มาจนลงก็เมื่อเข้ามาทำการเมืองเพื่อชาตินี่เอง กระทั่งทุกวันนี้
เขาก็มีฐานะพอๆกับชาวเชียงรายทั่วไปเท่านั้น
พูดอย่างนี้ก็หมายความว่า ที่ศาลไปยึดทรัพย์เขาฐานร่ำรวยผิดปรกตินั้น ไม่ถูกต้องใช่ไหมครับ ?
ตอบ เขาไปบิดเบือนอย่างนั้นไม่ได้ครับ เงิน ๔.๒ หมื่นล้านที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง
พิพากษาให้ยึดนั้น ไม่ใช่ยึดเพราะเขารวยขึ้นมาอย่างผิดปรกติอธิบายไม่ได้ แต่เป็นเรื่องได้
ทรัพย์สินมาอย่างไม่สมควร โดยสืบเนื่องจากตำแหน่งหน้าที่
คือในกรณีชินวัตรนั้น โดนยึดจากเงินก้อนที่ขายหุ้นชินคอร์ปยกล้อตให้เทมาเส็คในราคารวม ๗.๓
หมื่นล้านเท่านั้นครับทรัพย์สินอื่นไม่เกี่ยว โดยศาลเห็นว่ามูลค่าหุ้นโดยรวมที่เพิ่มขึ้นมา ๔.๒หมื่น
ล้านหลังจากเป็น นายกรัฐมนตรีนั้น เพิ่มขึ้นมาก็เพราะฟังได้ว่า มีการออกมาตรการโดยรัฐ ที่เอื้อ
ประโยชน์โดยไม่สมควรให้ธุรกิจโทรคมนาคมชินคอร์ป ทั้งโทรศัพท์เอไอเอสและดาวเทียมชิน
แซท ถึง ๖ มาตรการด้วยกัน รัฐเสียหายเป็นแสนล้าน มูลค่าที่เพิ่มขึ้นนี้จึงถือว่าได้มาโดยไม่
สมควรและสืบเนื่องจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ศาลจึงให้ยึด ๔.๒ หมื่นล้านนี้ ส่วนที่เหลือ
๓.๑ หมื่นล้านนั้นถือเป็นมูลค่าหุ้นเดิมเมื่อแรกเป็นนายกฯก็พิพากษาให้ปล่อยอายัด คืนเขาไป
ถาม สรุปแล้ว ศาลไม่ได้แตะทรัพย์สินเดิมของเขาเลย เอาเฉพาะส่วนกำไรจากการขายหุ้นเท่านั้น ถ้า
รวยอยู่แล้ว เขาก็รวยต่อไปเหมือนเดิม ใช่มั้ยครับ
ตอบ เป็นเช่นนั้น ถ้าถูกยึดทรัพย์จนไม่เหลือความรวยอยู่เลย แล้วเขาจะเอาเงินหลายหมื่นล้านจากที่
ไหนไปซื้อสโมสรฟุตบอล แมนซิตี้ล่ะครับ พอขายแมนซิตี้ให้คนอื่นไปแล้ว เงินไปไหนต่อเราก็ไม่
ทราบ วันนี้มีซุกอยู่กับมาดามแพบ้างหรือไม่ ก็ได้แต่สงสัยกันทั้งเมืองเท่านั้น ความรวยของชิน
วัตรนี่มันลับๆร่อๆจริงๆนะครับ
ถาม ที่ไปยึดกำไร ๔.๒ หมื่นล้าน จากการขายหุ้นชินคอร์ปของชินวัตรนี่ เราอิจฉาเขาหรือ
ตอบ ความไม่ถูกต้องมันเริ่มจากการเข้าเป็นนายกรัฐมนตรีโดยยังถือหุ้นบริษัทสัมปทานโทรคมนาคมกว่า
ครึ่งหนึ่งไว้ในมือโดยซุกซ่อนไว้ในชื่อลูกก่อน ด้วยความทับซ้อนนี้ ทักษิณในตำแหน่ง
นายกรัฐมนตรีจึงต้องดูแลทั้งประโยชน์ชินคอร์ปและประโยชน์ประเทศชาติ ถามว่าเขาเลือก
ประโยชน์ฝั่งไหน ก็พบต่อไปว่าในช่วง ๖ ปี ที่เป็นนายกฯ ก็เกิดมาตรการเอื้อประโยชน์ให้ชิน
คอร์ปโดยมิชอบ ๖ มาตรการ มีที่ นายกฯกล้าสั่งการเอง ๒ มาตรการ อีก ๔ มาตรการก็กระทำโดย
เจ้าหน้าที่ที่แต่งตั้งในสมัยทักษิณทั้งสิ้น คนพวกนี้พ้นตำแหน่งแล้ว ไปนั่งบริหารเอไอเอสอีกก็มี
หรือหยิบจากชินแซท มาแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีก็มี
ถาม ผลทางกฎหมายคืออะไร
ตอบ ใครเป็นคนทำก็โดนคดีอาญา พิพากษาให้ติดคุก ทักษิณก็โดนด้วย ในส่วนมาตรการยึดทรัพย์นั้น
เมื่อจงใจฝ่าฝืนข้อห้ามถือประโยชน์ทับซ้อน แล้วเกิดการหาประโยชน์โดยมิชอบขึ้นจริง ก็ต้องถือ
