เติ้ล ธนพล ควงแฟนสาว น้อยหน่า เปิดใจครั้งแรก! ผันตัวทำธุรกิจขายหมูหัน เคยคิดบวชไม่สึก ย้อนเล่าแตงโม เคยเข้าฝัน บอกหนาวทรมาน
อดีตพระเอก เติ้ล ธนพล ควงแฟนสาว น้อยหน่า สาวิตรี มาเปิดใจในรายการคู่กันเป็นครั้งแรก เรียกได้ว่าผู้หญิงคนนี้ทำให้หนุ่มเติ้ลเปลี่ยนการใช้ชีวิตแบบสุดๆ อัพเดทชีวิตหลังหายหน้าหายตาไปจากวงการบันเทิง ไปบวชนานกว่า 9 เดือน ล่าสุดผันตัวเองมาทำอาชีพพ่อค้าขายหมูหัน ย้อนเล่าเหตุการณ์เพื่อนสนิท แตงโม ภัทรธิดา มาเข้าฝัน ! ในรายการคุยแซ่บShow ทางช่องOne31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร
เป็นครั้งแรกของคุณน้อยหน่าที่ได้มาออกรายการตื่นเต้นมั้ย ? น้อยหน่า : “ตื่นเต้นค่ะ”
นี่ถือเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการต่อหน้าสาธารณชนรู้สึกยังไงบ้าง ? น้อยหน่า : “ก็ดีใจที่พี่เขาเปิดตัวออกสื่อ”
คบกันมานานหรือยัง ? น้อยหน่า : “ระยะนึงแล้วค่ะ เกือบปี”
เจอกันได้ยังไง ? น้อยหน่า : “พอดีมีพี่ที่ทำธุรกิจด้วยกันที่นครนายกเขาวิดีโอคอลคุยกับพี่เติ้ลว่าจะไปเที่ยวที่หาด เราอยู่ในวงนั้นด้วยก็เลยเสนอหน้าเข้าไป หนูไปด้วยได้มั้ย”
ภาพแรกที่เห็นน้อยหน่าโผล่เข้ามา ปิ๊งเลยมั้ย ? เติ้ล : “ไม่ครับ ก็เป็นผู้หญิงธรรมดาๆ คนนึงที่อยากมาเที่ยว อยากมาหา ก็มาครับยินดีต้อนรับ”
เจอกันครั้งแรกเป็นยังไง เจอตัวจริง ? น้อยหน่า : “ก็เหมือนกันก็เฉยๆ คือเราไม่ได้อะไร”
ยังไม่ได้มีใครชอบใคร ? เติ้ล : “ใช่ ผมก็ยังวุ่นๆ กับการทำงานอยู่”
แล้วมันเริ่มต้นมาได้ยังไง ? น้อยหน่า : “ด้วยความทำบุญของเขานั่นแหละ มาชวนทำบุญไปโน่นมั้ยไปนี่มั้ย”
ตอนชวนทำบุญเราคิดอะไรหรือยัง ? เติ้ล : “ยัง แค่อยากชวนทำบุญเฉยๆ เราจะมีการคุยผ่านทางไลน์ตลอด ทานข้าวหรือยัง ทำอะไรอยู่อะไรประมาณนี้ทั้งวัน”
งั้นแสดงว่าน้อยหน่าก็เป็นคนจีบก่อน ? น้อยหน่า : “แต่ตี 5 พี่โทรมาตลอดเลยไปใส่บาตร”
เจอตัวกันหรือยังที่คุยกันเยอะๆ ? น้อยหน่า : “เจอที่หาดแล้วเพราะว่าหนูไปเที่ยวที่หาดพี่เขา”
เจอครั้งแรกรู้สึกปิ๊งมั้ย ชอบมั้ย ? น้อยหน่า : “ในมุมหนูอาจจะเป็นไปสอนพี่เขามากกว่าวันนั้นเรามาดื่มกันแล้วเขางี่เง่านิดหน่อย หนูก็บอกว่าไม่ได้นะแบบนี้ เขาคิดเรื่องอื่นที่ไม่ใช่เรื่องตัวเองเขาเอาเรื่องของคนอื่นมาคิดเยอะไปหน่อย”
มารู้สึกดีๆ ต่อกันระยะเวลาผ่านไปเท่าไหร่ ? น้อยหน่า : “หลายเดือนนะที่เราคุยกัน”
ตกลงเป็นแฟนกันตอนไหน ? เติ้ล : “เรียกว่าผมโดนรวบรัดตัดตอน(ยิ้ม)”
น้อยหน่า : “ทุกอย่างมันเกิดเร็ว”
โมเมนต์การเป็นแฟนกับก่อนเป็นแฟนต่างกันมั้ย ? น้อยหน่า : “ไม่ต่างนะก็คุยกันปกติ”
เติ้ล : “ให้เกียรติกันมากขึ้นแล้วก็ฟังกันมากขึ้น เหมือนการมาเติมเต็มทั้ง 2 ฝ่าย ผมก็ร้อนเขาก็เย็น”
มันทำให้เราเย็นลงมั้ยพอคนที่อยู่ข้างๆ เขาเย็น ? เติ้ล : “คือเราไม่รู้ว่าเราทะเลาะกับอะไรอยู่ เราร้อนไปแต่อีกฝ่ายนึงก็แฮ่ๆ พี่เป็นอะไร เขาก็จะคอยทำประมาณนี้ ไอ้เราก็ร้อนๆ จนเราไม่ทะเลาะแล้วไม่รู้จะคิดไปทำไม”
น้อยหน่า : “มันไม่ใช่เรื่องของเราไง แล้วเอามาทำไม”
คุณน้อยหน่าประทับใจอะไรในดวงอาทิตย์ดวงนี้ ? น้อยหน่า : “ไม่เหมือนพระเอกไม่เหมือนอะไรเลย เรียบง่ายมาก กินง่าย ทานง่าย ทุกอย่างง่ายหมด แต่มุมไหนที่หนูไม่รู้แล้วพี่เขาผ่านมาเขาจะคอยสอนเราตลอด บางทีหนูก็ฟังเขามาตลอด มันก็ไปด้วยกันได้ ธุรกิจที่หนูทำอยู่เราไม่รู้จะไปยังไงแต่บางทีพี่เขาผ่านมาแล้วก็ไปกันต่อได้เลย”
เติ้ลประทับใจอะไรในตัวน้อยหน่า ? เติ้ล : “เขาเป็นคนที่มีความคิดดีไม่เคยทำร้ายใคร ทำให้เรารู้สึกว่ามันมีคนแบบนี้ที่อยู่บนโลกใบนี้ด้วย คิดดี ทำดี พูดดี แต่บางทีเราถึงจะผ่านการบวชมาแล้วเราก็ยังมีความร้อน ยังมีความคิดที่ว่าไม่ได้นะเราถูกรังแก แต่อันนี้ปล่อยมันเถอะ ค่อยๆ แก้ทีละเปลาะ”
น้อยหน่า : “บางทีเขาคิดเกินไป หนูบอกว่าเอาแค่วันนี้อยู่ได้มั้ย พรุ่งนี้ตื่นมาว่ากันใหม่มันยังไม่ถึงที่พี่คิดเลย ช่างมันไปก่อน ไม่งั้นเราจะปวดหัวนะ”
แล้วใครหวานกว่าใคร ? น้อยหน่า : “นี่(ชี้เติ้ล) ดูแลทุกอย่างนะ หนูไม่เคยดูแลเขาเลย เสื้อผ้าหน้าผม ครีม ทุกอย่างพี่เขาดูหมดเลือกให้ หนูจะลุยๆ แมนๆ จะไม่มาสนใจเรื่องแบบนี้ ไม่มีสายหวาน”
คุณน้อยหน่าเคยทะเลาะกับคุณเติ้ลมั้ย ? น้อยหน่า : “ไม่เคยค่ะ”
คุณเติ้ลเคยทะเลาะกับคุณน้อยหน่ามั้ย ? เติ้ล : “ผมคิดว่าผมทะเลาะนะ ผมจริงจังมากจนผมถามว่าจะเอายังไงมันเสียเวลา ถ้าไปกันไม่ได้ไม่ต้องคุยกันแล้วเสียเวลา เขาถามพี่เป็นอะไร ยิ้มใส่”
เขาทำอะไรให้ถึงได้ถามว่าจะเอายังไง เราจะไปกันต่อมั้ย ? เติ้ล : “มันมีในส่วนของเรื่องธุรกิจหลายๆ อย่างที่เราจะต้องลง ต้องวางแพลนที่จะทำหลายๆ อย่าง นี่ก็เย็นเหลือเกิน”
น้อยหน่า : “มันมีเรื่องที่เราจะทำกันแต่ยังบอกไม่ได้ แล้วอีกฝ่ายนึงเขาก็บ่นๆ มา หนูบอกมันไปได้ใจเย็นๆ มันยังไม่ถึงเวลา จะโทรไปบอกไม่ไปแล้วเลิกแล้ว หนูบอกไม่ใช่ละ ถ้าอย่างนั้นเลิกก็เลิกรับให้ได้นะ เลิกที่จะทำตัวนั้น ก็ไม่เห็นโทรไปนิ ยังไม่ถึงเวลาที่เราต้องไปทะเลาะมีอีกหลายอย่างที่เราต้องทำ”
เติ้ลคบน้อยหน่าทำให้ความคิดเราเปลี่ยน ? เติ้ล : “เย็นลงครับปรับเปลี่ยนวิสัยทัศน์ใหม่ ค่อยๆ แก้ไปทีละจุด อะไรที่มันยังมาไม่ถึงอย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ อย่าร้อนเกินไป จริงๆ แล้วมันไม่ได้มีอะไรเลย ค่อยๆ คิดค่อยๆ ทำค่อยๆ ปฏิบัติไป”
ธุรกิจหมูหัน น้อยหน่าขายหมูหันอยู่แล้ว คุณเติ้ลเข้ามาซัพพอร์ตตรงไหนบ้าง ? น้อยหน่า : “ใช่ หนูขายหมูหันอยู่แล้ว พี่เติ้ลเขามาช่วงประมาณตุลา ก็บอกว่าหนูทำตัวนี้อยู่นะพี่ พี่ทำมั้ย แล้วก็คุยกันโอเคไปต่อจับมือเดินหน้าต่อ”
เติ้ล : “เดินหน้าต่อขยายสาขา เล็กๆ ไม่ใหญ่ๆ เติ้ล ใช้เวลาฝึกนานเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นการแล่ การดูเลือกคัดหนัง การหมัก การย่างเนื้อ ย่างเสร็จต้องมาตากให้เย็นแล้วก็มาทำหนังกรอบขั้นตอนที่ยากที่สุดก็คือการทำหนังกรอบ”
ทำไมตอนนี้ดูสดใสจัง ? เติ้ล : “มันไม่มีอะไรให้เครียด จะมีปัญหาอะไรเครียดๆ มาคุยกับเขาเลย”
น้อยหน่า : “พอเขามีปัญหามาพี่เอาเบอร์มาเดี๋ยวหนูคุยดีกว่า จบที่เราเบาที่สุด”
ก่อนจะมีความรักที่สดใสขนาดนี้ บวชมากี่เดือน ? เติ้ล : “ทั้งหมด 9 เดือนครับ ธรรมยุต 2 แล้วก็มหานิกาย 7”
ทำไมเราถึงได้บวชยาวนานขนาดนั้น ? เติ้ล : “ผมมีความตั้งใจอยากจะบวชมาตั้งแต่ 20 กว่าๆ แต่ด้วยหน้าที่การงานของเราพอตั้งใจว่าจบเรื่องนี้เดี๋ยวจะบวชแล้วละครก็เข้ามา แล้วแต่ก่อนนี้ไม่ได้เข้ามาทีละเรื่องสองเรื่อง เข้ามาทีละ 4 เรื่อง มันก็ 1 ปีพอดี ก็ต้องผลัดไปอีกปีนึง พอจบเข้ามาอีกแล้วอีก 4 เรื่องมันก็จะเป็นอย่างนี้ไม่ได้บวชสักที จนมาเป็นเรื่องเป็นราวตอนนั้นก็เป็นคดีความไม่สามารถบวชได้ พอพูดว่าจะบวชๆ ทีไรทุกอย่างเหมือนกับว่ามีเรื่อง พอเช้านี้บอกจะบวชบ่ายๆ มีข่าวอะไรเข้ามาเต็มไปหมด”
