Pi Daily ตลาดหุ้นทั่วโลกรอดูแรงงานคืนวันศุกร์และสาบานตนของ Trump จึงยังเป็นลักษณะเคลื่อนไหวในกรอบ ผลประกอบการกลุ่ม Bank คาดจะขยายตัวได้ 8.1%YoY เลือก BBL,KTB เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม
เมื่อวันที่ 9 ม.ค.68 บล.พาย เผยว่า ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 106.8 จุด (+0.25%) รับการชะลอตัวเล็กน้อยของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 1.1% หลังจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯรายงานตัวเลขเศรษฐกิจประกอบไปด้วย (1) การจ้างงานภาคเอกชนจากสถาบัน ADP ที่ 1.2 แสนรายแย่กว่าที่ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.39 แสนราย (2) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ 2.01 แสนรายดีกว่าที่ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 2.14 แสนราย (3) สต็อกน้ำมันดิบลดลง 1 ล้านบาร์เรลซึ่งลดลงมากกว่าที่ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล ภาพรวมหลังจากทราบปัจจัยข้างต้นทั้งหมดพบว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับลงเล็กน้อยในรุ่นอายุ 2 , 10 ปี สะท้อนถึงการคลายกังวลดอกเบี้ยแต่ยังให้น้ำหนักเพียงระยะสั้น ขณะที่ปัจจัยอื่นๆพบว่าสำนักข่าว CNN ออกมาให้ข้อมูลว่า Trump อาจจะพิจารณาประกาศแผนภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจแห่งชาติเพื่อให้ Trump มีอำนาจในการใช้นโยบายกำแพงภาษีนำเข้าตามที่ได้สัญญาไว้ โดยคาดการณ์ว่าอาจประกาศใช้หลังจากพิธีสาบานตนในวันที่ 20 ม.ค. แต่อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นทั่วโลกดูจะยังไม่เชื่อในประเด็นดังกล่าวมากนัก เพราะยังไม่เห็นการเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติของแต่ละสินทรัพย์ ด้านปัจจัยในประเทศประกอบไปด้วยหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลังออกมาระบุว่าเบื้องต้นจะทำการใช้ Digital Currency เพื่อชำระสินค้าแต่ยังจำกัดพื้นที่ในวงจำกัด พร้อมคาดการณ์เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้มากกว่า 3% ในปีนี้ โดยเริ่มเห็นสัญญาณบวกในการบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาคเอกชน แต่ปัจจัยกดดันยังประเมินว่าจะเป็นปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์จากการต่อสู้กันระหว่างประเทศมหาอำนาจ แต่ไทยก็ควรมองเป็นโอกาส
ด้านการท่องเที่ยวรัฐมนตรีกระทรวงการคลังประเมินไว้ที่ 39.8 ล้านคนแต่สิ่งที่อยากเห็นคือทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาในไทยมากขึ้น ซึ่งอาจจะชูเรื่องท่องเที่ยวควบกับรักษาสุขภาพ ปัจจัยข้างต้นมองเป็นบวกกับหุ้นในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม โรงพยาบาล และการแพทย์ สำหรับตลาดหุ้นไทยวานนี้พบว่า นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิ 1.1 พันล้านบาทแต่สถาบันซื้อเล็กน้อย 393 ล้าน โดยแนะรอติดตามตัวเลขแรงงานในคืนวันศุกร์ พร้อมกับความเห็นของ Trump ช่วงวันที่ 20 ม.ค. เชื่อว่าหลังจากทราบปัจจัยข้างต้นตลาดจะเริ่มมีทิศทางที่ชัดเจน วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1380 – 1400 เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังแนะTrading ในหุ้นที่มีปัจจัยบวก อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ศูนย์การค้า (CPN) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) การเงิน (MTC SAWAD)
BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 170.00 บาท)
ชอบ BBL ด้วยงบดุลแข็งแกร่ง และ Valuation ที่ไม่แพงซื้อขายที่ 0.5x PBV'25E หากเทียบกับความสามารถในการทำกำไรในระยะยาว ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวเปาะบางทำให้การขยายสินเชื่อในปี 2024 ขยายตัวต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย แต่กำไรสุทธิยังเติบโตได้ 6.6% ในปี 2024 อย่างไรก็ดี คาดกำไรจะเติบโตชะตัวที่ 2.6%/4.4% ในปี 2025-26 ส่วนหนึ่งเพราะ NIM ปรับลดลงล้อกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ด้าน ROE จะปรับเพิ่มขึ้นที่ 8.2% ในปี 2024 และ 8% ในปี 2025-26
KTB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 24.00 บาท)
มีมุมมองเป็นบวกต่อการควบคุมค่าใช้จ่ายการดำเนินงานดีขึ้นทำให้ปรับคาดการณ์กำไรสุทธิเพิ่ม 2-3% ในปี 2024-26 โดยคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2024 เติบโตแข็งแกร่งที่ 15.6% และกำไรมีแนวโน้มเติบโตชละตัวที่ 3.1%/4.4% ในปี 2024-26 (ไม่รวมผลกระทบจากโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ของ ธปท.) โดยมองว่า KTB มีจุดแข็งในการควบคุมคุณภาพสินเชือ่ได้ดี โดยคาดว่า NPL ratio จะทรงตัวที่ 3% ในปี 2024-26 และสำรองหนี้ฯ เพียงพอรองรับความไม่แน่นอนในอนาคต
#PiDaily #ข่าววันนี้ #ตลาดหุ้น #Trump #บลพาย #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์