สสส.เปิดข้อมูลปัญหาสุขภาพจิตของเด็กไทย พบวัยรุ่น 15-19 ปี พยายามฆ่าตัวตายมากที่สุด อาการซึมเศร้า 2,200 คนต่อประชากรแสนคน แต่จิตแพทย์เฉพาะทางมีเพียง 295 คนทั่วไทย
เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2568 น.ส.ณัฐยา บุญภักดี ผู้อำนวยการสำนักอาวุโส สำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว สสส. กล่าวว่า ปัญหาสุขภาพจิตของเด็กและเยาวชนไทยยังคงเป็นปัญหาใหญ่และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
จากรายงานการสังเคราะห์ชุดนโยบายสุขภาพจิตของประชากรชาวไทยภายใต้บริบทหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ปี 2567 โดย สสส. และศูนย์ความรู้นโยบายสาธารณะเพื่อการเปลี่ยนแปลง พบว่า อัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จ มีการเพิ่มขึ้นจาก 6.11 คนต่อประชากรแสนคนในปี 2560 เป็น 7.94 ในปี 2566 โดยกลุ่มเยาวชนอายุ 15-19 ปี พยายามฆ่าตัวตายมากที่สุด คิดเป็นอัตรา 116.8 คนต่อประชากรแสนคน
สอดคล้องกับข้อมูลศูนย์ความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์เพื่อการแพทย์ด้านจิตเวชที่ประเมินว่า มีเยาวชนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ตรวจพบอาการซึมเศร้าสูงถึง 2,200 คนต่อประชากรแสนคน นอกจากนี้ ยังพบว่าเด็กและเยาวชนเข้าถึงบริการสุขภาพจิตได้ยาก เพราะจำเป็นต้องใช้จิตแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางทั้งประเทศมีเพียง 295 คน และกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ ไปแล้ว 1 ใน 3 ของจำนวนจิตแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางทั้งหมด
“เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ปี 2568 สสส. ร่วมกับภาคีขับเคลื่อนงานสุขภาวะเด็กและเยาวชนจัดกิจกรรม ดูแลวัยเด็กด้วยศิลปะด้านใน เพื่อสร้างสุขภาวะที่ดีให้เด็กและเยาวชนทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ผ่านการใช้กระบวนการศิลปะ เช่น การเล่านิทาน การวาดภาพระบายสี และการจัดดอกไม้ ในขณะที่ทำงานศิลปะ เด็กจะได้พบความเบิกบาน ความงดงาม และความสงบในใจ ได้ทบทวนและมีสมาธิอยู่กับตัวเอง
ผู้ปกครองที่เข้าร่วมจะได้รับองค์ความรู้ ได้สัมผัสสุนทรียะของศิลปะ สำหรับใช้ส่งเสริมศักยภาพและสร้างพัฒนาการของเด็กได้เหมาะสมตามช่วงวัย และผู้ทำงานด้านเด็กจากทั่วประเทศ จะได้ศึกษาและแลกเปลี่ยนเครื่องมือศิลปะด้านในเพื่อการจิตใจและจิตวิญญาณที่เหมาะสมกับเด็กปฐมวัยและเด็กในวัยเรียน พร้อมเป็นผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้ที่จะสร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับ บุคคล ครอบครัว พร้อมขยายผลสู่ชุมชน และสังคม สร้างโอกาสให้เด็กมีสุขภาวะที่ดีอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป” น.ส.ณัฐยา กล่าว
ขณะที่ นายอนุพันธุ์ พฤกษ์พันธ์ขจี หัวหน้าโครงการโมเดลวิทยากรต้นแบบศิลปะด้านในเชิงลึกเพื่อขยายชุมชนการเรียนรู้และพัฒนาสุขภาวะเด็กก่อนวัยรุ่น กล่าวว่า เด็กและเยาวชนไทยปัจจุบันถูกคาดหวังให้สมบูรณ์แบบ ผู้ปกครองส่วนใหญ่ให้ความสนใจเฉพาะเรื่องวิชาการ ขาดทักษะการเลี้ยงลูกและระบบการศึกษาไม่รักษาความเป็นธรรมชาติของวัยเด็ก ส่งผลให้เด็กขาดอิสระ เกิดความเครียดสะสม กระทบโดยตรงต่อสุขภาพจิต
จากรายงานผลสำรวจข้อมูลกลุ่มเด็กและเยาวชน อายุต่ำกว่า 18 ปี 503,884 ราย โดยกรมสุขภาพจิต ผ่านแอพพลิเคชัน Mental Health Check-in ระหว่างเดือน ก.พ. 2565-ต.ค. 2567 พบเด็กเสี่ยงทำร้ายตนเอง 17.4% เสี่ยงป่วยซึมเศร้า 10.28%
การจัดกิจกรรม ดูแลวัยเด็กด้วยศิลปะด้านใน ภายใต้การสนับสนุนของ สสส. จัดขึ้นเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญในการสร้างการเรียนรู้สําหรับเด็กไทยอย่างเป็นองค์รวม สอดคล้องกับแนวคิดการสร้างสุขภาวะองค์รวม โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ไม่เพียงแค่ส่งเสริมสุขภาพร่างกายเพียงอย่างเดียว แต่ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องจิตใจและจิตวิญญาณด้วย