พปชร.จี้ รัฐบาลเคลียร์ให้ชัดปมเมียนมาไม่ปล่อย 4 ลูกเรือประมงไทยตามกำหนด ซัดการช่วยเหลือไร้ประสิทธิภาพ เปิดทางให้กล่าวหาคนไทยฝ่ายเดียว
เมื่อวันที่ 8 ม.ค.68 นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ และนายชัยมงคล ไชยรบ รองหัวหน้าพรรค พร้อมด้วย ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กรรมการบริหารพรรค และ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เช่นนายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ ส.ส.หนองคาย เขต 1 นายคอซีย์ มามุ รองหัวหน้าพรรค และ ส.ส.ปัตตานี เขต 2 นายวิริยะ ทองผา มุกดาหาร เขต 1,และนายสุธรรม จริตงาม ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 6 เปิดเผยถึง กรณีรัฐบาลเมียนมาไม่ปล่อย 4 ลูกเรือประมงไทยว่า ตามที่รัฐบาลแถลงข่าวไว้อย่างแข็งขันว่า ลูกเรือไทยจะได้กลับบ้าน ในวันที่ 4 มกราคม 2568 แต่มาวันนี้กลับไร้วี่แวว ทำให้คนไทยต้องติดคุกเมียนม่ามานานกว่า 40 วันแล้ว รัฐบาลเองก็ตอบคำถามแบบน้ำท่วมปาก ไม่บอกรายละเอียดแก่คนไทยโดยอ้างว่า อยู่ระหว่างดำเนินการ จึงเห็นได้ว่า คำพูดของรัฐบาลเชื่อถืออะไรไม่ได้ ทั้งที่ญาติพี่น้องคนไทยต้องการคำตอบที่ชัดเจน ตนเห็นว่ารัฐบาลขาดประสิทธิภาพในการดำเนินการ ทั้งที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของคนไทยเป็นเรื่องเร่งด่วน และไม่ควรปล่อยเมียนม่ากล่าวหาและดำเนินคดีคนไทยไปโดยลำพัง โดยขาดการพิสูจน์ความถูกต้องซึ่งเป็นสิทธิโดยชอบของฝ่ายไทย
ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์ กล่าวว่า การที่เรือรบเมียนมาใช้อาวุธยิงเข้าใส่กลุ่มเรือประมงของไทย บริเวณพื้นที่ด้านทิศตะวันตกของเกาะพยาม จ.ระนอง เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ปลายปีที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต และยังมี 4 คนไทยที่ถูกจับกุมตัวไป โดยรัฐบาลไม่เคยเปิดเผยพิกัดที่เกิดเหตุอย่างเป็นทางการ แต่กลับรับสมอ้างของฝ่ายเมียนม่าว่า เรือประมงไทยล้ำเขตแดนนั้น ม.ล.กรกสิวัฒน์ เห็นว่ามีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นใกล้บริเวณทะเลอาณาเขตของเกาะพยาม เกาะหลาม เกาะคัน ซึ่งฝ่ายไทยถือว่าเป็นของสยามตามพระราชหัตถเลขาของรัชกาลที่ 5 ค.ศ. 1891 ที่ยืนยันว่าปลายเขตแดนของไทยไปสิ้นสุดที่เกาะหลามและเกาะคัน แม้เมียนมาอ้างแผนที่เดินเรือของอังกฤษปี ค.ศ. 1948 และแผนที่แนบท้ายอนุสัญญา ค.ศ. 1868 ก็ตาม ย่อมถือว่าพื้นที่ทะเลดังกล่าวต้องมีตกลงกันต่อไป ดังนั้น การที่เรือรบเมียนม่าไล่ยิงเรือประมงไทยที่หมายเอาชีวิตลูกเรือจึงเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุเมื่อเทียบกรณีความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ที่จะใช้น้ำฉีดใส่เรือที่ล้ำเขตแดน ใช้เรือดันออกนอกพื้นที่ หรือการยิงเตือน กรณีเมียนม่าที่ประสงค์เอาชีวิตคนไทยจึงเป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่ควรยอมรับได้ และขัดกับบันทึกข้อตกลงระหว่างรัฐบาลราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลสหภาพพม่า ปี 2523 ข้อ 3 ว่ากรณีพิพาทใดๆ ต้องระงับด้วยสันติวิธี ตนเห็นว่า ท่าทีรัฐบาลไทยหย่อนยานและอ่อนแอเกินไปในการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของคนไทย
นายชัยมงคล กล่าวย้ำว่า พรรคพลังประชารัฐรู้สึกเป็นกังวลใจอย่างยิ่งต่อชีวิตของคนไทย จะเร่งติดตามถวงถามต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมทั้งในและนอกสภา เพื่อให้นำคนไทยกลับบ้านโดยเร็ว และรัฐบาลชุดนี้เปรียบเสมือนรัฐบาลเด็กเลี้ยงแกะ และบริหารประเทศอย่างไม่ตรงไปตรงมา เรื่องของลูกเรือประมงไทย 4 คน ก็ไม่ได้แสดงข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับทราบว่าใครลุกล้ำใครกันแน่ วันนี้พูดเพียงแค่ว่า ให้รอรับฟังจากรัฐบาล แต่ก็ได้แต่ความผิดหวัง ถึงแม้ว่าลูกเรือทั้ง 4 คนจะเป็นแค่คนหาเช้ากินค่ำ แต่เขาก็คือคนไทย และรัฐบาลต้องดำรงไว้ซึ่งอธิปไตยและศักดิ์ศรีของประเทศไทย นำคนไทยกลับคืนสู่แผ่นดินไทย พูดคุยกับเมียนมาอย่างต่อไปตรงมา ไม่ใช่ไปคุยกันใต้โต๊ะ
“ถ้านำกรณีนี้ไปเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่นักแสดงจีนโดนทางเมียนมาจับตัวไป ข้าราชการไทยกระวีกระวาดรีบประสานนำตัวกับคืนมาทันที แต่ชีวิตของลูกเรือไทยทั้ง 4 คนกลับไร้คุณค่า เสียงเรียกร้องของคนไทยไม่ได้รับการตอบสนองจากรัฐบาล พรรคพลังประชารัฐรู้สึกเป็นกังวลใจอย่างยิ่งต่อชีวิตของคนไทย เราจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดทั้งในและนอกสภา “นายชัยมงคล กล่าว