สมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งทวีปยุโรป เผยตัวเลขยอดขายรถในยุโรปอยู่ที่ 13 ล้านคันตลอดทั้งปี 2024 ซึ่งโตแค่ 0.9% ด้านนักวิเคราะห์คาดว่าค่ายรถยุโรปจะมียอดขายร่วงลงอีกในครึ่งแรกของปี 2025

บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า ในวันที่ 21 มกราคม 2025 สมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งทวีปยุโรป หรือ ACEA เผยตัวเลขยอดขายรถในยุโรปอยู่ที่ 13 ล้านคันตลอดทั้งปี 2024 ซึ่งโตแค่ 0.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี (YOY) โดยยอดขายรถอีวี (EVs) ร่วงลง 1.3% หลังหลายประเทศรวมถึงเยอรมนีลดการให้เงินอุดหนุน ฉุดส่วนแบ่งทางการตลาดลดลงเหลือ 15% 

อย่างไรก็ตาม ค่ายรถยุโรปจะเผชิญกับปีที่ยากลำบากต่ออีกในปี 2025 จากเป้าหมายลดการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดของสหภาพยุโรป ที่บีบให้ค่ายรถต้องขายรถอีวีมากขึ้น ขณะที่ยอดขายรถในจีนตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่ของโลกยังร่วงลง นอกจากนี้ ค่ายรถยุโรปยังต้องเผชิญกับภัยคุกคามด้านกำแพงภาษีจากโดนัลด์ ทรัมป์อีกด้วย 

แพทริก ฮัมเมล (Patrick Hummel) นักวิเคราะห์จากยูบีเอส (UBS) ระบุไว้ในบันทึกเมื่อต้นเดือนมกราคมว่า ด้วยแรงกดดันด้านราคา ส่วนแบ่งทางการตลาดในจีนที่น้อยลง ระเบียบการควบคุมมลพิษที่เข้มงวด และความเสี่ยงจากกำแพงภาษี ไหนจะอุปสงค์ที่ซบเซา ทำให้ค่ายรถยุโรปต้องเจอกับมรสุมครั้งใหญ่

ด้านนักวิเคราะห์บลูมเบิร์กคาดว่า ค่ายรถยุโรปจะมียอดขายร่วงลงอีกในครึ่งแรกของปี 2025 และการลดราคาในครึ่งหลังของปีจะช่วยเพิ่มยอดขายบ้างเล็กน้อย ขณะที่รถยนต์อีวียังขายไม่ค่อยได้ รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่ขายดีเป็นพิเศษในยุโรปและอเมริกาก็ร่วงลงอีกเช่นกัน

โอล่า คัลลีเนียส (Ola Källenius) ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ กรุ๊ป เอจี และควบตำแหน่งผู้นำ ACEA ด้วย ได้เรียกร้องให้สหภาพยุโรปปรับลดกฎเกณฑ์การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงบ้าง ทั้งยังชี้ให้สหภาพยุโรปเจรจากับทรัมป์แทนการตอบโต้ทางภาษี

ในเยอรมนี หลังภาครัฐถอนเงินอุดหนุนรถยนต์อีวีออกไป จนทำให้ยอดขายรถอีวีตกลงในปีที่ผ่านมา ทำให้ค่ายรถต่างเรียกร้องให้มีการสนับสนุนอุตสาหกรรมเพิ่มเติม ก่อนการเลือกตั้งที่จะถึงในเดือนกุมภาพันธ์นี้ 

ฟรีดริช เมิร์ซ (Friedrich Merz) ตัวเต็งนายกคนต่อไปจากพรรคอนุรักษนิยมต้องการขายรถยนต์สันดาปต่อไป โดยไม่สนใจแผนการแบนภายในปี 2035 ของสหภาพยุโรป ขณะที่โอลาฟ โชลซ์ (Olaf Scholz) นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันเรียกร้องให้มีมาตรการจูงใจทางภาษีรถยนต์อีวี