โดยเปลี่ยนลำดับการตัดชำระหนี้ เป็นตัดชำระเงินต้นเฉพาะส่วนที่ครบกำหนด ดอกเบี้ย และเบี้ยปรับตามลำดับ รวมทั้งคิดดอกเบี้ยในอัตรา 1% ต่อปี และลดเบี้ยปรับเหลือเพียงอัตรา 0.5% ต่อปี จึงเป็นผลให้ผู้กู้ยืมบางรายไม่มียอดหนี้คงเหลือ แต่หากยังมียอดหนี้คงเหลือจะต้องชำระหนี้ต่อไป และหากมีเงินส่วนเกินจากยอดหนี้ที่คำนวณใหม่ ผู้กู้ยืมมีสิทธิขอรับเงินคืนได้
จากการที่ กยศ. ได้คำนวณยอดหนี้ใหม่ (Recalculation) ดังกล่าวให้กับผู้กู้ยืมประมาณ 3.8 ล้านบัญชี แล้วพบว่า มีกลุ่มผู้กู้ยืมที่ยังมียอดหนี้คงเหลือประมาณ 3.5 ล้านบัญชี กลุ่มผู้กู้ยืมจะได้รับเงินคืนประมาณ 2.8 แสนบัญชี โดย กยศ.ได้ส่ง SMS แจ้งให้ผู้กู้ยืมทุกรายได้รับทราบมีข้อความว่า ตรวจสอบสถานะบัญชีผู้กู้ที่เว็บไซต์ กยศ.ขออภัยหากไม่ใช่ผู้กู้
ทั้งนี้ เมื่อผู้กู้ยืมเข้าระบบตรวจสอบสถานะบัญชีผู้กู้ยืมที่เว็บไซต์ www.studentloan.or.th แล้ว หากมีสิทธิได้รับเงินคืน สามารถลงทะเบียนขอรับเงินคืนได้ โดย กยศ. จะคืนเงินส่วนเกินผ่านระบบโอนเงินแบบพร้อมเพย์ที่ผูกบัญชีธนาคารด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้กู้ยืมเท่านั้น ซึ่งมีความปลอดภัยและตรวจสอบได้แน่นอน
สำหรับผู้กู้ยืมที่ยังมียอดหนี้คงเหลือ กยศ. ขอเชิญชวนให้มาปรับโครงสร้างหนี้เพื่อขยายเวลาผ่อนชำระซึ่งจะทำให้การผ่อนชำระหนี้ต่อเดือนน้อยลง และเป็นการปลดภาระผู้ค้ำประกัน กยศ. จะใช้ยอดหนี้ที่ได้คำนวณใหม่นี้เพื่อทำสัญญาให้แก่ผู้กู้ยืมในการทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้
เมื่อระบบ กยศ.Connect ปรับปรุงเสร็จสมบูรณ์แล้วยอดหนี้ทั้งหมดจะถูกปรับโดยอัตโนมัติและจะแสดงในแอปพลิเคชัน กยศ.Connect ต่อไป กยศ. ขอยืนยันว่าทุกคนจะได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายอย่างแน่นอน