"สมศักดิ์"เผยบอร์ด สปสช. รับทราบผลตรวจสอบหน่วยบริการเบิกเงินเท็จ เตรียมเรียกเก็บคืน 125 ล้าน พร้อมเดินหน้าเอาผิดทางกฎหมาย
เมื่อวันที่ 8 ม.ค.68 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(บอร์ดสปสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมบอร์ด สปสช.ว่า ที่ประชุม เห็นชอบข้อเสนองบประมาณหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 2569 วงเงินงบประมาณจำนวน 272,583.32 ล้านบาท ในจำนวนนี้แยกเป็นงบเหมาจ่ายรายหัวจำนวน 204,174.99 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 4,298.24 บาทต่อประชากร เพื่อดูแลประชากร 47.50 ล้านคน และงบค่าบริการนอกงบเหมาจ่ายรายหัวจำนวน 68,408.32 ล้านบาท เมื่อหักเงินเดือนภาครัฐในระบบปกติจำนวน 71,446.45 ล้านบาท จะเหลือเป็นงบประมาณที่ให้ สปสช. บริหารทั้งสิ้นจำนวน 201,136.87 ล้านบาท ทั้งนี้ งบประมาณที่นำเสนอในปีนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับงบประมาณ 2568 ได้เพิ่มขึ้นจำนวน 36,196.80 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 19.51 โดยงบเหมาจ่ายรายหัวจะเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 442.16 บาท
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้รับทราบรายงานเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิทธิประโยชน์ ที่จะให้บริการประชาชน โดยมี 1.การจัดบริการพาหนะรับส่งผู้ทุพพลภาพ คนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีความยากลำบากในการไปหาหมอด้วยตนเอง รับส่งจากบ้าน ไป รพ.ซึ่งเป็นเงินที่ร่วมสมทบระหว่าง กรุงเทพมหานคร และ สปสช. สำหรับดูแลประชาชนในพื้นที่ กทม. 2.การตรวจคัดกรองกลุ่มอาการดาวน์ในหญิงตั้งครรภ์ บริการนี้ เป็นการตรวจสำหรับหญิงตั้งครรภ์ เพื่อคัดกรองกลุ่มอาการ ดาวน์ เรียกว่า การตรวจนิป (NIPT) ซึ่งเป็นการตรวจที่แม่นยำมากกว่าการตรวจด้วยวิธีเดิม กำหนดราคา 2,700 บาท (ค่าตรวจ 2,500 ค่าเก็บ 200 บาท) 3.การปรับแผนการจัดซื้อยา ปี 2568 ครั้งที่ 3 บอร์ดได้อนุมัติงบประมาณสำหรับจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นตามโครงการพิเศษ วงเงินรวมประมาณ 10,222 ล้านบาท เป็นการจัดซื้อรวม ในระดับประเทศ ซึ่งมอบหมายให้ เครือข่ายหน่วยบริการฯ รพ.ราชวิถี เป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อไปแล้วและอยู่ระหว่างจัดหา ประมาณ 9,800 ล้านบาท มีวงเงินที่ประหยัดได้ เหลืออยู่ประมาณ 400 ล้านบาท วันนี้ บอร์ดได้อนุมัติ ปรับแผนยา 18 รายการ เพื่อให้มียาเพียงพอสำหรับผู้ป่วย 4.การเพิ่มบริการ สายด่วนให้คำปรึกษาเรื่องการติดเชื้อ HIV (เอดส์) ในวัยรุ่น บริการนี้เรียกว่า โครงการ Stand by you ดำเนินการโดย รพ.ศิริราช ร่วมกับ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ 5.บริการมะเร็งไปที่ไหนก็ได้ หรือ CA Anywhere การดำเนินการให้เป็นไปตามเดิมในระยะเวลา 3 เดือน คือ ม.ค.-มี.ค.ระหว่างนี้จะหารือแนวทางกัน
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีเรื่อง การขับเคลื่อนนโยบายคนไทยห่างไกลโรค NCD โดย อสม. ต่อเนื่องในเรื่องการปกกัน ที่มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการและที่ประชุมรับทราบรายงานการการตรวจสอบเอกสารเรียกเก็บค่าใช้จ่าย ที่หน่วยบริการเบิกไม่ถูกต้องอาจเข้าข่ายเป็นเท็จ เรื่องนี้ ดำเนินการต่อเนื่องจากบอร์ดชุดที่แล้ว ซึ่งปี 2562 มีการตรวจสอบการเบิกจ่ายของคลินิกและหน่วยบริการในพื้นที่ กทม. ซึ่งมีการเบิกเท็จและดำเนินการตามกฎหมายแล้ว บอร์ดชุดเดิม มีมติให้ตรวจสอบของ ปี 2560, 2561, และ 2563 เพิ่มเติมด้วย เนื่องจากเป็นกติกาเดียวกัน สปสช.ดำเนินการแล้วเสร็จ จึงมารายงานให้บอร์ดทราบ คาดว่าจะมีการเรียกเงินคืน ประมาณ 125 ล้านบาท และได้มอบให้ สปสช.ดำเนินมาตรการทางกฎหมายตามอำนาจหน้าที่ของ สปสช.ต่อไป