หอค้าไทย แนะกรอบซื้อบ้านเพื่อคนไทย สกัดเก็งกำไร

วันที่ 13 มกราคม ที่หอการค้าไทย นายอธิป พีชานนท์ รองประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บางส่วน กังวลต่อโครงการบ้านเพื่อคนไทยของรัฐบาลว่าจะเป็นการซ้ำเติมธุรกิจอสังหาฯที่ยังฟื้นตัว ว่า ภาพรวมโครงการดังกล่าว ไม่น่ากังวล และไม่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทย เนื่องจากลูกค้าเป็นคนละกลุ่มเป้าหมายกัน โดยโครงการของรัฐมุ่งเน้นช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง ถือว่าเป็นนโยบายที่ดี

แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะต้องกำหนดคุณสมบัติและเงื่อนไขของผู้ได้รับสิทธิด้วยความรอบคอบ ต้องมีการคัดกรองสิทธิให้เฉพาะผู้มีรายได้น้อยและต้องมีมาตรการป้องกันการสวมสิทธิจากบุคคลอื่นที่แอบสวมสิทธิเข้ามาซื้อเพื่อนำไปขายต่อ เพื่อเก็งกำไรด้วย เนื่องจาก 4 ทำเลที่รัฐบาลนำร่องโครงการ ได้แก่ กทม. ที่บางซื่อ กม.11 จ. เชียงใหม่ ถนนเจริญเมือง จ. ปทุมธานีเชียงราก กรม. ติดสถานีรถไฟธนบุรี เพื่อสร้างเป็นบ้านเพื่อคนไทยเป็น ถือทำเลที่อยู่ในพื้นที่พรีเมี่ยมสามารถนำไปขายต่อได้ในราคาที่แพงกว่า และ เชื่อว่าโครงการดังกล่าวคงจะมีคนเข้ามาแย่งสิทธิกันจำนวนมาก

นายอธิป กล่าวว่า เพื่อให้เป็นโครงการที่ให้ประโยชน์สูงสุดตรงกับวัตถุประสงค์ รัฐบาลอาจต้องพิจารณาทบทวนเรื่องของระยะเวลาในการห้ามโอนสิทธิในโครงการบ้านเพื่อคนไทยที่กำหนดไว้ภายในระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันจดทะเบียนสิทธิ นั้น เป็นระยะเวลาที่สั้นเกินไปหรือไม่ รวมทั้งควรกำหนดให้การโอนสิทธิ หรือขายต่อบ้านคืนให้กับหน่วยงานภาครัฐเท่านั้น เพื่อให้รัฐบาลสามารถส่งต่อบ้านดังกล่าวกลับคืนไปยังผู้มีรายได้น้อยตามวัตถุประสงค์ของโครงการ รวมถึง เกณฑ์วงเงินรายได้ของผู้ได้รับสิทธิ์ที่กำหนดไว้ที่ไม่เกิน 50,000 บาทต่อเดือน อาจจะต้องพิจารณาทบทวนให้เหลือไม่เกิน 30,000 บาท ต่อเดือน เพราะมองว่าคนที่มีรายได้ 50,000 บาท ต่อเดือน เขามีความสามารถในระดับที่จะหาซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยได้เองอยู่แล้ว