อดีตเลขาพระปกเกล้า เชียร์แก้รธน. ตั้งสสร. แต่ห่วงตีความประชามติ ขัดคำวินิจฉัยศาลรธน.
GH News January 08, 2025 06:05 PM

อดีตเลขาพระปกเกล้า เชียร์แก้รธน.ตั้งสสร. แต่ห่วงตีความประชามติ ขัดคำวินิจฉัยศาลรธน.

เมื่อวันที่ 8 มกราคม นายวุฒิสาร ตันไชย อดีตเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ขณะนี้มีอยู่ 2 กลุ่ม คือกลุ่มหนึ่งเป็นการเสนอแก้ไขแบบรายมาตราที่เห็นว่าเป็นปัญหา และการแก้ไข มาตรา 256 ว่าด้วยวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเจตนาให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา โดยเชื่อว่าทิศทางในชุดความคิดจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่น่าจะมีน้ำหนักมากกว่าการแก้ไขแบบรายมาตรา ที่รัฐสภาเคยดำเนินการมาแล้วแต่ยังไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาอะไรได้ ส่วนการแก้ไขมาตรา 256 ขึ้นอยู่กับการหารือของวิปฯว่าจะตัดสินใจอย่างไร ซึ่งขณะนี้เนื้อหามีความแตกต่างกันอยู่ในสาระสำคัญ บางพรรคการเมืองเสนอเนื้อหาให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(สสร.) และแก้ไขเรื่องอำนาจ สว. เห็นชอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยเสียง 1 ใน 3

และอีกกลุ่มที่จะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับและยืนยันว่าคงสาระสำคัญในหมวด 1-2 “ทั้งสองกลุ่มนี้เชื่อว่ามีคำตอบเหมือนกันคือกันจัดทำโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นจุดที่จะต้องพิจารณา ถ้าทิศทางของการแก้ไขมาตรา 256 ไปในทิศทางนี้ แง่ของสาระหรือเนื้อหาจะแก้แค่ไหน กับอันที่สองกระบวนการของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเรื่องของการทำประชามติ 4/2565 ยังมีความเห็นที่ไม่ต้องการระหว่างการทำประชามติต้องทำก่อนการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ หรือทำแล้วค่อยไปถามประชาชน คิดว่ายังเป็นประเด็นที่อาจจะกลายเป็นเงื่อนไขหากรัฐสภาตัดสินว่าจะแก้มาตรา 256 เลย อาจจะมีคนหยิบยกเรื่องนี้ว่าจะขัดต่อคำวินิจฉัยหรือไม่” นายวุฒิสาร กล่าว

นายวุฒิสาร กล่าวอีกว่า จากการศึกษาเรื่องการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 3 ครั้ง เป็นการศึกษาก่อนหน้านี้หนึ่งปีที่แล้ว ด้วยหวังว่ามีเวลาที่จะ 3 ครั้ง ที่เป็นความปลอดภัย และขณะนี้มีเงื่อนไขเรื่องของการแก้กฎหมายประชามติ ที่ทำให้การทำนั้นสามารถทำได้ง่ายขึ้นและเข้าถึงประชาชน เช่นการทำประชามติผ่านไปรษณีย์ แต่ครั้งนี้กฎหมายสะดุด ”เพราะฉะนั้นคิดว่าในทางการเมืองก็อาจจะเป็นความต้องการทางการเมืองที่อยากจะเสี่ยงหรือลองเสี่ยงดูว่าแก้เลย แล้วไปรอฟังคำวินิจฉัยของศาลอีกครั้งว่ามีคนร้องแล้วศาลจะว่าอย่างไร อันนั้นก็เป็นทางที่ฝ่ายการเมืองตัดสินใจ แต่หากถามด้วยเหตุผล คิดว่าอย่างไรก็ตาม การแก้ไขมาตรา 256 เมื่อทำเสร็จก็ต้องไปทำประชามติอยู่แล้ว เพราะว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญบังคับอยู่แล้วส่วนครั้งที่สามจะทำหรือไม่ขึ้นอยู่กับการแก้ไขมาตรา256 แล้วจะต้องทำหรือไม่ทำก็ได้คิดว่าเป็นอำนาจของรัฐสภา

นายวุฒิสาร กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของการเมืองที่ต้องหารือกัน โดยเฉพาะวุฒิสภามีส่วนสำคัญที่จะกำหนดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสำเร็จหรือไม่ เพราะกฎหมายกำหนดไว้ว่าอย่างน้อยต้องมีสิ่งเห็นชอบด้วย 1 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกวุฒิสภาซึ่งหากไม่ได้ตามจำนวนดังกล่าวการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ไม่สำเร็จ โดยเฉพาะมีร่างแก้ไขของพรรคประชาชนที่แก้ไขเกี่ยวกับอำนาจการเห็นชอบของวุฒิสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 1 ใน 3 ที่ถูกตัดไป ซึ่งมีเพียงประเด็นที่ฝ่ายการเมืองเห็นตรงกันคือการให้ สสร. จัดทำรัฐธรรมนูญ แต่การได้มายังไม่ได้ข้อยุติแต่ละพรรคเสนอหลายรูปแบบ และต้องรอติดตามว่าคณะรัฐมนตรีจะเสนอร่างประกอบด้วยหรือไม่

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.