เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ MCC HALL เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน จ.นนทบุรี ในเวทีการแข่งขัน TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE THAILAND CHAMPIONSHIP 2025 รอบชิงชนะเลิศ กรุงเทพมหานครและปริมณฑลนายแพทย์สุนทร สุนทรชาติ รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวในพิธีประกาศผลและมอบรางวัลแก่ผู้ชนะการแข่งขัน TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE THAILAND CHAMPIONSHIP 2025 รอบชิงชนะเลิศกรุงเทพมหานครและปริมณฑลว่า กรุงเทพมหานคร ยินดีต้อนรับสมาชิก TO BE NUMBER ONE ผู้มีความสามารถและมีใจรักการเต้น และมุ่งมั่นสู่ความเป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด สู่การแข่งขัน TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE THAILAND CHAMPIONSHIP 2025 รอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ ซึ่งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเป็นภาคที่ 5 ภาคสุดท้ายของการแข่งขันในปีนี้ เป็นภาคที่มีทีมเข้าร่วมแข่งขันมากที่สุดถึง 92 ทีม

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นการเปิดเวทีให้สมาชิกเยาวชนของกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ได้มารวมตัวแสดงพลัง ร่วมทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ในสิ่งที่ชื่นชอบเหมือนๆกัน เป็นกิจกรรมที่สร้างให้เกิดความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา มีความมุ่งมั่นไปสู่ความสำเร็จและยังทำให้มีสุขภาพที่แข็งแรง เป็นเรื่องธรรมดาของการแข่งขัน ย่อมมีทั้งสมหวังและผิดหวังขอแสดงความยินดีด้วยกับทีมที่สมหวัง ส่วนทีมที่ผิดหวังขอให้มีความพยายามฝึกฝนพัฒนาต่อไป สิ่งที่ทุกคนจะได้รับจากโอกาสที่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ นั่นคือความทรงจำและมิตรภาพที่ดีจากเพื่อนใหม่ เหนือสิ่งอื่นใดคือ ประสบการณ์ที่พิเศษ

แพทย์หญิงณิชาภา สวัสดิกานนท์ รองอธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวว่ากรมสุขภาพจิต ในฐานะคณะกรรมการและเลขานุการโครงการ TO BE NUMBER ONE ได้ดำเนินงานสนองพระดำริของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี องค์ประธานโครงการ ที่ทรงมีพระดำริให้พัฒนาเยาวชนโดยผ่านกิจกรรม เพราะทรงเห็นว่ากิจกรรมจะช่วยให้เยาวชนรู้สึกดีกับตนเอง ได้สนุก มีร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพจิตดี ไม่ไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี ไม่เฉพาะคุ้มกันจากยาเสพติดเท่านั้น แต่รวมถึงจากปัญหาสังคมและพฤติกรรมอื่นๆ

ด้วยเหตุนี้ TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE จึงเป็นหนึ่งในหลายกิจกรรม ภายใต้หลักการที่โครงการนำมาใช้ในการจัดกิจกรรม เพื่อให้โอกาสกับเด็กและเยาวชนได้เลือกและเข้ามาร่วมกิจกรรมในโครงการได้ และจากการจัดการแข่งขัน DANCERCISE มาอย่างต่อเนื่อง พบว่ากิจกรรมนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูง มีเยาวชนจากทั่วประเทศ สนใจเข้าร่วมเพิ่มมากขึ้นทุกปี เป็นการสร้างพลังและพัฒนาคนรุ่นใหม่ และกิจกรรมนี้ยังทำให้เยาวชนของเราสามารถเติบโต มีพัฒนาการ และประสบความสำเร็จ ทั้งด้าน การเรียนและทักษะด้านการเต้นที่พวกเขารักและสนใจได้พร้อม ๆกัน สามารถเข้าร่วมแข่งขันในเวทีระดับโลก สร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจให้กับประเทศ

สำหรับผลการแข่งขัน TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE THAILAND CHAMPIONSHIP 2025 รอบชิงชนะเลิศกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีทีมที่ผ่านการแข่งขันเข้าสู่รอบระดับประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 10 ทีม ได้แก่ รุ่น Junior รางวัลชนะเลิศ ทีม UPPERHAND JUNIOR ทีมอิสระ สถาบัน UPPERHAND ACADEMY และรางวัลที่ 2 ทีม LUCY Junior ทีมอิสระ ศูนย์นันทนาการบางกะปิ สำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว รุ่น Pre-Teenage รางวัลชนะเลิศ ทีม SUPER RK ทีมอิสระ สถาบัน Rookies รางวัลที่ 2 ทีม LUCY ทีมอิสระ ศูนย์นันทนาการบางกะปิ สำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว และ ทีม DEK UPPER ทีมอิสระ สถาบัน UPPERHAND ACADEMY และรางวัลที่ 3 ทีม Why So Serious ทีมอิสระ สถาบัน PP Dance Studio รุ่น Teenage รางวัลชนะเลิศ ทีม MAX SQUAD ทีมอิสระ ศูนย์นันทนาการบางกะปิ สำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว รางวัลที่ 2 ทีม CHOZEN X ทีมอิสระ สถาบัน Rookies และรางวัลที่ 3 ทีม HARMONIZE ทีมอิสระ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต และ ทีม Synergy มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

นายธนาวุฒิ ไชยรัมภ์ “ครูเทือง” ผู้ฝึกสอนทีม SUPER RK รางวัลชนะเลิศรุ่น Pre-Teenage และทีม CHOZEN X รางวัลที่ 2 รุ่น Teenage กล่าวว่าตนเองเติบโตมาจากการเป็นสมาชิกของศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE สาขาซีคอนสแควร์และได้ร่วมกิจกรรมเต้นในเวที TO BE NUMBER ONE มาโดยตลอด ได้สั่งสมประสบการณ์เป็นครูสอนเต้นมากว่า 10 ปี และปีนี้มาในฐานะครูฝึกเต้นทีม CHOZEN X และทีมSUPER RK ซึ่งลงแข่งขันในรุ่น Teenage และรุ่น Pre-Teenage ใช้เวลาในการเตรียมทีมฝึกซ้อมประมาณ 1 เดือน ในการฝึกซ้อมเด็กๆช่วงแรกต้องอาศัยความสามัคคีของทีม เพราะน้องยังไม่เคยผ่านการเต้นในเวทีใหญ่มาก่อน ค่อยพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ จนทำได้ตามแผนการซ้อมที่วางไว้ รู้สึกภูมิใจมากที่ทั้งสองทีมที่ตนเองเป็นครูฝึกเต้นได้ผ่านเข้ารอบไปสู่การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ

มองว่าการร่วมกิจกรรมเต้นในโครงการ TO BE NUMBER ONE ให้ประโยชน์หลายอย่างทั้งด้านสุขภาพ อารมณ์ สังคม และยังทำให้เราสามารถถ่ายทอดประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถที่มีส่งต่อไปยังรุ่นน้องๆได้อีกด้วย โครงการ TO BE NUMBER ONE ไม่ได้ให้ความสำคัญเฉพาะการเต้นเพียงอย่างเดียว แต่ให้ความสำคัญกับการเรียนควบคู่ไปด้วย การทำกิจกรรมต้องไม่ส่งผลกระทบกับการเรียน ทำให้เด็กๆได้รู้จักแบ่งเวลาและมีความรับผิดชอบมากขึ้น อยากเชิญชวนน้องๆที่สนใจให้มาร่วมกิจกรรมกับโครงการ TO BE NUMBER ONE ได้ที่ศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE ทุกแห่งทั่วประเทศ

นางสาวศิรานี ทองภูธร “ครูศิ” ผู้ฝึกสอนทีม MAX SQUAD รางวัลชนะเลิศ รุ่น Teenage ,ทีม LUCY รางวัลที่ 2 รุ่น Pre-Teenage และ ทีม LUCY Junior รางวัลที่ 2 รุ่น Juniorกล่าวว่าศูนย์นันทนาการบางกะปิฯ จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน ได้ทำกิจกรรมในเวลาว่างที่ก่อให้เกิดการเรียนรู้ เกิดการพัฒนาการด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา เป็นศูนย์นันทนาการมิติใหม่ เปิดสอนกิจกรรมพื้นฐาน และกิจกรรมพัฒนาทักษะ ทั้งด้านกีฬาและศิลปะ ในขณะเดียวกันก็ได้สนับสนุนเด็กๆที่มีใจรักและชื่นชอบในการเต้น มาเต้นแข่งขันใน เวที TO BE NUMBER ONE โดยได้ส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันในเวที TO BE NUMBER ONE TEEN DANCERCISE มาแล้ว 3 ปี เนื่องจากมองว่าการเต้นในเวที TO BE NUMBER ONE เป็นการจุดประกายให้กับเด็กๆ ให้มีความตั้งใจที่จะพัฒนาฝีมือการเต้นของตนเองให้เก่งเพื่อจะได้มาเข้าร่วมแข่งขันในเวทีนี้ มองว่ากิจกรรมการเต้นมีประโยชน์มากมายช่วยส่งเสริมการพัฒนาทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ทำให้เด็กๆมีระเบียบวินัย รู้จักแบ่งเวลาเรียนและเวลาฝึกซ้อม อยากให้ผู้ปกครองเข้าใจ ให้โอกาสและช่วยกันสนับสนุนให้เด็กๆได้ทำในสิ่งที่ตนเองถนัดและชื่นชอบ ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับเด็กๆในอนาคตต่อไป

นางสาวทอฝัน แสงทอง “ฝิ่น” ผู้ฝึกสอนทีม Higher Level รางวัลชมเชย รุ่น Teenage กล่าวว่า ตนเองและเพื่อนอีก 3 คนคือ มิว มาร์ค และนิ๊งค์ ได้รวมตัวกันเพื่อมาทำทีมเต้นและส่งเข้าแข่งขันในเวทีเต้นของโครงการ TO BE NUMBER ONE โดยในปีนี้ทีมเลือกใช้สไตล์การเต้นที่หลากหลาย เน้นความสนุก เช่น ฮิปฮอป แอโฟร แดนซ์ฮอลล์ แวคกิ้ง โวคกิ้ง การมาเข้าแข่งขันในครั้งนี้ถือเป็นการเริ่มต้นในเวทีแข่งขันของทีม เพราะปกติทีมจะเต้นอยู่ในมหาวิทยาลัยไม่ค่อยได้เข้าแข่งขันตามเวทีต่างๆ มองว่าเวทีแข่งขันเต้นของโครงการ TO BE NUMBER ONE เป็นเวทีที่ดีและเปิดโอกาสให้กับทุกคน จึงอยากให้น้องๆในทีมมาเริ่มต้นเปิดประสบการณ์กันที่เวทีนี้ มองว่าประโยชน์ของการเต้นนอกจากให้ความแข็งแรงแล้วยังช่วยทำให้เด็กมีสมาธิ มุ่งมั่นกับการฝึกซ้อมและพัฒนาตนเอง ช่วยให้ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด