ไทยฮอนด้ารุกคืบปรับไลน์โรงงานลาดกระบัง ขึ้นไลน์ผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าทำตลาดปีนี้ เผยจับตลาดมอเตอร์ไซค์ยังได้รับผลกระทบจากปัญหาหนี้ครัวเรือน เศรษฐกิจชะลอตัว หวังตลาดรวมแตะ 1.7-1.75 ล้านคัน ส่วนไทยฮอนด้าส่ง 9 รุ่นใหม่ลุยตลาด หวังโต 2% ที่ประมาณ 1.36-1.4 ล้านคัน
นายยูอิจิ ซิมิซุ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ “ฮอนด้า” ในประเทศไทย เปิดเผยแนวการดำเนินธุรกิจในปี 2568 ซึ่งถือเป็นการฉลองครบ 60 ปี การเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดยบริษัทมีแผนที่จะแนะนำรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดถึง 9 รุ่น และในจำนวนนี้เป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) 2 รุ่น
ขณะนี้บริษัทได้ดำเนินการปรับปรุงไลน์การผลิตรถจักรยานยนต์ที่โรงงานไทยฮอนด้า ลาดกระบัง เพื่อรองรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งมีแผนเตรียมแนะนำออกสู่ตลาดในปีนี้อย่างแน่นอน
แม้ว่าภาพรวมของตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในปีที่ผ่านมา ตัวเลขยอดจดทะเบียนพบว่ามียอดลดลง
โดยเฉพาะในช่วง 5 เดือนสุดท้าย (ส.ค.-ธ.ค. 2567) มียอดลดลงไป 10% มียอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 24,500 คัน แต่โตขึ้น 13% เมื่อเทียบกับปี 2566 ส่วนปีนี้คาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าจะมียอดจดทะเบียนโต 1-4% มียอดอยู่ที่ 25,000-26,000 คัน
จะเห็นได้ว่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในปีที่ผ่านมา ที่สามารถจดทะเบียนได้ จะได้รับการสนับสนุนจากการส่งเสริมของรัฐบาลด้วยเงินอุดหนุน เป็นมูลค่า 18,000 บาท ส่วนปี 2568 จะได้รับเงินอุดหนุนลดลงเหลือคันละ 10,000 บาท เพื่อเป็นการจูงใจให้ผู้บริโภคหันมาใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น ถือเป็นหนึ่งปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นตลาด
แต่ต้องยอมรับว่าโจทย์ใหญ่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้ายังคงเป็นเรื่องราคาจำหน่าย และความสะดวกสบายในการใช้งาน ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องแก้โจทย์ตรงนี้ให้ได้ หากมีผู้ผลิตที่สามารถทำราคา รวมถึงตอบโจทย์การใช้งาน มีโอกาสเติบโตแบบรถอีวีได้อย่างแน่นอน
ที่ผ่านมา ฮอนด้าได้แนะนำรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสำหรับให้บริการเช่าสำหรับผู้ประกอบการ (B2B) เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้า อีกทั้งเป็นไปตามนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน ที่ฮอนด้ามุ่งมั่นมาโดยตลอด
แต่จากแผนงานที่บริษัทเตรียมเปิดตัวอีก 2 รุ่นใหม่นี้ จะเป็นจำหน่ายให้กับลูกค้าทั่วไป (B2C)
ส่วนภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ในปี 2567 ที่ผ่านมา มียอดจดทะเบียนที่ 1.71 ล้านคัน ลดลง 9% แบ่งเป็น รถจักรยานยนต์แบบครอบครัว 44%, รถจักรยานยนต์ออโตเมติก 53%, รถจักรยานยนต์สปอร์ต 2% และรถอีวี 1% ฮอนด้ามียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 1.38 ล้านคัน ลดลงน้อยกว่าตลาด โดยอยู่ที่ 6%
ปีนี้บริษัทประเมินว่า ตลาดรถจักรยานยนต์โดยรวมน่าจะอยู่ที่ 1.68-1.73 ล้านคัน โต 2% ขณะที่สัดส่วนการจำหน่ายจะในส่วนของรถจักรยานยนต์แบบครอบครัว จะลดลงเหลือ 42% และไปเพิ่มในส่วนของรถจักรยานยนต์ออโตเมติก เป็น 55% ส่วนฮอนด้ามียอดที่ 1.36-1.40 ล้านคัน
แต่เป้าหมายดังกล่าวยังต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยทั้งภาวะเศรษฐกิจโดยรวม มาตรการส่งเสริมจากภาครัฐ ความเข้มงวดของสถาบันการเงิน ปัญหาหนี้ครัวเรือนมีตัวเลขที่สูง สถานการณ์ของเศรษฐกิจโลก สงครามการค้า หากประเทศจีนถูกกีดกันจนทำให้เศรษฐกิจหดตัว จะทำให้ภาคการท่องเที่ยวของไทยได้รับผลกระทบด้วยเช่นเดียวกัน และน่าจะส่งผลต่อตลาดรถจักรยานยนต์ เนื่องจากถือเป็นตลาดที่มีความอ่อนไหวค่อนข้างสูง
แต่ทั้งนี้หากรัฐบาลมีมาตรการออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ และการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค เชื่อว่าจะช่วยขับเคลื่อนตลาดในปีนี้ให้มีการเติบโตต่อไป
“ปีนี้แม้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังมีความเปราะบาง แต่เรายังคาดการณ์ว่าตลาดจะเติบโต และฮอนด้าตั้งเป้าจำหน่ายถึงผู้ใช้อยู่ที่ 1.36-1.40 ล้านคัน หรือเติบโต 2% เรามุ่งมั่นกระตุ้นตลาดด้วยการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ 9 รุ่นในปีนี้ พร้อมพัฒนากลยุทธ์ด้านการขายและบริการในรูปแบบดิจิทัล เพื่อสร้างโครงสร้างตลาดที่แข็งแกร่ง และเพิ่มความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า”
นอกจากนี้ ไทยฮอนด้ายังได้มีการลงทุนอีกประมาณ 300 ล้านบาท เพื่อเป็นการดำเนินการต่อเนื่องสำหรับการเปลี่ยนป้าย ศูนย์บริการจัดจำหน่าย ฮอนด้าวิง เซ็นเตอร์ (Honda Wing Center) อีกประมาณ 450 สาขา ซึ่งจะเป็นการลงทุนประมาณสาขาละ 600,000-800,000 บาท จากก่อนหน้านี้ได้มีการลงทุนเปลี่ยนไปแล้ว 850 สาขา รวมเป็น 1,300 สาขาทั่วประเทศ
ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัว 2 รุ่น คือ All New Honda PCX 160 รถจักรยานยนต์สปอร์ตพรีเมี่ยม มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ มี 2 รุ่น คือ All New Honda PCX 160 รุ่น RoadSync ราคาแนะนำที่ 99,900 บาท รุ่น Standard ราคาแนะนำที่ 96,000 บาท และอีก 1 รุ่นพิเศษ Exclusive Edition จากสำนักแต่ง H2C by Honda ที่ราคาแนะนำที่ 107,500 บาท
และ Honda Giorno+ Disney Fantasia 85 Years Limited Edition ที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยการคอลแลบส์กับแอนิเมชั่นสุดพิเศษ Disney Fantasia รุ่นพิเศษ มีจำนวนจำกัดแค่ 2,000 คันเท่านั้น ราคาแนะนำ 73,700 บาท