นราธิวาส มทภ.4 ไม่กังวล รักษาความปลอดภัย “นายกฯอิ๊งค์” ปฏิบัติภารกิจจชต. สั่งยกระดับปฏิบัติหน้าที่เข้มข้น ย้ำลาดตระเวนควบคุมพื้นที่ไม่ให้เกิดเหตุ กำชับการข่าวสืบความเคลื่อนไหวกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงให้ชัด ขอความร่วมมือภาคปชช.แจ้งข้อมูลสิ่งผิดปกติกลุ่มสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ
15 ม.ค. 68 – จากเหตุการณ์กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ลอบวางระเบิดบนถนนสาย ศรีสาคร–ลูโบ๊ะยือริง ช่วงบริเวณบ้านไอร์กือแด ม.4 ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จนราธิวาส เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 68 ที่ผ่านมา
จนเป็นเหตุให้ พันตำรวจโท สุวิทย์ ช่วยเทวฤทธิ์ อายุ 56 ปี ครูใหญ่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านตืองอ และ ดาบตำรวจ โดม ช่วยเทวฤทธิ์ อายุ 35 ปี “คุรุทายาท” ครูสอนวิชาเกษตร โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านตืองอ อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส เสียชีวิต
15 มกราคม 2568 – ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนจากกรณีดังกล่าว
พลโทไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา ทางฝ่ายตรงข้ามมักจะก่อเหตุต่อเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ทั้งขณะปฏิบัติหน้าที่ ห้วงลาพัก หรือแม้แต่ขณะปฏิบัติภารกิจส่วนตัวอยู่ในพื้นที่
เพราะเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ จึงทำให้เป็นเป้าหมายของฝ่ายตรงข้ามหลายครั้ง ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้จัดเตรียมแผนพิทักษ์กำลังพล ทั้งเป็นกำลังพลในโครงสร้างของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และเจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในโครงสร้างแต่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่
โดยใช้กำลังรักษาความปลอดภัยบุคคล แบ่งเป็น 2 ขั้น คือ ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ และระหว่างการลาพัก ในการรักษาความปลอดภัยก็จะแบ่งเป็น 3 มาตรการ คือ การรักษาความปลอดภัยโดยตัวเอง, การรักษาความปลอดภัยโดยชุมชน และการดูแลโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งในทุกๆ พื้นที่ก็จะมีมาตรการในการดูแลกำลังพลที่ปฏิบัติงาน”
แม่ทัพภาคที่ 4 ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมอีกว่า ในวันที่ 16 มกราคม 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งไม่มีความกังวลใจในการรักษาความปลอดภัยแต่อย่างใด แต่จะมีการยกระดับการปฏิบัติให้เข้มงวดมากขึ้น ทั้งการลาดตระเวนพื้นที่ การควบคุมพื้นที่ไม่ให้เกิดเหตุ รวมทั้งการปฏิบัติในพื้นที่ที่ปรากฏข่าวสารความเคลื่อนไหว การจัดกำลังเข้าไปพิสูจน์ทราบเป้าหมายที่ล่อแหลม ร่วมกันทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง
ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ยังฝากการสร้างความเข้าใจไปยังพี่น้องประชาชนถึงเจตนารมย์ที่ได้ตั้งใจไว้ คือ “สร้างความเข้าใจ ร่วมใจแก้ปัญหา นำพาสันติสุข” ดังนั้น ในส่วนของการร่วมใจแก้ปัญหา นอกจากเจ้าหน้าที่รัฐแล้ว สำคัญคือประชาชนในพื้นที่ และภาคประชาสังคม
เพราะฉะนั้น ความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่จึงเป็นส่วนสำคัญ ที่จะช่วยแจ้งข่าวสารความเคลื่อนไหว หรือสิ่งผิดปกติ ให้กับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ทราบ เพื่อจะได้ร่วมกันป้องกัน แจ้งเตือน และติดตามผู้ก่อเหตุรุนแรง
ซึ่งที่ผ่านมากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ดำเนินการติดตามความคืบหน้าผลการตัดสินคดีการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบมาโดยลำดับ