"อนุทิน"สั่งเข้มผู้ว่าฯ แก้ฝุ่น PM2.5  ประกาศพื้นที่ห้ามเผา   เตือนปล่อยปละละเลยต้องถูกย้ายเข้า มท.

เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 68 ที่ กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ว่า กระทรวงมหาดไทยมีมาตรการอยู่แล้ว โดยผู้ว่าฯ 15 จังหวัด ได้มีการประกาศให้เป็นเขตพื้นที่ห้ามเผา ให้ใช้วิธีฝังกลบ ซึ่งมันไม่ใช่เหตุการณ์ใหม่ ผู้ว่าราชการจังหวัด ทราบอยู่แล้วว่าเมื่อพ้นเดือนธ.ค. ต้องเตรียมรับมือในเรื่องดังกล่าว ขณะที่ จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย ก็มีการดำเนินการอยู่แล้ว ส่วน กทม. ต้องขอความร่วมมือในการใช้รถ ถ้าใช้ให้น้อยลง มีมาตรการเวิร์คฟอร์มโฮม ลดฝุ่นในสถานที่ก่อสร้าง ถ้าคอนโทรลเรื่องพวกนี้ได้ปริมาณฝุ่นจะลดลง

เมื่อถามว่า ส่วนในระยะยาวจะแก้ปัญหาอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องของธรรมชาติจะห้ามไม่ได้ แต่สามารถบอกคนได้ เช่น ลดการใช้รถยนต์ แต่ให้ใช้รถขนส่งสาธารณะ เหมือนสมัยโควิด-19 สัก 2-3 อาทิตย์ มลพิษจะลดลง ผู้ว่าฯจะต้องใช้มาตรการอย่างเข้มข้น ไม่ใช่แค่เพียงแปะป้ายเตือนไม่ให้เผา แต่ต้องมีมาตรการ เช่น การปรับ หรือบังคับใช้กฎหมาย ถ้าแจ้งเตือนแล้ว ยังไม่เลิกต้องส่งดำเนินคดี ให้หลาบจำ ขณะเดียวกันที่ผ่านมาเรามีการปลูกต้นไม้ และใช้พลังงานสะอาด จนจะล้นเกิน 3,600 เมกะวัตต์ แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลเตรียมการลดมลพิษ และไปร่วมกับปฏิญญา สหประชาชาติในการลดโลกร้อน ลดขยะ ตอนนี้ต้องขอความร่วมมือประชาชน และขออนุญาตใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น

เมื่อถามว่า ในวันที่ 29 ม.ค. 68 จะมีการเปิดศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน นายอนุทิน กล่าวว่า จะเป็นการประชุมถอดบทเรียนและนำไปปฏิบัติ ขณะที่จังหวัดทางภาคกลางก็จะมีการดำเนินการในลักษณะเช่นเดียวกันกับทางภาคเหนือ ที่ไม่ให้มีการเผาซากเศษวัสดุทางการเกษตร และต้องมีการปรับเปลี่ยนการปลูกพืชเกษตร ให้เป็นพืชล้มลุก เพื่อไม่ให้มีการเผา ซึ่งจะมีการหารือกับอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะให้ไปช่วยชาวบ้านในการฝังกลบ เพราะเป็นภาวะฉุกเฉิน จะใช้งบฉุกเฉินในแต่ละจังหวัดไปช่วยเติมน้ำมัน จัดหาเครื่องจักร ให้เกษตรกรฝังกลบแทนการเผาหน้าดิน ขณะนี้ทุกจังหวัด ได้มีการกำหนดช่วงวันห้ามเผา ถ้าใครเผาถือว่าผิดกฎหมาย

เมื่อถามถึง จุดฮอตสปอตในประเทศเพื่อนบ้านที่ยังสูงอยู่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการเจรจากันมาหลายปีแล้ว รวมถึงมีการหยุดซื้อผลผลิตทางการเกษตรที่ซื้อมาจากเพื่อนบ้าน ซึ่งมีการโวยวาย แต่โวยก็โวยไป หน้าที่นี้เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ บางทีเราทำอะไรหนัก เขาบอกให้เบา เพราะถ้าตนทำอะไรหนักอยู่แล้ว เราก็ต้องรับฟัง เช่น เรื่องเขาจับคนของเราไป เราก็จับคนของเขาจำนวนมาก แต่ก็มีการขอมาให้เบาๆ หน่อยเพราะมีการเจรจาอยู่

“การเวิร์คฟอร์มโฮม เป็นสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะในสมัยโควิด-19 ได้มีการล็อคดาวน์ประเทศแล้วเวิร์คฟอร์มโฮม ประสิทธิภาพงานนั้นสูงขึ้นกว่าเดิม ซึ่งกรอบเดิมสมัยโควิด-19 ยังอยู่ ตรงนี้ไม่เกี่ยวกับว่ากล้าหรือไม่กล้า ปัจจุบันต้องดูประสิทธิภาพของงานเป็นหลัก อยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ไม่มีปัญหา ขณะเดียวกันในฐานะที่ตนกำกับดูแลกระทรวงแรงงานได้ประสาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ให้ขอความร่วมมือนายจ้าง ให้พนักงานเวิร์คฟอร์มโฮมแล้ว ” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า กรณีที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่าการแก้ปัญหาฝุ่นในกทมต้องขอความร่วมมือจังหวัดปริมณฑลด้วย ซึ่งพบว่า จ.นครนายก ยังมีการเผาอยู่ และเมื่อได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่รู้จะแก้อย่างไรนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงไหน คงไม่ใช่เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย เพราะกระทรวงมหาดไทยติดต่อผู้ว่าฯ คงติดต่อเจ้าหน้าที่ทุกระดับไม่ได้ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยออกคำสั่งไปนานแล้วให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดในเรื่องของการเผา

"ถ้ายังเผาอยู่ ผู้ว่าฯจะต้องถูกย้าย ซึ่ง จ.นครนายก จ.สระบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา ก็เป็นจังหวัดที่มีการประกาศ ถ้ายังปล่อยให้มีการเผา ผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องมาเข้าห้องอบรมที่กระทรวงมหาดไทยสักพัก"นายอนุทิน กล่าว