ชาวชัยนาทแห่ซื้อหน้ากากอนามัย หลังค่าฝุ่นพิษสูงเกินมาตรฐานต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 11 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากตรวจสอบคุณภาพอากาศในพื้นที่ จ.ชัยนาทวันนี้ พบว่าค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 ยังคงเกินค่ามาตรฐานองค์การอนามัยโลก อยู่ในระดับสูงกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะผู้ป่วยและผู้ร่างกายอ่อนแอ ซึ่งเป็นค่าที่สูงต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 โดยวันนี้วัดได้สูงสุด 50.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทำให้สภาพอากาศโดยทั่วไปท้องฟ้ามีหมอกควันปกคลุมโดยทั่วไป ซึ่งพื้นที่จังหวัดชัยนาทนั้น สาเหตุหลักมาจากฝุ่นควันจากไฟป่า ที่ลอยข้ามจังหวัดมาจากพื้นที่ข้างเคียง ประกอบกับการลักลอบเผาในซังข้าวในที่โล่งของเกษตรกร รวมทั้งการเผาหญ้าวัชพืช และถ่านของชาวบ้าน
จากคุณภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพที่ดำเนินมาต่อเนื่องกันหลายวัน ทำให้ประชาชนเริ่มมีความกังวล ออกมาหาซื้อหน้ากากอนามัย ชนิดที่ได้รับการรับรองว่าสามารถกรองฝุ่นจิ๋วPM2.5 ได้ เอาไปไว้ใช้เวลาที่จะต้องออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้งนอกบ้าน เพราะหลายคนเกรงว่าถ้าสูดเอาฝุ่นจิ๋วPM2.5 เข้าไปจะทำให้เจ็บป่วยรุนแรงในระยะยาว
ขณะที่ ทางการจังหวัดชัยนาท ได้มีประกาศให้ประชาชนและเกษตรกร งดเผาในที่โล่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2567 เป็นต้นมา หากพบผู้ฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฏหมายทันที ซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับ โดยความผิดจะแยกออกเป็น 2 กรณีคือ 1.การเผานอกเขตป่าไม้ อย่างการเผาตอซังข้าว เผาอ้อย เผาหญ้า เผ้าขยะ ที่ฝ่าฝืนจะมีโทษปรับไม่เกิน 25,000 บาท จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ และ 2.การเผาในพื้นที่ป่า ซึ่งมีโทษสูงกว่าคือ ปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท จำคุกไม่เกิน 20 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