สถานีคิดเลขที่ 12: แก้พนันใต้ดินต้องไร้รอยต่อ

ห าก นายทักษิณ ชินวัตร ไม่กล่าวในงานดินเนอร์ทอล์ก “Chat with Tony : Bull Rally of Thai Capital Market” จัดโดยหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น

ว่า เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568 นอกจากครม.ผ่านร่าง กม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แล้ว

ครม.ยังรับหลักการ ให้แก้ “การพนันออนไลน์” ที่ผิดกฎหมายเป็น “การพนันที่ถูกกฎหมาย” ด้วย

สังคม ก็คงโฟกัส อยู่กับเรื่อง เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เรื่องเดียว

เพราะคำแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เน้นไปแต่เรื่องนี้

ทั้งที่ เรื่องการจะเอาการพนันออนไลน์ จากใต้ดิน ขึ้นมาบนดิน เป็นเรื่องใหญ่พอๆ กัน

หรือมากกว่าด้วยซ้ำ

ควรจะขับเน้น และให้น้ำหนักไม่ต่างกัน

เพราะเป็นอย่างที่นายทักษิณ พูดบนเวทีเดียวกันว่า

“พนันออนไลน์ในอดีตเล่นกันครั้งนึง 2.5-4 แสนคน …เล่นกันได้เสียปีหนึ่ง 5 แสนล้านบาท สมมุติถ้าเราเก็บภาษี 20% ก็ได้ภาษีเพิ่มมา 1 แสนกว่าล้านบาท แต่ที่สำคัญมากกว่านั้น เราสามารถควบคุมได้ว่า ไม่ให้เด็กต่ำกว่า 20 ปีเล่น ทุกวันนี้เด็กอายุ 10 กว่าปีก็เล่นได้ โดยใช้ระบบดิจิทัลไอดี เราต้องยืนยันตัวตน นอกจากนั้นยังรู้อีกว่าใครติดเล่นพนันงอมแงม ก็สามารถส่งจิตแพทย์เอาไปบำบัดได้ เพราะฉะนั้นเราสามารถควบคุมพวกนี้ได้หมด ปล่อยไว้อย่างเดิมทำอะไรไม่ได้ นอกจากจ่ายเจ้าหน้าที่อย่างเดียว ภาษีก็ไม่มี”

สะท้อนถึงความเข้าใจเรื่องนี้แบบป่าทั้งป่า

ที่รัฐมนตรี ทีมงานโฆษก และกระบวนการสื่อสารใน ครม.ทั้งหมดต้องเรียนรู้

การไม่เห็นความสำคัญ เรื่องพนันออนไลน์ ที่ควรคู่ขนานไปกับเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ อย่างที่นายทักษิณเห็น เป็นเรื่องผิดพลาดไม่น้อย

เพราะเรื่อง เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เป็นเรื่องระยะยาว กว่าจะเห็นผลก็อีกหลายปี

แต่เรื่อง พนันออนไลน์ เป็นเรื่องเร่งด่วนเฉพาะหน้า เกี่ยวข้องกับชาวบ้านจำนวนมหาศาลโดยตรง มีผลกระทบกับเงิน 5 แสนล้านต่อปี เป็นเรื่องใหญ่มาก

แถมยังโยงใยไปถึง อาชญากรรมไซเบอร์ เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และอื่นๆ อีกจิปาถะ

ซึ่งล้วนเป็นปัญหาใกล้ตัวของทุกคน ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีไปจนถึงรากหญ้า

ฟัง รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มาอธิบายในภายหลัง

ก็พบถึงความเร่งด่วนว่าอยากจะแก้ไขเรื่องนี้ให้ได้ภายใน 1-2 เดือน

แถมยังมีแนวคิดถึงขนาดจะออกเป็น พระราชกำหนด เพื่อเอามาดูแลเรื่องพนันออนไลน์

เพียงแต่คณะรัฐมนตรี ยังไม่ให้ไปถึงจุดนั้น

ให้ทั้ง 2 กระทรวงไปพิจารณาแก้ไขกฎหมายระดับรอง อย่าง พระราชกฤษฎีกา หรือกฎกระทรวง ซึ่งทำได้รวดเร็วกว่าการออกเป็นพระราชบัญญัติ

ซึ่งก็พอฟังได้

แต่เรื่องใหญ่ระดับนี้ ไม่รู้ว่าแค่กฎกระทรวงหรือพระราชกฤษฎีกาจะเอาอยู่หรือไม่

ควรต้องเป็นกฎหมายโดยเฉพาะหรือไม่

และควรเป็นการขับเคลื่อนในระดับรัฐบาลหรือระดับชาติ ไม่ควรแค่เป็นเรื่องระดับกระทรวง คือกระทรวงดีอี กับมหาดไทยหรือเปล่า

เพราะเรื่องใหญ่มหึมา ควรไร้รอยต่อ ขับเคลื่อนไปแบบทัพหลวง ทัพเดียว

ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง

แค่ กระทรวงดีอี กับมหาดไทย อยู่ในการดูแล “ต่างพรรค”

มันก็ชวนให้คิดมาก คิดไกล แล้ว

เสียดาย เมื่อนายใหญ่ทักษิณ ชินวัตร เห็นป่าทั้งป่าแล้ว

ผู้ปฏิบัติก็ไม่ควรมาเสียเวลานับต้นไม้ทีละต้น

ไม่เช่นนั้นจะงัดพนันใต้ดินขึ้นมาบนดินคงยากที่จะสำเร็จได้

การขับเคลื่อนทั้งหลายทั้งปวงต้องไร้ “รอยต่อ”

สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร