กองปราบ ส่งสำนวน คดีทนายตั้ม ให้อัยการคดีพิเศษ แจ้งข้อหาเพิ่ม 2 ราย พนักงานโชว์รูมโดน กรณีปลอมเอกสารรถเบนซ์ นำตัวส่งฟ้องวันนี้
วันที่ 17 ม.ค.2568 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก คณะพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ นามพุทธา ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นำสรุปสำนวนคดีของมาดามอ้อย ที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม และนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด อายุ 41 ปี ภรรยาทนายตั้ม น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ พี่สาวภรรยาของทนายตั้ม นายนุวัฒน์ ยงยุทธ หรือ นุ อายุ 34 ปี คนสนิททนายตั้ม น.ส.สารินี นุชนารถ อายุ 32 ปี แฟนสาวของนุ และพนักงานของโชว์รูมรถ 2 คนเป็นผู้ต้องหา
ส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ โดยมี นายณัฐพงษ์ พุฒแก้ว รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษเป็นผู้รับ ในจำนวนนี้มี 3 คดีที่เป็นคดีนอกราชอาณาจักร ได้แก่ เงินหลอกลงทุนแอปหวย 71 ล้านบาท เงินหลอกจ้างศิลปินจีน 39 ล้านบาท และรถเบนซ์ 1.5 ล้านบาท ซึ่งพนักงานอัยการจะต้องส่งต่อไปยังอัยการสูงสุดเพื่อทำคำสั่งคดี ส่วนอีกคดีหนึ่งคือคดีก่อสร้างโรงแรม ซึ่งเป็นคดีในราชอาณาจักร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ จะเป็นผู้ทำคำสั่งคดี
ซึ่งจากข้อมูลของตำรวจกองบังคับการปราบปรามที่รับผิดชอบคดีเปิดเผยว่า ในการส่งสำนวนในวันนี้นั้น ทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมทั้ง 4 คดีที่เป็นคดีนอกราชอาณาจักรและในราชอาณาจักร รวมทั้งสิ้น 9,317 แผ่น ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกฝากขังในเรือนจำนั้น ไม่ต้องนำตัวมาส่งฟ้องเพราะเนื่องจากอยู่ในการควบคุมของศาลแล้ว เช่นเดียวกับดาว พี่สาวของภรรยาทนายตั้มที่ได้รับการประกันตัวในชั้นฝากขัง ก็ไม่ต้องนำตัวมาส่งฟ้อง เพราะถือว่าอยู่ในการควบคุมของศาลแล้วเช่นเดียวกัน
แต่อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ คณะทำงานคดีนอกราชอาณาจักรร่วมระหว่างพนักงานอัยการและพนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อหาเพิ่มกับ 2 พนักงานโชว์รูมรถเบนซ์ในข้อหาทำเอกสารเท็จจากกรณีคดีรถเบนซ์ 1.5 ล้านบาท ซึ่งทางตำรวจเปิดเผยว่า ถือว่าเป็นผู้ต้องหาใหม่ จะต้องนำตัวมาส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการในวันนี้ด้วย
พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ กล่าวว่าสำนวนคดีของนายษิทราที่นำมาส่งให้กับพนักงานอัยการคดีพิเศษได้แบ่งออกเป็น 2 สำนวน คือคดีที่กระทำผิดภายในราชอาณาจักร และคดีที่กระทำผิดนอกราชอาณาจักร
เมื่อถามว่าคดีที่กระทำผิดนอกราชอาณาจักรและคดีที่กระทำผิดภายในราชอาณาจักรมีเรื่องใดบ้าง พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ กล่าวว่า ในส่วนของการกระทำผิดภายนอกราชอาณาจักรที่แจ้งมาแบ่งเป็น 3 เรื่อง คดีฉ้อโกงสลากออนไลน์จำนวนเงิน 20 ล้านบาท สำนวนคดีหลอกจ้างศิลปินจีน 39 ล้านบาท และสำนวนคดีส่วนต่างรถเบนซ์จำนวน 1.5 ล้านบาท และคดีการกระทำผิดภายในราชอาณาจักรเป็นสำนวนคดีฉ้อโกงส่วนต่างค่าออกแบบโรงแรม
เมื่อถามว่าคดีทั้ง 4 เรื่องมีผู้ต้องหาทั้งหมดกี่คน พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดในคดีนี้มีทั้งหมด 7 ราย คือผู้ต้องหาที่ร่วมมือกับนายษิทราเพื่อฉ้อโกง ฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน และในวันนี้จะมีผู้ต้องหาที่ต้องมารายงานตัวกับพนักงานอัยการคือ 2 ผู้ต้องหาที่เป็นพนักงานโชว์รูมรถเบนซ์ ที่กระทำความผิดในการปลอมแปลงเอกสารรถเบนซ์ ส่วนรายละเอียดในส่วนอื่นยังอยู่ในสำนวนคดีไม่สามารถเปิดเผยได้ในตอนนี้
เมื่อถามว่าในส่วนของน.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ หรือดาว พี่สาวของภรรยานายษิทรา ที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นฝากขังจะต้องนำตัวมาส่งฟ้องอีกหรือไม่ พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ กล่าวว่า การปล่อยชั่วคราวของน.ส.ปิณฑิรา เป็นการปล่อยชั่วคราวหลังจากที่มีการส่งฝากขังไปแล้วและอยู่ในการควบคุมของศาล จึงไม่จำเป็นต้องส่งฝากขังอีก
เมื่อถามว่า หลังจากที่พนักงานสอบสวนส่งมอบสำนวนแล้ว พนักงานอัยการจะทำอย่างไรต่อไป นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า หลังจากที่มีการรับสำนวนคดีนี้แล้วจะมีการส่งมอบไปยังสำนักงานอัยการคดีพิเศษฝ่าย 1 และจัดคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด เพื่อพิจารณาคดีนี้ ตนยืนยันว่าจะเร่งพิจารณาคดีนี้ให้ทันกรอบกำหนดฝากขังของผู้ต้องหาบางกลุ่มอย่างแน่นอนในก่อนวันที่ 30 ม.ค.นี้
เมื่อถามว่าในส่วนของคดีภายนอกราชอาณาจักรที่เป็นอำนาจของอัยการสูงสุด หลังจากที่รับสำนวนแล้วจะต้องส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณาต่อหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า จะต้องมีการส่งสำนวนคดีนี้ไปให้อัยการสูงสุดภายหลังจากที่อัยการคดีพิเศษรับไว้ แต่ที่สำนวนคดีดังกล่าวมาที่อัยการคดีพิเศษก่อนเพราะว่า มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงินด้วย