สุดท้ายพอไปบวชได้จริงๆ ทำไมบวชนานได้ตั้ง 9 เดือน เห็นว่าไม่อยากสึก ? เติ้ล : “เป็นคนที่ไม่ได้ไม่ได้ ไม่ได้ต้องได้ทุกอย่างต้องทำให้สุด ในชีวิตนี้ผมคิดว่าผมผ่านมาหมดแล้วไม่ว่าจะเป็นสูงสุดต่ำสุดแล้วก็ผ่านชีวิตหลังความตายก็เคยมาแล้ว ก็เลยอยากจะไปสักครั้งนึงเอาให้สุดเลย อยากจะบวชให้รู้ให้หมด”
ตอนแรกบวชพราหมณ์ 2 เดือน ? เติ้ล : “บวชพราหมณ์ครับ ธรรมยุตก็คือสายวัดป่ากว่าจะบวชได้ธรรมยุตใช้เวลานานกว่าจะบวชได้ ก็ใช้ชีวิตเป็นพราหมณ์แต่ก็มีเหตุที่เกิดขึ้นตอนเดินบิณฑบาตรไปเดินเหยียบตะปู 2-3 ตัวแล้วมันบวมขึ้นมาเหมือนติดเชื้อในกระแสเลือดแล้ว พ่อกับแม่ก็เลยไปรับออกมาแล้วบอกว่าถ้าต้องทรมานตนขนาดนี้ก็บวชแถวๆ บ้านดีกว่ามั้ย ผมก็บอกว่า ไม่ ถ้าอย่างนั้นผมจะขอไปบวชที่ใต้ที่วัดนาทวีที่พระอาจารย์ของผม ท่านก็บอกว่าก็แล้วแต่ทะเลาะกันเป็นเดือนเลย จนมีคำพูดคำนึงที่เขาบอกผมมาว่าก็แล้วแต่นะแล้วถ้าแม่ตายแล้วใครจะมาเผา แต่ก็ดีครับดีกว่าไปบวชที่อื่น เช้ามาผมก็เดินบิณฑบาตรแม่ก็ออกมาใส่บาตรทุกเช้าเลย”
ครั้งแรกที่เห็นคุณแม่ใส่บาตรรู้สึกยังไงในความเป็นพระ ? เติ้ล : “มันรู้สึกตื้นตัน รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก เราตั้งใจตั้งแต่เด็กแล้วว่าเราอยากจะบวชให้เขาอยากจะตอบแทนบุญคุณเขา คุณแม่เขาก็ดีใจที่เขาเห็นลูกบวชสักที”
เห็นบอกว่าจะไม่สึก ? เติ้ล : “จะไม่สึกหรอกแต่ก็ไม่ขอฤกษ์สึกกับพระอาจารย์ อยู่วัดก็สงบดีรู้สึกปล่อยวาง รู้สึกผ่อนคลาย จนแม่แอบไปขอฤกษ์สึกเขากลัวลูกเขาไม่สึก”
ได้เรียนรู้สัจธรรมอะไรบ้าง ? เติ้ล : “หลักๆ เลยพระอาจารย์จะสอนเรื่องการพิจารณาตน เพราะท่านรู้ว่าผมเป็นคนที่ร้อนมากแล้วทำอะไรจริงจังบางทีจริงจังเกินไป ท่านก็จะสอนเน้นเรื่องการพิจารณาตนว่าตอนนี้คุณรู้สึกอะไรอยู่ คุณกำลังทำอะไรอยู่ แล้วคุณจะดันไปต่อหรือว่าจะถอยออกมาก้าวหนึ่งต่อเพื่อตั้งหลักแล้วออกไปสู้ใหม่ แล้วก็ในเรื่องของศีล สมาธิ สติ ปัญญา อันนี้ต้องรักษาไว้ บางทีหลุดนะร้อนเกินไป ไปถือศีลเลย 7 วัน 9 วัน”
