สิ้นพระเกจิดังแห่งเขาพรานธูป “หลวงปู่นน” ฉายา “ปลัดขิกดิ้นได้” นักเสี่ยงโชคนำอายุหลวงปู่ไปเสี่ยงโชคกันคึกคัก
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 24 ม.ค.68 ที่สำนักสงฆ์เขาพรานธูป ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน เป็นประธานงานบำเพ็ญกุศลพิธีสรงน้ำศพ “พระครูสังฆรักษ์นน จนฺทวิโร” หรือ หลวงปู่นน จันทวิโร อายุ 94 ปี พรรษา 23 พระเกจิชื่อดัง อดีตเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์เขาพรานธูป มี นางอุษา พวงวลัยสิน นายกกิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน พระเถระชั้นผู้ใหญ่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ศิษยานุศิษย์และประชาชนจำนวนมากร่วมในพิธี พร้อมกันนี้นักเสี่ยงโชคต่างนำอายุ “หลวงปู่นน” ไปเสี่ยงโชคลาภงวดที่จะถึงนี้กันอย่างคึกคัก
สำหรับประวัติของ หลวงปู่นน จันทวิโร สำนักสงฆ์เขาพรานธูป พระเกจิอาจารย์เรืองอาคมแห่งหัวหิน น้องชายแท้ ๆ ของหลวงพ่อยิด อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองจอก อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญสามารถเสกปลัดขิกดิ้นได้เช่นเดียวกับหลวงพ่อยิด ท่านเกิดในตระกูล "กล่ำเรือง" เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2474 ปีมะแม ที่บ้านนาพรม อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก เมื่ออายุ 21 ปีได้อุปสมบทที่วัดประดิษฐวนาราม(วัดนาพรม) จ.เพชรบุรี โดยมี หลวงพ่อเพลิน วัดหนองไม้เหลือง เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังบวชได้อยู่ปรนนิบัติ "หลวงพ่อหวล จันทสิริ" เจ้าอาวาสวัดนาพรม ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงพร้อมๆกับหลวงพ่อยิด ซึ่งหลวงพ่อหวลได้ถ่ายทอดวิชาทางด้าน สมุนไพร วิชาทำปลัดขิก และการลงจารอักขระให้ ทั้งนี้ หลวงพ่อหวลมีศักดิ์เป็นน้าและพระกรรมวาจาจารย์ของหลวงยิด อีกทั้งเป็นอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทถ่ายทอดวิชาทำปลัดขิกให้กับหลวงพ่อยิด จนมีชื่อเสียงโด่งดังกล่าวขานอยู่จนถึงทุกวันนี้อีกด้วย
หลวงพ่อนนได้จาริกแสวงบุญอยู่นาน จึงได้กลับมาที่วัดหนองจอก ซึ่งในขณะนั้น หลวงพ่อยิดท่านมีชื่อเสียงด้านปลัดขิกและมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ด้วยความที่มั่นใจในความแก่กล้าทางวิชาคมของหลวงพ่อนน และเป็นศิษย์รุ่นน้องร่วมอาจารย์เดียวกันหลวงพ่อยิด จึงให้หลวงพ่อนนช่วยลงอักขระลงบนปลัดขิก ซึ่งการลงอักขระนี้ หลวงพ่อยิดต้องเลือกเฟ้นคนที่ไว้ใจได้และมีความสามารถ เพื่อให้วัตถุมงคลมีความศักดิ์สิทธิ์ หลังจากหลวงพ่อยิดมรณภาพ หลวงพ่อนนจึงออกธุดงค์ต่อและได้ร่ำเรียนศึกษาวิชา รักษากระดูก และวิชาแก้คุณไสย จากนั้นได้มาจำพรรษาที่วัดมาลัยทับใต้ หัวหิน และที่วัดนี้เอง ท่านได้สร้างปลัดขิกในนามของท่านเอง เพื่อแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน โดยท่านได้อยู่พัฒนาวัดมาลัยทับใต้ต่อมาอีกหลายปีจนเสร็จสิ้นสมบูรณ์ จึงได้เตรียมตัวจาริกอีกครั้ง ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างมาขอให้ท่านมาอยู่เป็นประธานช่วยจัดสร้างสำนักสงฆ์เขาพรานธูป หลวงพ่อนนท์จึงได้มาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์เขาพรานธูป ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา จนเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.58 พระราชภัทรญานฯ มอบตราตั้งฐานานุกรมและพัดยศเป็น “พระครูสังฆรักษ์” ให้แก่หลวงปู่นน เจ้าสำนักสงฆ์เขาพรานธูป ให้เป็น “พระครูสังฆรักษ์นน จนฺทวิโร” โดยมีพิธีมอบขึ้นภายในอุโบสถของสำนักสงฆ์เขาพรานธูป ระยะหลัง 3-5 ปี ที่ผ่านมา หลวงปู่นนได้อาพาธจากโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ก่อนเข้ารักษาตัวอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งมรณภาพคืนวันที่ 23 ม.ค.68 ที่ รพ.หัวหิน โดยทางวัดจะตั้งสวดบำเพ็ญกุศลที่สำนักสงฆ์ฯ เป็นเวลา 30 วัน ก่อนบรรจุสรีรสังขารไว้ในโลงแก้วต่อไป
หลวงปู่นน ท่านสามารถเสกปลัดขิกดิ้นได้เช่นเดียวกับหลวงพ่อยิด ด้วยกิตติศัพท์อันเลื่องลือ ทำให้ท่านได้รับกิจนิมนต์ร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีลูกศิษย์มากมาย มีผู้คนเข้าไปกราบท่านไม่ขาดสาย ผู้คนต่างได้รับประสบการณ์ดี ๆ ที่เกิดจากท่าน พระเครื่องของท่านมากมาย และเครื่องรางของท่านเป็นที่นิยมอย่างแผ่กว้างไปเรื่อยๆ ถึงต่างประเทศ วัตถุมงคลของหลวงปู่นนที่ขึ้นชื่อคือ ปลัดขิก ที่สร้างปาฏิหาริย์บินได้ เป็นที่นิยมกว้างขวางในหมู่ทหารและตำรวจ เพราะเชื่อกันว่าใครมีปลัดขิกของหลวงปู่นนติดตัวแล้วจะดีเด่นในด้านเมตตามหานิยมและแคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง อีกทั้งมีผู้ประสบเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งแคล้วคลาดและโชคลาภ