ส.ส.พรรคประชาชนร่วมเป็นสักขีพยานจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม
GH News January 23, 2025 08:09 PM

ส.ส.พรรคประชาชนร่วมเป็นสักขีพยานจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมวันแรก สำนักงานเขตบางรัก

เมื่อวันที่ 23 ม.ค.68 ที่สำนักงานเขตบางรัก  กทม. ตัวแทนจากพรรคประชาชน นำโดย นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ ส.ส. กทม.เขต 1 และน.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ร่วมเป็นสักขีพยานและแสดงความยินดีแด่คู่รักที่เดินทางมาจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมในวันแรกที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ พร้อมกับมอบพวงกุญแจรูปสัญลักษณ์สมรสเท่าเทียมให้เป็นของที่ระลึก ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความอบอุ่นและเต็มไปด้วยความยินดี

นายธัญวัจน์ กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับคู่รักทุกคู่ที่สามารถจดทะเบียนสมรสได้อย่างเท่าเทียมกันในวันนี้ จากความรักที่ไม่เคยเป็นไปได้สู่ความรักที่เป็นไปได้ ตนเกิดมาในยุคที่ความหลากหลายทางเพศถูกพูดถึงน้อย ถูกมองว่าเป็นผู้ป่วยและพฤติกรรมที่เบี่ยงเบน ผู้มีความหลากหลายทางเพศเราจินตนาการถึงการสร้างครอบครัวไม่ออก ไม่สามารถวาดหวังกับการสร้างครอบครัวของเราได้เลย แต่วันนี้ความเท่าเทียมก้าวแรกเกิดขึ้นแล้ว นี่คือสิทธิ์และศักดิ์ศรีที่เราเท่ากัน ถึงแม้กฎหมายสมรสเท่าเทียมจะผ่านแล้ว แต่ยังมีอีกหลายประเด็นที่ต้องร่วมกันผลักดันต่อเพื่อสร้างความเท่าเทียมในสังคม โดยเฉพาะข้อสังเกต 4 ข้อของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ที่ต้องเร่งจัดทำรายงานให้แล้วเสร็จภายใน 180 วันหลังกฎหมายมีผลบังคับใช้ เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีนำไปพิจารณาต่อ ได้แก่ 1. การแก้ไขกฎหมายเรื่องอัตลักษณ์และการรับรองเพศ 2. การแก้ไขกฎหมายเรื่องเทคโนโลยีเจริญพันธุ์ 3. การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาเรื่องความผิดทางเพศ และ 4. การสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศ

"งานจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย จากการต่อสู้ของทุกภาคส่วนมายาวนานกว่า 13 ปี ดิฉันได้ยินเรื่องราวของการสูญเสีย การไม่ยอมรับ การพลัดพราก และการฆ่าตัวตายมานับไม่ถ้วน จากการที่พวกเขาไม่สามารถสร้างครอบครัวได้ วันนี้ฝันของพวกเขาเป็นจริงถึงหมุดหมายหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องร่วมกันผลักดันต่อ เป้าหมายคือทำให้ทุกคนในสังคมเข้าใจในความหลากหลาย ปราศจากอคติและความเกลียดชัง” นายธัญวัจน์ กล่าว

ขณะที่นายปารเมศกล่าวว่า วันนี้เป็นการจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อสมรสเท่าเทียมถูกประกาศใช้อย่างเป็นทางการ กฎหมายสมรสเท่าเทียมได้เปลี่ยนโฉมหน้าสังคมไทยไปอย่างไม่มีวันเหมือนเดิม จากการต่อสู้ของชุมชน LGBTQ+ ที่ยาวนาน สู่วันที่พวกเขาสามารถจดทะเบียนสมรสได้อย่างเท่าเทียม ไม่ใช่แค่กับกฎหมาย แต่ยังเป็นการประกาศให้โลกเห็นถึงหัวใจแห่งการยอมรับและความเคารพต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สํานักเขตบางรักเองก็เป็นที่ยอดนิยมที่คู่รักจากทั่วประเทศเดินทางมาจดทะเบียนสมรส เเต่วันนี้คําว่า บางรักจะไม่ใช่เพียงชื่อเขต เเต่เป็นบทพิสูจน์ที่ยืนยันว่า ความรักนั้นไร้พรมแดนและเพศสภาพ ตั้งแต่ผู้คนหลากสีสันที่แวะเวียนมายังสีลมซอย 2 และ 4 ไปจนถึงงานเทศกาลไพรด์ที่จัดขึ้นทุกเดือนมิถุนายน บ่งบอกว่าบางรักเป็นศูนย์กลางแห่งความเข้าใจ ที่รวมทุกหัวใจไว้ด้วยกัน ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มาจากไหน หรือรักใคร กฎหมายสมรสเท่าเทียมทำให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่การเป็นประเทศที่เปิดกว้างสำหรับความหลากหลายทางเพศอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะในด้านวัฒนธรรม กฎหมาย หรือวิถีชีวิต เราพร้อมต้อนรับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย และทุกภูมิหลัง เเละยืนยันว่าความหลากหลายไม่ใช่แค่สิ่งที่ต้องอดทน แต่คือสิ่งที่ควรเฉลิมฉลอง

ขณะที่ น.ส.ณธีภัสร์กล่าวว่า วันนี้เป็นการคืนสิทธิที่พวกเราถูกพรากมาตลอด ตนขอแสดงความยินดีกับคู่รักทุกคู่ที่สามารถใช้สิทธิในการจดทะเบียนสมรสได้อย่างถูกต้องตามกฏหมาย นี่คือประวัติศาสตร์ที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าประเทศไทยให้ก้าวหน้าทั้งทางด้านสังคมและเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น หลังจากนี้คู่สมรสทุกเพศจะสามารถรับบุตรบุญธรรมร่วมกัน มีสิทธิฟ้องคดีแทนกัน และใช้นามสกุลเดียวกันได้ รวมถึงมีสิทธิในทรัพย์สิน มรดก สวัสดิการจากรัฐ การเซ็นยินยอมรักษาพยาบาล การทำประกันชีวิตให้คู่สมรส และสิทธิประโยชน์ทางภาษี อีกทั้งเหตุแห่งการฟ้องหย่าจะครอบคลุมทุกเพศ การคบชู้ไม่ว่าจะเพศใดก็สามารถเป็นเหตุแห่งการฟ้องหย่าได้ การบังคับใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมครั้งนี้นับเป็นสร้างโอกาสและสิทธิเสมอภาคให้กับประชาชนทุกเพศ และเป็นจุดเริ่มต้นที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นสังคมที่โอบรับความหลากหลายและความเท่าเทียมอย่างแท้จริง 

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.