เตือนฉบับ7 “อุตุฯ” ประกาศไทยยะเยือก 11-13 มกราฯ อุณหภูมิลดมากสุด 7 องศาฯ
GH News January 11, 2025 11:08 AM

เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2568 กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยรวมทั้งทะเลอันดามัน (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 13 มกราคม 2568) ฉบับที่ 7 (7/2568) ระบุ

ในช่วงวันที่ 11-13 ม.ค. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรง อีกระลอกจากประเทศจีน จะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอุณหภูมิลดลง 5-7 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบน จะมีอุณหภูมิลดลง 4-6 องศาเซลเซียส จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรง พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนล่างของภาค ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก ระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 13 ม.ค. 68

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กร มอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปในวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2568 เวลา 17.00 น.

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม.:(นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.)15 วันล่วงหน้า ระหว่าง 11- 25 ม.ค.68 init. 20251012 จากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) วิเคราะห์ตามผลจากแบบจำลองฯ เฉดสีแดงหมายถึงฝนหนัก สีเขียวหมายถึงฝนเล็กน้อย :

ช่วงวันที่ 11 - 13 ม.ค.68 มวลอากาศเย็นกำลังแรง ได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ลมหนาวพัดแรง อุณหภูมิลดลง อาจลดลงไปถึงภาคใต้ตอนบน โดยภาคเหนือ และอีสาน ลดลง 5-7 ซ. อากาศหนาวหลายพื้นที่ หนาวจัดยังคงเกิดขึ้นได้บริเวณยอดภู ยอดดอย ต้องเฝ้าระวังอากาศที่เปลี่ยนแปลง ระวังลมแรงและอากาศหนาวเย็น ส่วนภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นบ้างและตกหนักบางแห่งบริเวณภาคใต้ตอนล่าง (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส) คลื่นลมแรงขึ้น ระวังคลื่นซัดฝั่ง ชาวเรือต้องเฝ้าระวังเรือเล็กงดออกจากฝั่งโดยเฉพาะบริเวณอ่าวไทย

วันที่ 14 -25 ม.ค.68 มวลอากาศเย็นจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมเป็นระลอกๆ อุณหภูมิจะสูงขึ้นและลดลงสลับกันไป ฤดูหนาวยังไม่สิ้นสุด ยังสามารถสัมผัสอากาศหนาวเย็นถึงหนาวได้ต่อเนื่องบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ถึงปลายเดือนมกราคม ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นบ้างช่วง 15 - 17 ม.ค.68 บริเวณภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ช่วงหลังอุณหภูมิจะเริ่มอุ่นขึ้นแล้ว (ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ตามข้อมูลนำเข้าและประมวลผลใหม่ ใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจและติดตามสภาพอากาศ)

 

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้

 

ภาคเหนือ

อากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 13-19 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 10-17 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 25-29 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.

 

ภาคกลาง

อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

 

ภาคตะวันออก

อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

 

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

ทางตอนบนของภาค : อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส

ส่วนทางตอนล่างของภาค : มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง

ส่วนมากบริเวณจังหวัดพัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

อุณหภูมิต่ำสุด 19-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส

ตั้งแต่่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูง 2–3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูง 2–4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร

 

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล

อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูง 1–2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร

และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

 

กรุงเทพและปริมณฑล

อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.