ภูเขาสีน้ำตาลดิบ บางยอดยังปกคลุมด้วยหิมะ สลับสีเขียวอมฟ้าของผืนน้ำทะเลสาบ ทอดกายให้เห็นจากบนฟ้า เป็นภาพแปลกตาน่าอัศจรรย์!
“นิวซีแลนด์” แลนด์ออฟ “เดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะริงส์” สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ระดับโลก ประเทศที่งดงามติดอันดับหนึ่งของโลก ด้วยธรรมชาติที่สวยงามบริสุทธิ์ หนึ่งในอาณานิคมของอังกฤษ โดยมีประมุขคือกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3
ทะเลสาบ “วาคาทีปู” และทิวเขารีมาร์กเอเบิลส์ ฉายา “แอลป์แดนใต้” หรือ เซาเทิร์นแอลป์ อวดความงามของเมือง “ควีนส์ทาวน์” เมืองท่องเที่ยวและการผจญภัยของเกาะใต้นิวซีแลนด์ มาพร้อมบทเพลงพื้นเมืองอันไพเราะและการแสดง “ฮากา” ด้วยท่วงท่าอันสวยงามและทรงพลังของนักแสดงชนเผ่า “เมารี” เสมือนหนึ่งการทักทาย “เคียโอรา” (Kia Ora) สวัสดีในภาษาเมารี ยืนยันว่าเรามาถึงแล้ว นิวซีแลนด์!
ต้นเดือนธันวาคม ขณะที่ทวีปยุโรปเข้าสู่ฤดูหนาวเตรียมเฉลิมฉลองคริสต์มาสและปีใหม่ ดินแดนขั้วโลกใต้ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งอยู่ใกล้ทวีปแอนตาร์กติกาที่ได้ชื่อว่าอากาศ “เอ็กซ์ตรีม” ที่สุดในโลก เริ่มเข้าสู่หน้าร้อน หนึ่งวันมีครบทั้งร้อน ฝน หนาว ราว 10-20 องศาเซลเซียส เตรียมฉลองคริสต์มาสและปีใหม่เช่นกัน
เคทีซี หรือ บริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เชิญสื่อมวลชนร่วมทริปเดินทางสู่ดินแดนแห่งการผจญภัย “เกาะใต้ นิวซีแลนด์” กึ่งกลางระหว่างเส้นศูนย์สูตรกับขั้วโลกใต้ ร่วมงานแถลงข่าวเปิดแผนยุทธศาสตร์ปี 2568
“นิวซีแลนด์” ประเทศที่ห่างไกลจากประเทศอื่นมากที่สุด ใกล้สุดคือออสเตรเลีย หากลองหมุนแผนที่ลูกโลกจะพบว่าอีกฝั่งของนิวซีแลนด์เวิ้งว้างอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรแปซิฟิก ไกลออกไปคือทวีปอเมริกาใต้ มีประชากรเพียง 6 ล้านกว่าคน น้อยกว่าประชากรแกะที่มีมากเกือบ 70 ล้านตัว!!
ภูมิประเทศประกอบด้วยเกาะเหนือ เกาะใต้ แบ่งคั่นโดยช่องแคบคุก เกาะปลายท้ายสุดคือเกาะสจวร์ต เมืองหลวงคือ “เวลลิงตัน” อยู่ทางเกาะเหนือ ส่วนเมืองดังซึ่งสื่อระดับโลกเสนอข่าวการเฉลิมฉลองพลุเข้าสู่ปีใหม่แห่งแรกของโลกคือ “โอ๊กแลนด์” เวลาเร็วกว่าไทย 6 ชั่วโมง
ในอดีตปกครองโดยชาวเมารี มีชื่อเดิมว่า “เอาเตอารัว” (Aotearoa) “ดินแดนแห่งเมฆยาวสีขาว” โดยมีนักสำรวจชาวดัตช์ล่องเรือเลียบมาทางออสเตรเลียพบเกาะนิวซีแลนด์และตั้งชื่อเกาะนี้ในภาษาดัตช์ว่า Nieuw Zeeland ก่อนที่ กัปตันเจมส์ คุก นักสำรวจชื่อดังของอังกฤษจะเดินทางมาถึงในปี 1769 และทับศัพท์ชื่อภาษาอังกฤษให้ใหม่โดยคงตัว Z ไว้ว่า New Zealand หรือ “ดินแดนทะเลใหม่” ชื่อเสียงของนิวซีแลนด์จึงเป็นที่รู้จักกันในยุโรปด้วยธรรมชาติที่สวยงามเหมาะกับการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์
หลัง กัปตันเจมส์ คุก พบว่าชาวเมารีเป็นชนเผ่าสายเลือดนักรบ จึงตกลงแลกพืชพันธุ์กับอาวุธจากทางยุโรป เมื่อชาวเมารีมีอาวุธมากจึงสู้รบกันจนชนเผ่าเมารีลดลง ทางอังกฤษจึงส่งคนมาทำสนธิสัญญาไวตางี ปัจจุบันสนธิสัญญานี้ยังคงเป็นข้อพิพาท
ล่าสุดเมื่อไม่นานนี้คงเห็นข่าวสมาชิกรัฐสภาชาวเมารีลุกขึ้นเต้น “ฮากา” ในสภา เรียกร้องสิทธิของตนเอง ภาพอันคุ้นตานี้คงเคยได้เห็นกันในการเต้นอันดุดันทรงพลังก่อนลงสนามของ “ทีมออลแบล็กส์” ทีมรักบี้ประจำชาตินิวซีแลนด์ แชมป์โลกอันเลื่องชื่อ
ใบไม้สัญลักษณ์ประจำชาตินิวซีแลนด์และทีมออลแบล็กส์ คือ “เฟิร์นสีเงิน” หรือ “ซิลเวอร์เฟิร์น” ที่จะสะท้อนแสงยามค่ำคืนนำทางชาวเมารีกลับจากผืนป่าสู่บ้าน พบได้ทั่วเกาะในป่าชื้น เฉพาะที่นิวซีแลนด์เท่านั้น!
ในฤดูร้อน สามทุ่มกว่าฟ้ายังไม่มืด ชวนกันกระชับเสื้อหนาวเดินฝ่าลมหนาวลงเนินเขาสู่เมืองควีนส์ทาวน์ โดยมีทะเลสาบวาคาทีปูทางด้านขวาเป็นเพื่อนร่วมทาง เก็บบรรยากาศร้านรวงเมืองเล็ก เพื่อนร่วมทริปแวะไปลองลิ้มชิมรสเบอร์เกอร์ยักษ์ที่ร้านดังระดับโลก “FergBurger” ที่มีผู้คนต่อแถวยาวทั้งกลางวันกลางคืน ร้านเปิด 8 โมงเช้ายาวข้ามไปจนถึงตี 5 ของอีกวัน
ทริปแห่งการผจญภัยเริ่มต้นในวันรุ่งขึ้น เดินทางออกจากที่พักเพียง 5 นาทีก็ถึงท่าเรือควีนส์ทาวน์ เมืองท่าน่ารัก ไม่อึกทึกแต่ก็ไม่เหงา ถูกใจสายชิล
เรือเจ๊ตโบ๊ตรอรับสายเอ็กซ์ตรีมพาแล่นฉิวสะเทินน้ำลัดเลาะเกาะแก่งและลำธารอันคดเคี้ยวก่อนสะบัดโค้งด้วยแรงเหวี่ยง 360 องศา ใครไหวไปก่อนเลย! ใครไม่ไหวปลีกตัวไปเดินเล่นชมเมือง ร้านรวงและผู้คนในบรรยากาศใกล้คริสต์มาส
ขึ้นจากเรือสปีดโบ๊ต เรือกลไฟโบราณ TSS Earnslaw อายุกว่าร้อยปีซึ่งเดิมใช้ขนส่งผู้คน สัตว์ และสิ่งของ ข้ามทะเลสาบทั้งสองฝั่งมาตั้งแต่ปีค.ศ.1912 ได้รับการขนานนามว่า “เลดี้ ออฟ เดอะเลก” ก่อนปลดระวางมาทำหน้าที่ไกด์ผู้ทรงเกียรติพาชมธรรมชาติในทะเลสาบวาคาทีปู รอท่าอยู่ที่ท่าน้ำ
หลังขึ้นเรือนั่งชมภูเขาที่โอบล้อมทะเลสาบในบรรยากาศโรแมนติกก็ได้เวลาเดินสำรวจเรือ ลูกเรือในห้องเครื่องกำลังป้อนถ่านหินเพื่อใช้เป็นพลังงานจักรกลขับเคลื่อนเรือกลไฟ พิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมย้อนเรื่องราวเรือโบราณที่มีส่วนร่วมในประวัติศาสตร์การก่อตั้งเมืองควีนส์ทาวน์ เลือกซื้อโปสการ์ดจากร้านเครื่องดื่มเล็กๆ บนเรือเป็นที่ระลึก
เรือมุ่งหน้าสู่วอลเตอร์พีกฟาร์ม รับประทานมื้อกลางวัน แน่นอนว่าต้องมีแซลมอนและหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์อาหารขึ้นชื่อ ก่อนเดินลัดเลาะสวนไปชมความสามารถของสุนัขต้อนแกะแสนรู้และการสาธิตตัดขนแกะ
ตกบ่ายเรือกลไฟแล่นฉิวพากลับสู่เมืองควีนส์ทาวน์สู่อีกหนึ่งไฮไลต์ ขึ้นกระเช้ากอนโดลาสู่ยอดเขาบ็อบส์พีก ความสูง 750 เมตร เก็บภาพความงามเมืองควีนส์ทาวน์ ทิวเขา และทะเลสาบวาคาทีปูในมุมสูง สวย สุดใจ!
สายแอดเวนเจอร์นั่ง “แชร์-ลิฟต์” กันต่อไปอีกหน่อยเพื่อขึ้นไปยังสถานีเล่น “ลูจ” รถเลื่อนที่อาศัยความลาดชันของไหล่เขาลงสู่ด้านล่าง สุข สนุก ตื่นเต้นเร้าใจไปพร้อมทัศนียภาพอันสวยงาม หลายคนรอบเดียวคงยังไม่พอ ขอต่ออีก 2-3 รอบ
บุฟเฟต์นานาชาติอาหารค่ำบนยอดเขาที่ดวงอาทิตย์ค่อยๆ ลอยต่ำลาฟ้า บทเพลงอันไพเราะของศิลปินตำนานโลก “ไซมอน แอนด์ การ์ฟังเกล” และ “เดอะบีจีส์” ขับขานและบรรเลงโดยนักร้องนักดนตรีรุ่นใหม่แกล้มทิวทัศน์อันสวยงามของทะเลสาบวาคาทีปู อิ่มเอมใจคนเจนเอ็กซ์
ความงามของการเดินทางไม่ใช่เพียงแค่ “ปลายทาง” เรื่องราวระหว่างทางสวยงามไม่แพ้กัน ออกเดินทางจากเมืองควีนส์ทาวน์ขึ้นเหนือไปตามถนนอันคดเคี้ยวที่ตัดหลบเชิงเขา ข้ามแม่น้ำคาวารัว หนึ่งในสถานที่ถ่ายทำอันสวยงามของภาพยนตร์ “เดอะลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์” รถแล่นผ่านมองเห็นสะพานเหล็กคาวารัว “จุดโดดบันจี้จัมพ์” อันเลื่องชื่อของโลก
แว้บ! เดียว เพียงแค่เห็น ไม่ต้องโดด ก็ระทึกใจ
ใครง่วงขออย่าได้หลับ ภูเขาลูกแล้วลูกเล่าอวดตัวเรียงรายซ้อนกันไปมาสลับทุ่งเลี้ยงวัวและฟาร์มแกะที่กำลังกินหญ้าอย่างเพลิดเพลิน โดยมีดวงอาทิตย์สาดแสงทาบทาขับภาพความงามของแลนด์สเคปที่สวยงามแปลกตา
ดอกลูปินสีม่วง อีกหนึ่งสัญลักษณ์นิวซีแลนด์ ชูช่อไล่เฉดสีไปจนถึงชมพูอมขาว เอนไหวในหน้าร้อน ทั้งต้นเล็กๆ ริมทางไปจนถึงผืนป่าพะเนินทุ่ง
นี่สินะ! โลก และธรรมชาติ อันบริสุทธิ์ งดงาม และยิ่งใหญ่
ความงามของเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ไม่หยุดเพียงเท่านี้..
ทะเลสาบปูคากิ เลกเทคาโป ยอดเขาเมาต์คุก และเมืองไครสต์เชิร์ช เมืองอังกฤษนอกเกาะอังกฤษ
มีเรื่องเล่าให้ติดตาม!!
พัชรินทร์ พลายพูลทรัพย์