มีเรื่องลี้ลับเกิดขึ้นตอนบวช ? เติ้ล : “ตอนบวชพราหมณ์ครับ ตอนนั้นยังนุ่งขาวห่มขาวอยู่ก็จะมีสัตว์เลี้ยงที่น้องๆ เอามาให้ก็คือเต่าซูคาต้าตัวนึงอยู่นอกห้อง เราก็จะให้แตงโมหรือผักกินพอมาคืนหนึ่งรุ่นน้องที่บวชด้วยเขาก็มาเคาะห้อง พี่ๆ แตงโมตกน้ำ เราก็คิดว่าก็ไปเก็บสิวะตอนนั้นประมาณตี 2 ไม่ใช่พี่ แตงโมเพื่อนพี่อ่ะตกน้ำ เท่านั้นแหละผมก็ลุกพรวดขึ้นมาดูข่าวเหตุการณ์เป็นยังไงแล้วก็เข้าโบสถ์ไปสวดมนต์ขอแล้วก็คอยถามลูกน้องว่าเป็นไงบ้าง จน 6 ชั่วโมงผ่านไป จะเล่าว่าผมกับแตงโมเข้าวงการไล่เลี่ยกัน ถ่ายละครเรื่องแรกรักแท้แก้ได้ตั้งแต่เด็กๆ เลย เป็นเพื่อนสนิทกันมาในกองเราแทบจะถ่ายไปออนไปในตอนนั้น”
ตอนนั้นสนิทกันขนาดไหน ? เติ้ล : “ตอนช่วงปี 54 ตอนนั้นน้ำท่วมผมไม่สามารถเอารถออกได้เลยสักคันไม่มีรถใช้ก็กินอยู่กับกอง โมเขาก็จะถามว่าพี่ไม่อยากกลับบ้านบ้างเหรอ บ้านก็อยู่แค่แปดริ้วแต่นี้เราถ่ายกันแค่ชลบุรี ก็อยากแต่มันไม่มีรถจะทำยังไง เอารถออกมาไม่ได้เลย เขาก็ให้พ่อโสขับรถตู้เอามาให้ใช้ 4 เดือน ปัญหาเงินตอนนั้นก็ไม่สามารถเบิกจ่ายอะไรได้เลย เขาก็ถามว่าพี่ มึงมีเงินใช้เปล่า ไม่มีอ่ะ ก็กินข้าวกอง เขาก็เอาให้ประมาณ 20,000”
3 วันก่อนเจอร่างเห็นว่าฝัน ? เติ้ล : “เขามาประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ มาบอกกับผมว่าพี่กูหนาว กูทรมาน กูหนาวมาก กูทรมาน แล้วผมก็สะดุ้งตื่นไปสวดมนต์ให้เขาเหมือนเดิม”
หลังจากที่เรารู้ข่าวว่าเจอร่างแล้วความรู้สึกเป็นยังไงบ้าง ? เติ้ล : “มันเหมือนกับเราสูญเสียเพื่อนที่รักไปคนนึง รักมากๆ มันแทบจะแบบว่าตอนน้ำท่วมเราแทบจะใช้ชีวิตเป็นพี่น้องครอบครัวไปไหนก็ไปด้วยกัน”
มีอยู่ช่วงนึงข่าวบอกว่าคุณเป็นโรคซึมเศร้าแล้วไปนั่งคุยกับตู้เย็น อันนี้จริงไม่จริงยังไง? เติ้ล : “ใช่ครับ นั่งหน้าตู้เย็น จริงๆ วันนั้นผมไปตรวจมาแล้ว ผมมาออกรายการนี้นะครับแล้วอีก 2 วันไปบวชแต่ก่อนหน้านี้ผมไปตรวจกับคุณหมอมาแล้วเขาบอกไม่ได้เป็นหรอก ไปมา 2 ที่คุณแค่กินเหล้าเยอะไปหน่อย แล้วผมก็มาออกรายการนี้แล้วพี่หนิงก็ถามคำถามนี้ว่า ทำไมเติ้ลถึงไปนั่งหน้าตู้เย็น ผมเลยบอกไปว่าผมเคยนั่งหน้าตู้รองเท้าไปแล้วแต่มันไม่อร่อย”
เคลียร์ตรงนี้ว่าไม่ได้เป็นซึมเศร้าแค่อาการขาดเหล้าเล็กน้อย ? เติ้ล : “ใช่ ของขาด (หัวเราะ)”
อยากบอกอะไรกันและกันหน่อยมั้ย ? น้อยหน่า : “อยากให้พี่เบาลงนิดนึง ถ้ามีอะไรเตือนหนูก็เตือนหนูได้เลย”
เติ้ล : “เป็นห่วงมากกว่า เขาเหมือนเป็นผ้าขาวที่คนอื่นจะมารังแกเขามากกว่า”.