ยางระเบิดเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้หากใช้งานรถไม่เหมาะสม แม้ว่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วอาจสร้างความเสียหายต่อตัวเองและรอบข้างได้อย่างมหาศาล บทความนี้ Sanook Auto จะพาไปรู้จัก 4 สาเหตุยางระเบิดที่พบได้บ่อย มีอะไรบ้างไปดูกันเลย
การเติมลมยางอ่อนเกินไปเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ยางระเบิดได้ เมื่อลมยางอ่อน ยางจะเสียรูปทรงขณะวิ่ง ทำให้เกิดความร้อนสะสม และเสี่ยงต่อการระเบิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อขับรถด้วยความเร็วสูง หรือบรรทุกน้ำหนักมากเกินไป
ควรตรวจสอบแรงดันลมยางเป็นประจำอย่างน้อยเดือนละครั้ง โดยใช้เครื่องวัดแรงดันลมยาง และเติมลมยางให้ได้ตามมาตรฐานที่ผู้ผลิตรถยนต์แนะนำ ซึ่งมักจะระบุไว้ในคู่มือรถยนต์ หรือบริเวณขอบประตูฝั่งคนขับ
ยางแต่ละเส้นมีขีดจำกัดในการรับน้ำหนัก หากบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กำหนด จะทำให้ยางรับแรงกดมากเกินไป และอาจระเบิดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อขับรถด้วยความเร็วสูง หรือบนถนนที่ขรุขระ
โดยมากแล้วอาการยางระเบิดกรณีบรรทุกน้ำหนักเกิน จะพบได้บ่อยในรถกระบะขนส่ง การบรรทุกสินค้าน้ำหนักเกินค่าลิมิตของยางแต่ละเส้น มีโอกาสจะเกิดระเบิดได้ง่ายมาก อีกทั้งการบรรทุกน้ำหนักเกินยังส่งผลต่อสมรรถนะการขับขี่ ควบคุมรถได้ยาก และใช้ระยะเบรกยาวกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
ยางรถยนต์มีอายุการใช้งานจำกัด โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 3-5 ปี แม้ดอกยางจะยังดีอยู่ แต่โครงสร้างภายในยางอาจเสื่อมสภาพ ทำให้ยางมีความแข็งแรงลดลง และเสี่ยงต่อการระเบิดได้ จึงควรตรวจสอบสภาพยางอย่างสม่ำเสมอ หากพบรอยแตก รอยบวม หรือดอกยางสึกหรอ ก็ควรเปลี่ยนยางใหม่ทันที
การขับรถตกหลุมอย่างแรง จะทำให้ยางได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรง และอาจระเบิดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากยางมีสภาพไม่สมบูรณ์ หรือลมยางอ่อน หากเป็นไปได้จึงควรหลีกเลี่ยงการขับรถบนถนนที่ขรุขระ หากจำเป็นต้องขับผ่าน ควรลดความเร็วและเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ
ยางระเบิดเป็นเรื่องอันตรายที่สามารถป้องกันได้ หากเราใส่ใจดูแลรักษายางอย่างถูกต้อง และขับขี่รถยนต์ด้วยความระมัดระวัง ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดยางระเบิดได้ครับ