คนทำสื่อดั้งเดิมเป็นหนึ่งในหมวดหมู่ที่เจอโจทย์ยาก เพราะนอกจากรับมือกับคนดูที่เปลี่ยนไป ยังต้องแข่งขันกับแพลตฟอร์มใหม่ๆ โดยเฉพาะ “สตรีมมิง” เข้ามาชิงเวลากับผู้บริโภค

ทว่า เจ้าแห่วแพลตฟอร์มสตรีมมิงระดับโลกอย่าง “เน็ตฟลิกซ์” นอกจากจะเคยเผยว่า “ความง่วง” คือคู่แข่งสำคัญแล้ว ตัวแปรที่ “ดิสรัป” พุ่งไปที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลง จากนิยมดูคอนเทนต์หมวดหนึ่ง อาจหันเหไปดูอีกหมวดได้ ทำให้การปรับตัว “ดึงและสะกดสายตาคนดู” ให้เฝ้าหน้าจอเน็ตฟลิกซ์จึงต้องทำอย่างต่อเนื่อง

ในงานสัมมนา THAILAND MARKETING DAY จัดโดยสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย(MAT) ที่ผ่านมา รณัสถ์ ศรีรุ่งเรืองเดชา Head of Marketing, Netflix Thailand ได้ออกมาเล่าแนวทางของ “เน็ตฟลิกซ์” แพลตฟอร์มสตรีมมิงระดับโลกกับการฝ่าดิสรัปด้านคนดูเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเน็ตฟลิกซ์มองการปรับตัว พลิกกระบวนท่าเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะหากมองย้อนอดีตของบริษัท ที่เริ่มต้นจากธุรกิจบริการเช่าดีวีดีมาก่อน

เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้า ความต้องการของคนดูเปลี่ยน ทำให้เน็ตฟลิกซ์ก้าวสู่สมรภูมิสตรีมมิง

“วงการเอนเทอร์เทนเมนต์ ดิสรัปชันที่เห็นคือพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน คนเล่นมือถือ เสพคอนเทนต์เปลี่ยน ความสนใจคอนเทนต์ต่างๆน้อยลง ดูคอนเทนต์ยาวๆลดลง มีความสามารถในการควบคุม อยากดูคอนเทนค์อะไร เมื่อไหร่ และดูคอนเทนต์ออนดีมานด์หรือตามต้องการมากขึ้น”

การปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลง ไม่เพียงเปลี่ยนวิธีคิดต่างๆ แต่เรื่องคนเก่งมีความสามารถหรือ Talent กับเทคโนโลยี เป็นสิ่งที่ต้องทำ หากมองในประเทศไทย “ทาเลนต์” แม้ไม่ถึงกับเป็นดิสรัปหรือท้าทายนัก แต่มองเป็น “โอกาส” เพราะผู้กำกับ คนเขียนบท โปรดิวเซอร์ นักแสดง ฯ เหล่าผู้คร่ำหวอดในการสร้างสรรค์คอนเทนต์มองว่าพร้อมจะปรับตัว

ขณะที่กระแส “สตรีมมิงยักษ์ใหญ่” เข้ามาบุกตลาด ก่อให้เกิดการลงทุน รวมถึงนำคอนเทนต์ไทยไปสู่ตลาดโลกได้ ซึ่งไทยถือว่ามีความพร้อมรองรับการเติบโตดังกล่าว

ด้านเทคโนโลยีเปลี่ยน ทว่า “เน็ตฟลิกซ์” ยังเน้นความสำคัญของโปรดักท์ค่อนข้างมาก หากเปิดแพลตฟอร์ม หน้าจอของแต่ละคนจะมี “อินเตอร์เฟซ” ไม่เหมือนกัน เพราะเป็นความพยายามในการ “เข้าใจรสนิยม” การรับชมคอนเทนต์ของผู้บริโภคว่าเป็นอย่างไร เพื่อมัดรวมคอนเทนต์แบบที่ชอบเสิร์ฟให้ถูกใจผู้คน

ทั้งนี้ กลุ่มคนที่มีเทสต์เดียวกัน(Taste Communities) ที่เน็ตฟลิกซ์คัดกรองได้ มีมากกว่า 2,000 เทสต์ โดยสมาชิกแต่ละคนมักจะแจมอยู่ใน 2-3 กลุ่มด้วย เช่น สายชื่นชอบคอนเทนต์โรแมนติกคอเมดี้(รอมคอม) หากแวะเวียนไปเสพคอนเทนต์ผี สยองขวัญ จะเป็นอีก 1 เทสต์ เป็นต้น

“นอกจากเทคโนโลยี พฤติกรรมคนดู เสพสื่อเปลี่ยน สิ่งที่เราเจอคือเทสต์คนมีความหลากหลายขึ้น ฉะนั้นสิ่งที่เน็ตฟลิกซ์ปรับตัว จึงไม่ได้เน้นแค่คุณภาพคอนเทนต์ แต่เน้นความหลากหลายหรือวาไรตีด้วย”

พันธกิจของเน็ตฟลิกซ์คือ “การมอบความบันเทิงให้ผู้คนทั่วโลก”หรือ Entertain the world มาพร้อมกับ “ความเชื่อ” ทุกคนไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ควรได้เข้าถึงความบันเทิงในรูปแบบที่ชอบได้ นั่นทำให้เน็ตฟลิกซ์ร่วมมือกับ “ผู้สร้างทั่วโลก” สร้างสรรค์คอนเทนต์ นำ “เสียงจากประเทศที่ไม่มีใครรู้จักมาก่อน” คอนเทนต์ที่ยอดเยี่ยมป้อนให้คนดูเอ็นจอยหรือสนุกกับเนื้อหาได้

นอกจากนี้ “การตะโกน” เพื่อขยายเขตคามคอนเทนต์ให้ไวรัล ปังทั่วโลก เมื่อเปิดตัวเรื่องไหน จะเกิดพร้อมกัน 190 ประเทศทั่วโลก มีการแปล 30 ภาษาบวกๆ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงมากขึ้น

อีกอาวุธสำคัญของเน็ตฟลิกซ์คือ “พลังการโปรโมทไร้ขีดจำกัด” มาพร้อมกับหน้าต่างคอนเทนต์ ปรากฏต่อสายตาผู้ชม เพียงแค่ “ชื่อเรื่อง” โชว์ขึ้น เทคโนโลยีและระบบของเน็ตฟลิกซ์จะ “เรียนรู้” ทันทีว่าคนแบบไหน คลิกดูเรื่องอะไร แล้วกระจายไปให้กลุ่มเป้าหมายรัวๆ กรณีศึกษา “Hunger คนหิว เกมกระหาย” ของไทยที่กลายเป็นกระแสฮิต และดันซอฟต์พาวเวอร์ ข้าวผัดงอแงและซอสผัสงอแงได้แจ้งเกิด รวมถึงการเปิดตัวซีรีส์ “squid game 2” โปรโมทด้วยการสร้างตุ๊กตาสังหารโกโกวา หรือ ยองฮี ใหญ่ที่สุดในโลกล่องแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เสมือนแข่งโอลิมปิก เพราะทั่วโลกต้องงัดจุดขายมาสู้กัน เป็นต้น

“เราศึกษาคนทุกคนจริงๆ เวลาคนดูเปิดเน็ตฟลิกซ์ สายตาอยู่ตรงไหน ดูฮอตสปอต และผลิตบ็อกซ์อาร์ทอยู่ในมุมไหนที่คนจะมองเห็นมากที่สุด”

อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมผู้บริโภคไม่เคยหยุดนิ่ง การฝ่าดิสรัปยังมีต่อเนื่อง “รณัสถ์” ทิ้งท้ายสูตร “ปรับตัวอย่างว่องไว”(nimble) และ “รวดเร็วอยู่เสมอ” สำคัญ เพราะอีกด้านในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ โปรดักชันไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก