ไม่ได้ขายใครมั่วๆ! ‘มท.1’ ยัน ‘กฟภ.’ ไม่ได้จ่ายไฟเอื้อ ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ แจงการดำเนินการ ‘เป็นไปตามสัญญารัฐต่อรัฐ-ได้รับไฟเขียวจากหน่วยมั่นคง-ก.ต่างประเทศ’ ลั่นหากพบหลักฐานทำผิด ตัดไฟทันที
วันที่ 10 ม.ค.2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่นายรังสิมันต์ โรมสส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ออกมาเรียกร้องให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ยุติการจ่ายไฟไปประเทศเพื่อนบ้าน เพราะกลายเป็นว่าไปจ่ายเอื้อให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ว่า การจ่ายไฟของการไฟฟ้าฯ เป็นการทำสัญญาแบบรัฐต่อรัฐ เราไม่ได้ส่งไฟล์โดยตรงไปให้กับคนที่ทำผิดกฎหมาย และเรามีนโยบายที่ชัดเจน ถ้าเราจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับประเทศเพื่อนบ้าน แล้วพบว่าเขาทำในเรื่องที่ผิดกฎหมายกระทบต่อความมั่นคงของเรา เราก็จะตัดไฟทันที ตามมาด้วยกันยกเลิกสัญญา ส่วนบริษัทคู่สัญญา เขาก็ได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลเมียนมา และได้รับการตรวจสอบจากหน่วยงานความมั่นคงและกระทรวงการต่างประเทศ ของประเทศไทยด้วย
เมื่อถามว่านายรังสิมันต์ ยืนยันว่ากระทรวงมหาดไทย มีอำนาจในการตัดไฟและไม่จ่ายไฟเลย นายอนุทิน กล่าวยอมรับว่า ใช่ แต่บริษัทคู่สัญญาต้องทำผิดระเบียบหรือผิดสัญญาก่อน จะไปฟังใครโดยที่ข้อมูลหลักฐานก็ไม่มี มีแต่ความเข้าใจของตัวเอง ความรู้สึกหรือการวิเคราะห์ของตัวเองทำไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องของสัญญาแบบรัฐต่อรัฐ และเราก็ไม่ได้ส่ง ไฟฟ้าไปที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือแหล่งผลิตยาเสพติด เราไม่เคยทำ ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยก็ตรวจสอบเรื่องนี้มาตลอด แล้วก็ตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงด้วย และการที่เราจะส่งไฟฟ้าไปประเทศเพื่อนบ้านได้เราก็ต้องได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานความมั่นคง
เราไม่ได้ไปขายใครมั่วๆ และถ้าเขาทำผิดกฎหมายผิดสัญญาเมื่อไหร่เราก็ จัดการยุติการจ่ายกระแสไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้รมช.มหาดไทย ได้ไปตอบกระทู้นายรังสิมันต์แล้ว และยืนยันไปว่า ยังไม่ได้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจริง อาจจะเป็นความห่วงใยของเขา เราก็รับฟังและจะไม่ทำให้มันเกิดขึ้น
"คนที่จะต้องแจ้งมาให้เราตัดกระแสไฟฟ้าต้องเป็นหน่วยงานความมั่นคง หรือต้องเป็นรัฐบาลของพม่า ไอ้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือพวกผลิตยาเสพติด ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกชนกลุ่มน้อย หรือพวกอะไรก็ตามที่อยู่แนวตะเข็บชายแดน มันไม่ใช่เป็นรัฐบาลกลาง เราไม่ได้เป็นคู่สัญญากับเขา และเราก็ไม่ได้สนับสนุนเขา ถ้ารัฐบาลกลาง บอกมาว่าให้หยุดเราก็ต้องหยุด หรือว่าหน่วยงานความมั่นคงของเรา พิสูจน์ทราบมาแล้วว่ามีการกระทำที่เอากระแสไฟฟ้าของเรา ไปทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย แจ้งมาให้เราหยุดเราก็หยุด แต่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคไม่ได้มีหน้าที่ไปตามถึงปลายทางว่าเขาใช้ไฟฟ้าอย่างไรบ้าง เราทำตามสัญญาของเรา และการที่เราจะทำสัญญาได้เราได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานต่างๆเหล่านี้อยู่แล้ว ไม่ใช่โยนอะไรมาที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอย่างเดียว ไม่ใช่ เราก็มีหน้าที่ขายไฟฟ้าไป ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดตามแนวชายแดนถ้าเขาสืบทราบมาว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคขายไฟ เอาไปใช้ทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย เขาก็ต้องแจ้งมาที่กระทรวงมหาดไทย เราก็จะแจ้งไปทางการไฟฟ้าให้ตัดการจ่ายไฟฟ้า มันมีขั้นตอนการดำเนินการอยู่แล้วหากเกิดสิ่งที่ผิดกฎหมายขึ้น" นายอนุทิน กล่าว