ว่าประโยชน์ที่ได้เป็นประโยชน์ที่มิสมควรได้ และสืบเนื่องจากตำแหน่งหน้าที่นายกรัฐมนตรีในที่สุด
ถาม ประโยชน์มิสมควรได้ที่ตกแก่หุ้นชินคอร์ปนี้ กลายเป็นเงินค่าหุ้นจากเทมาเส็คได้ ก็เพราะพรรค
ไทยรักไทยของ นายกรัฐมนตรี ใช้เสียงข้างมากแก้กฎหมายเพิ่มเพดานถือหุ้นโทรคมนาคมของ
ต่างชาติ จาก ๒๕% เป็น ๔๙% ด้วยนะครับ
ตอบ ชัดเจนว่านี่คือตัวอย่างความทุจริตเชิงนโยบาย ที่ชัดเจนมาก ประโยชน์ที่ได้คือกำไรจากการขาย
หุ้นจึงต้องยึดเข้ารัฐให้หมด
ถาม ๖ มาตรการที่ว่าเป็นการเอื้อประโยชน์โดยมิชอบนี้ มีอะไรบ้างครับ
ตอบ ที่เป็นคดีถึงศาล จนมีคำพิพากษาจำคุกแล้ว ก็ ๔ คดีคือ
๑. แก้ไขสัญญาสัมปทาน ลดส่วนแบ่งที่องค์การโทรศัพท์ควรได้เป็นค่าสัมปทานจาก เอไอเอส
สำหรับโทรศัพท์มือถือแบบเติมเงิน จาก ๒๕% เป็น ๒๐% ของรายได้จากบัตรเติมเงินแต่ละใบ งาน
นี้ ทศท.เสียหายกว่า ๘ หมื่นล้านบาท
๒. ไทยตกลงให้พม่ากู้เงินดอกเบี้ยต่ำ เพื่อซื้อสินค้าไทยไปพัฒนาประเทศ จากนั้น นายกฯสั่งการ
ให้เพิ่มรายการซื้อบริการสัญญาณดาวเทียมไทยคม ของชินแซท เป็นเงิน ๑,๐๐๐ ล้านบาท ลงไป
ในสัญญากู้ด้วย ทั้งนี้มีการเจรจาลับให้บริษัทโทรคมนาคมของพม่าตกลงรับซื้อก่อน บริษัทนี้มีลูก
คสช.พม่าคือขิ่นยุนต์ เป็นเจ้าของ งานนี้หลวงเสียค่าส่วนต่างดอกเบี้ย ชักเนื้อไป ๑๐๐ ล้านบาท
ถาม โอ้โฮ ไทยเราก้าวหน้าถึงขั้นส่งออกคอรัปชั่นไปพม่าเลยหรือครับนี่
ตอบ ๓. ไม่ยอมแปรค่าสัมปทานตามที่กฎหมายกำหนด กลับไปใช้วิธีออกกฎหมายเก็บภาษีสรรพสามิต
จากค่าบริการโทรศัพท์ แล้วให้ผู้ขายบริการนำค่าภาษีที่จ่ายไปหักจากค่าสัมปทานได้ เรียกวิธีนี้
ว่ามาตรการแปลงค่าสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต งานนี้ ทั้ง ทศท. และ กสท.ขาดรายได้
เสียหายยับเยิน หลายหมื่นล้านบาท สิ้นสภาพทางธุรกิจจนทุกวันนี้
๔. เมื่อชินแซท ยิงดาวเทียมไทยคม ๓ มูลค่าสูง เพื่อขยายบริการให้ขายได้ทั้งภูมิภาคเอเซีย
แทนที่จะให้บริการได้แต่เฉพาะในประเทศเหมือน ไทยคม ๑ และ ๒ งานนี้จึงมีการช่วยเหลือธุรกิจ
ไทยคม ๓ขนานใหญ่ ทั้ง
- ยกเว้นภาษีเงินได้ในต่างประเทศของชินแซท ๑.๖ หมื่นล้านบาท
- บังคับ ทศท.เช่าใช้ช่องสัญญาณเกินความจำเป็น จนเสียหาย ๑ พันล้านบาท
- เจรจาการค้าเสรี เปิดตลาดสินค้าการเกษตรให้ต่างชาติ แลกกับการเปิดตลาดสัญญาณดาวเทียม
ไทยทั้งใน เขมร พม่า ลาว นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย
- ที่เป็นคดีมีคนติดคุก ก็เป็นกรณีแก้ไขสัญญาผ่อนผันลดภาระลงทุนของ ชินคอร์ปในชินแซท
จาก ๕๑% เป็น ๔๐%
ถาม เท่าที่กล่าวมา ทำไมมีแต่เรื่องถือประโยชน์ทับซ้อนเท่านั้นครับ ทุจริตอย่างอื่นทั้ง รถดับเพลิง
บ้านเอื้ออาทร จำนำข้าวฯลฯ ไม่นับเป็นความรวยของชินวัตรหรือ
ตอบ นั่นเป็นทุจริตเข้าพรรค ไม่ใช่ครอบครัว เป็นทุจริตเพื่อค่าใช้จ่ายที่ระบอบทักษิณต้องใช้ในทาง
การเมือง เอาไว้รออ่านใน “รวยอย่างชินวัตร Episode 3 : รวยจนชาติบ้านเมืองชิบหาย ” ก็แล้ว
กันนะครับ
.........................................