งงทั้งร้าน คาเฟ่ แฉครอบครัวแสบพาลูก 2 คนกินเค้ก ทำเป็นโมโห บอกขี้เกียจกดเลขบัญชี กินเสร็จลุกหนี พนักงานวิ่งตามบอก “ไม่มีคิวอาร์โค้ดให้สแกน ก็จะไม่จ่าย”

วันที่ 15 ม.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก ร้าน ฮักนา Cafe kanchanaburi ได้โพสต์ภาพเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “แค่เค้ก 2 ชิ้น คุณกินไม่จ่าย พนักงานเก็บเงิน คุณจะโอน พอให้เป็นเลขบัญชี คุณไม่พอใจ บอกขี้เกียจกดเลข กินเสร็จเดินขึ้นรถเลย พนักงานตามไปเก็บที่รถคุณก็ไม่จ่าย ออกรถไปเลย

ไม่พอใจอะไรก็แจ้งกันได้ ไม่ใช่ไม่จ่ายเดินขึ้นรถไปเลย เราบริการอาหารให้คุณ คุณจ่ายเงินเรา แลกกันอยู่แล้วนะคะ (#ลูกค้าท่านอื่นที่เห็นเหตุการณ์ยังบอกว่ามียังงี้ด้วยขี้เกียจกดเลขเลยไม่จ่ายน้องแจ้งความเลยค่ะ) พนักงานงงกันเลย ไม่เคยเจอลูกค้าแบบนี้”

งงทั้งร้าน คาเฟ่ แฉครอบครัวแสบพาลูก 2 คนกินเค้ก ทำเป็นโมโห บอกขี้เกียจกดเลขบัญชี กินเสร็จลุกหนี พนักงานวิ่งตามบอก “ไม่มีคิวอาร์โค้ดให้สแกน ก็จะไม่จ่าย”

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยังร้านดังกล่าว พบกับ คุณต่าย เจ้าของร้าน ได้เปิดคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุให้กับผู้สื่อข่าวดู พร้อมให้ข้อมูลว่า วันเกิดเหตุ คือวันที่ 12 ม.ค.2568 เวลาประมาณ 11.00 น. ทางครอบครัวดังกล่าว ซึ่งมีชาย 1 คน หญิง 1 คน พาเด็กชายและเด็กหญิง อายุ 4-5 ขวบ เข้ามาใช้บริการที่ร้าน

โดยตอนแรกได้ไปนั่งอยู่ในโซนเอาท์ดอร์ และสั่งอาหารมาทาน ก่อนจะชำระเงินเรียบร้อย จากนั้น ได้เดินเข้ามาภายในโซนห้องแอร์ของร้าน ก่อนจะสั่งเค้ก 1 ชิ้นมานั่งทานที่โต๊ะ โดยที่ยังไม่ได้จ่ายเงิน จากนั้นฝ่ายหญิงสาวเดินมาที่เคาน์เตอร์พร้อมสั่งเค้กอีก 1 ชิ้น รวมเป็นเงิน 240 บาท

แต่เมื่อพนักงานของทางร้านจะให้ชำระเงินโดยการโอนเงินเข้าบัญชีของทางร้าน หญิงสาวคนดังกล่าว ได้ถามหาคิวอาร์โค้ดสแกนจ่ายเงินของทางร้าน ซึ่งในช่วงดังกล่าว พนักงานได้นำแผ่นคิวอาร์โค้ดสแกนจ่ายเงินของทางร้านออกไปให้กับลูกค้าที่นั่งในโซนเอาท์ดอร์ชำระเงิน จึงไม่มีคิวอาร์โค้ดชำระเงินไว้ที่หน้าเคาน์เตอร์

หญิงสาวคนดังกล่าวจึงถือเค้กกลับไปนั่งที่โต๊ะโดยไม่ชำระเงิน พนักงานจึงได้วิทยุไปให้พนักงานที่อยู่โซนเอาท์ดอร์นำเอาคิวอาร์โค้ดชำระเงินมาให้ที่เคาน์เตอร์ แต่หญิงคนดังกล่าวก็ยังไม่ได้ชำระเงิน พร้อมกลับไปนั่งที่โต๊ะและเอาเค้กที่สั่งมาให้กับเด็กทั้งสองคนทาน พร้อมแสดงท่าทีไม่พอใจที่ทางร้านไม่มีคิวอาร์โค้ดให้สแกน

เมื่อเด็กทั้งสองคนทานเค้กเสร็จ หญิงสาวคนดังกล่าวพร้อมชายหนุ่มได้พาเด็กทั้งสองคนเดินออกจากร้านไปทันทีโดยที่ไม่ได้จ่ายเงิน โดยระหว่างกำลังจะเดินออกจากร้าน พนักงานของร้านได้พยายามทักท้วงว่ายังไม่ได้จ่ายเงินค่าเค้กทั้ง 2 ก้อน

แต่หญิงสาวคนดังกล่าวกลับไม่สนใจและเดินไปขึ้นรถโดยที่ฝ่ายชายไปสตาร์ทรถรอไว้ก่อนหน้าแล้ว พนักงานของทางร้านจึงได้รีบวิ่งตามไปที่รถเพื่อจะนำคิวอาร์โค้ดไปให้หญิงสาวสแกนจ่าย

แต่หญิงสาวกลับตะโกนกลับมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า เมื่อทางร้านไม่มีคิวอาร์โค้ดให้สแกนตนก็จะไม่จ่าย ก่อนที่ฝ่ายชายจะขับรถออกไปจากร้านท่ามกลางความงุนงงของพนักงานและลูกค้าที่เดินทางเข้ามาใช้บริการของทางร้านอีกหลายคนที่เห็นเหตุการณ์

คุณต่าย กล่าวว่า ตั้งแต่เปิดร้านมาหลายปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์ในลักษณะนี้มาก่อน ตามปกติทางร้านมีการจัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์หลายอย่าง ไม่คิดว่าจะมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งตามความเป็นจริง หากลูกค้าไม่พอใจการให้บริการของพนักงานในร้าน ก็สามารถแจ้งกับทางร้านได้

แต่การแสดงท่าทีว่าไม่พอใจ แล้วไม่จ่ายค่าอาหารกับทางร้าน ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเค้กที่ขายนั้น ทางร้านก็รับมาในราคาสูง ได้กำไรเพียงก้อนละไม่กี่สิบบาท มาถูกลูกค้าทานแล้วไม่จ่ายแบบนี้ ก็รู้สึกไม่ดี ที่สำคัญ พนักงานของทางร้านพยายามจะ นำเอาคิวอาร์โค้ดไปให้หญิงสาวคนดังกล่าวสแกนถึงที่รถ

แต่หญิงสาวคนดังกล่าว กลับแสดงท่าทีไม่พอใจ พร้อมยืนยันที่จะไม่จ่ายเงิน และให้ฝ่ายชายขับรถออกจากร้านไปทันที ซึ่งทั้งสองคนก็มีเด็กที่อายุเพียงไม่กี่ขวบมาด้วย ตนเกรงว่า การที่ทั้งสองคนแสดงพฤติกรรมเช่นนี้ต่อหน้าเด็ก อาจจะทำให้เด็กซึมซับพฤติกรรมเช่นนี้และเติบโตไปด้วยแนวคิดที่ว่า ถ้าไม่พอใจอะไรก็แสดงออกโดยการไม่จ่ายเงินเช่นนี้ได้ ซึ่งจะกลายเป็นปัญหาของสังคมในอนาคตอย่างมาก

ขณะเดียวกัน ในเพจของทางร้านมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็น ตำหนิพฤติกรรมของ หญิงสาวและชายหนุ่มทั้งสองคน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นพ่อและแม่ของเด็กที่พามาด้วย โดยแสดงความเป็นห่วงว่า หากเด็กเห็นพฤติกรรมเช่นนี้ของพ่อและแม่ก็อาจจะเลียนแบบ แล้วเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่มีคุณภาพของสังคมในอนาคต

ขณะที่ผู้ใช้เฟศบุ๊กรายหนึ่ง ได้มาให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ เคยมีคาเฟ่แห่งหนึ่ง ที่เก็บ ค่าบัตรผ่านประตู ก่อนเข้าไปในร้าน และมีครอบครัวที่เป็นชายหนุ่มหญิงสาวและเด็ก 2 คนจะเข้าไปใช้บริการ แต่จะไม่ยอมจ่ายค่าบัตรผ่านประตู

โดยฝ่ายชายพยายามโวยวายใส่พนักงานของทางร้าน แต่พนักงานก็ยังไม่ยอมจึงทำให้ทั้งครอบครัวเดินออกไปจากร้านโดยไม่ยอมจ่ายเงินเหมือนเช่นในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคาเฟ่แห่งนี้