เจษฎาเทคนิคมิวเซียม จัดเต็ม รถไมโครคาร์ ส่งความสุขน้องๆ งานวันเด็กแห่งชาติ 2568 ที่ทำเนียบฯ

วันที่ 10 มกราคม ดร.ภาคภูมิ เดชสกุลฤทธิ์ กรรมการบริหารมูลนิธิเจษฎาเทคนิคมิวเซียม เปิดเผยว่า เจษฎาเทคนิคมิวเซียมได้รับเกียรติจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้นำรถโบราณเข้าร่วมในงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2568 ระหว่างเวลา 08.00 – 15.30 น. ณ ทำเนียบรัฐบาล โดยมี ท่านแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดงาน เพื่อส่งมอบความสุขให้กับเด็กและเยาวชน ตนจึงรู้สึกดีใจและปลาบปลื้มใจที่เจษฎาเทคนิคมิวเซียมได้เป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งในการจัดกิจกรรมเพื่อเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา

ดร.ภาคภูมิ กล่าวว่า “สำหรับคำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ที่ท่านแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบให้เด็กไทย เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2568 คือ “ทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง” ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลจะสนับสนุนให้เด็กไทยได้ตระหนักถึงคุณค่าของตนเอง และเรียนรู้ทุกๆ โอกาสที่เข้ามาในชีวิต สามารถเลือกที่จะคิด เลือกที่จะทำ และเลือกที่จะวางอนาคตในแบบที่ต้องการ เพื่อสร้างคุณค่าและความภาคภูมิใจให้แก่ตนเอง ครอบครัว และสังคม ตนจึงหวังว่าน้องๆ หนูๆ จะนำแนวคิดและคำสอนของท่านนายกรัฐมนตรีมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตให้ดียิ่งขึ้นไป”

ทีมช่างของเจษฎาเทคนิคมิวเซียมมีความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อเตรียมความพร้อมของรถ ซึ่งขณะนี้เราได้นำรถโบราณ จำนวน 8 คัน ไปจอดด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พร้อมให้น้องๆ หนูๆ ได้มาสัมผัสและทดลองนั่งแล้ว ซึ่งประกอบไปด้วย

1. รถสามล้อตุ๊กตุ๊กหน้ากบ DAIHATSU MIDGET สีฟ้า ผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก เป็นรถบรรทุกสามล้อขนาดจิ๋วของประเทศญี่ปุ่น การผลิตในรุ่นแรกๆ นั้น ห้องคนขับสามารถนั่งได้คนเดียว แต่สำหรับรุ่นนี้ผลิตออกมาในปี ค.ศ.1959 ตอนหน้าของรถนั่งได้ 2 คน ใช้เครื่องยนต์ 2 จังหวะ ขนาดความจุ 305 ซีซี ให้กำลัง 12 แรงม้า

2. รถ SEAB Flipper II เป็นไมโครคาร์ 4 ล้อ สัญชาติฝรั่งเศส มีขนาดเล็ก ทำจากพลาสติกแทบทั้งคัน ห้องโดยสารแบบปิด นั่งได้ 2 คน เครื่องยนต์เบนซินสูบเดียวขนาด 47 ซีซี ด้วยความที่เป็นรถยนต์ขนาดเล็กมาก ดังนั้น Flipper จึงผลิตออกมาโดยไม่ต้องขอใบอนุญาต ที่สำคัญคนขับหรือผู้ซื้อไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตขับขี่ แต่ต้องมีอายุ 14 ปีขึ้นไป

3. รถ Microcar Sachs RJ49 เป็นไมโครคาร์ของประเทศฝรั่งเศส ผลิตโดยบริษัทฌองนู (Jeanneau) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเรือสำราญ โดยเปิดตัวในปี ค.ศ.1980 โดยมีอีกชื่อหนึ่งว่า RJ49 โดย RJ มาจากชื่อผู้ออกแบบ Jean Rondeau ส่วน 49 มาจากขนาดเครื่องยนต์ ซาคส์ (Sachs) ขนาด 49 ซีซี ด้วยความที่ Jeanneau เป็นบริษัทผลิตเรือยนต์ ทำให้หลายคนเรียกรถรุ่นนี้ตามชื่อเครื่องยนต์ว่าไมโครคาร์ ซาคส์ (Microcar Sachs)

4. รถ ERAD CAPUCINE รถไมโครคาร์สัญชาติฝรั่งเศส ผลิตในปี ค.ศ.1978 โดย Daniel Renard ผู้ที่มีความรู้เพียงชั้นมัธยมศึกษา แต่มีใจรักในการเป็นช่างซ่อมรถยนต์ เขาจึงตัดสินใจเปิดอู่ซ่อมรถเล็กๆ ในเมือง จนกระทั่งต่อมารถของเขาสามารถผลิตและจำหน่ายได้จำนวนมาก ตัวถังรถเป็นเหล็กหุ้มด้วยพลาสติกทั้งหมด เครื่องยนต์สูบเดียว 2 จังหวะ ขนาด 47 ซีซี มีทั้งที่เป็นระบบขับเคลื่อนล้อหน้าและระบบขับเคลื่อนล้อหลัง

5. รถ Arola TYPE 12 เป็นรถไมโครคาร์ จากประเทศฝรั่งเศส ผลิตโดยบริษัท อาร์โอลา ซาร์ล (Arola SARL) ระหว่างปี 1975-1982 ผลิตออกมา 3 รุ่น คือ รุ่น 10, 11 และ 12 ตัวรถยนต์ทำจากพลาสติกโพลีเอสเตอร์ ภายในมีเบาะนั่งคนขับสำหรับคนเดียว แบบเรียบไม่มีพนักพิงหลัง ควบคุมรถด้วยแฮนด์แบบรถจักรยานยนต์ ซึ่งสามารถขับขี่ได้โดยไม่ต้องมีใบอนุญาต สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

6. รถ Mirage3 ไมโครคาร์ สัญชาติอิตาลี ผลิตโดย อาวโต มิราจ (Auto Mirage) ในปีค.ศ.1976 ใช้ชื่อว่า อาวโต มิราจ เตร (Auto Mirage 3) คำว่า เตร หรือ 3 มีความเป็นไปได้ที่จะมาจากการที่รถคันนี้เป็นรถ 3 ล้อ (2 ล้อหน้า 1 ล้อหลัง) และมีชื่อเรียกสั้นๆ ว่า มิราจ เตร (Mirage 3) ใช้เครื่องยนต์เบนซินสูบเดี่ยว แบบ 2 จังหวะ ขนาด 49.9 ซีซี เกียร์ธรรมดา 3 สปีด ระบายความร้อนด้วยลม ให้พลัง 4 แรงม้า วางเครื่องด้านหลัง ขับเคลื่อนล้อหลังผ่านโซ่เหมือนกับจักรยานยนต์ ระบบกันสะเทือนแบบไฮโดรลิกทั้ง 3 ล้อ ตัวรถมีน้ำหนัก 200 กิโลกรัม

7. รถ Tomcar เป็นรถไมโครคาร์สัญชาติฝรั่งเศส ที่ผลิตในช่วงต้นทศวรรษ 1980 เป็นรถที่มีน้ำหนักเบา มีเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ขนาด 125 ซีซี บรรจุผู้โดยสารได้ 2 ที่นั่ง และสามารถขับได้โดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ตัวเครื่องสร้างจากโพลีเอสเตอร์เคลือบบนโครงแบบท่อ มีให้เลือก 2 รุ่น เปิดประทุน และ ซีดาน มีระบบดิสก์เบรคที่มีประสิทธิภาพและมีระบบทำความร้อนในห้องโดยสาร

8. รถ Citroen HY สีพาสเทล อาจเรียก Type H หรือ H Van ก็ได้ เป็นรถตู้ขนส่งสินค้า หน้าตามีเอกลักษณ์ มีชื่อเล่นว่า “หน้าหมู” ขนาดเครื่องยนต์ 1,628 ซีซี ผลิตโดยบริษัทรถยนต์ซีตรองของฝรั่งเศส ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างปี ค.ศ.1947-1981 จำนวนการผลิตทั้งสิ้น 473,289 คัน มีขับขี่ให้เห็นทั่วไปบนถนนของฝรั่งเศส เบลเยี่ยม และเนเธอร์แลนด์

ดร.ภาคภูมิ เพิ่มเติมว่า “ตนและคณะที่ปรึกษามูลนิธิเจษฎาเทคนิคมิวเซียม อาทิ พลเอก วรวิทย์ ชินะนาวิน พลเอก วุทธิ์ วิมุกตะลพ พลเรือเอก รพล คำคล้าย พลเรือเอก ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ พลโท มนัส เปาริก พลโท บรรพต งามกัณหา พลตรีหญิง นวรัตน์ บวรศักดิ์ ผศ.ศิริ หนูแดง คุณยงจิตต์ สุนทร-วิจารณ์ คุณอภิสิทธิ์ ธรรมใจ คุณสุพจน์ อ่อนบุญมี และทีมงานเจษฎาเทคนิคมิวเซียมทุกคน ตั้งใจทำอย่างเต็มกำลังความสามารถเพื่อให้คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง น้องๆ หนูๆ ที่มาเที่ยวงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล ได้รับความสนุกสนานและความสุขกลับบ้านไปอย่างแน่นอน”

สำหรับรถไมโครคาร์ จำนวน 7 คัน ของเจษฎาเทคนิคมิวเซียมจอดจัดแสดงให้ได้รับชมกันบริเวณสนามหญ้า หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งน้องๆ หนูๆ จะได้สัมผัสรถคันจริงได้อย่างใกล้ชิด และสามารถทดลองนั่งและถ่ายรูปกับรถโบราณของเราได้อีกด้วย เมื่อถ่ายรูปแล้วอยากให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์ลงสื่อโซเซียล Check in และ Share ออกไปเยอะๆ เพราะบางท่านยังไม่ทราบว่าเรามีรถโบราณไปร่วมจัดแสดงด้วย…ที่สำคัญน้องๆ หนูๆ อย่าลืมสอบถามประวัติรถโบราณกับเจ้าหน้าที่ประจำรถด้วยว่าแต่ละคันมีประวัติความเป็นมาอย่างไร ขอให้ลองรับฟังเพื่อเป็นสาระประโยชน์ด้วยนะครับ ส่วนรถโบราณอีกหนึ่งคัน คือรถ Citroen HY ที่ใช้เป็นรถให้บริการเครื่องดื่มเย็นๆ กับทุกท่านที่มาร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ จะจอดอยู่ข้างกับกองอำนวยการของทำเนียบรัฐบาล และบูธของ Seed Book ซึ่งเป็นจุดที่สังเกตได้ง่ายและชัดเจน

“ในโอกาสนี้ผมขอเชิญชวนให้ท่านผู้ปกครองที่พอมีเวลาว่างได้พาลูกหลานไปเที่ยวงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล กันให้มากๆ นอกจากท่านจะได้ชมรถโบราณของเจษฎาเทคนิคมิวเซียมแล้ว ยังกิจกรรมอื่นๆที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ น้องๆ จะได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมตึกไทยคู่ฟ้า ห้องทำงานนายกฯ ได้ทดลองอ่านข่าวสวมบทบาท “โฆษกรัฐบาล…นิวส์จิ๋ว” ณ ศูนย์แถลงข่าวนารีสโมสร ร่วมส่งข้อความ “อยากบอก #นายกฯ แพทองธาร” และกิจกรรมแสนสนุกรับของรางวัลมากมาย ในวันเสาร์ที่ 11 ม.ค. เวลา 08.00-15.30 น. ณ ทำเนียบรัฐบาล เขตดุสิต กทม.” ดร.ภาคภูมิ กล่าวปิดท้าย