ชุมพร โจ๋เครียดสะสมขับจยย.ไปจ่อยิงเพื่อนบ้านดับ ไม่หนำใจคิดระแวงเมียคบชู้กับญาติ ตามยิงญาติเจ็บอีก 2 ราย
GH News January 31, 2025 02:06 AM

ชุมพร โจ๋เครียดสะสมขับจยย.ไปจ่อยิงเพื่อนบ้านดับ ไม่หนำใจคิดระแวงเมียคบชู้กับญาติ ตามยิงญาติเจ็บอีก 2 ราย

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 30 มกราคม 68 ร.ต.อ.ภูวิช ศรีคุ้ม รอง สว.สอบสวน สภ.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ได้รับแจ้งจากนายไพโรจน์ กล่อมหาดยาย ผู้ใหญ่บ้าน ม.9 ต.พระรักษ์ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ว่ามีลูกบ้านถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 13/7 ม.9 ต.พระรักษ์ และอีก 2 รายถูกยิงได้รับบาดเจ็บ บริเวณปากซอยจำปุย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชา ให้ทราบก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.มนต์ศักดิ์  ศรีสุวรรณ์ ผกก.สภ.พะโต๊ะ พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ อุบล รอง ผกก.(ป.)ตำรวจชุดสืบสวน แพทย์ รพ.พะโต๊ะและอาสากู้ชีพกู้ภัย รพ.พะโต๊ะ

ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุน จำนวน 5 ปลอก ตกอยู่บนถนนสายหมู่บ้านปากซอยจำปุย ห่างจากถนนสายพะโต๊ะ-หลังสวน 6 กม.ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อภายหลังคือนายจักรพันธ์ อายุ 42 ปี และ น.ส.นิตยา อายุ 44 ปี สองสามีภรรยา ซึ่งอยู่บ้านเลขที่ 63 ม.9 ต.พระรักษ์ ถูกยิงเข้าบริเวณลำตัว และได้ขับรถยนต์ส่วนตัวยี่ห้อโตโยต้า ตอนครึ่งสีดำ หมายเลขทะเบียน บน xxxx ชุมพร มาที่ รพ.พะโต๊ะ ก่อนหน้าแล้ว 

ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือนายอนันดา อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/1 ม.9 ต.พระรักษ์ ต.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ซึ่งหลังก่อเหตุได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบอรน ตอนครึ่ง หมายเลขทะเบียน บบ xxxx ได้หลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุไว้ ก่อนเดินทางไปยังที่เกิดเหตุยิงกันตาย ซึ่งห่างจากจุดแรกไป 2 กม.

โดยที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบศพนายมนัส อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/1 ม.9 ต.พระรักษ์ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร สวมเสื้อยืดแขนยาวสีฟ้า-แดง กางเกงวอรมขายาวสีดำ สภาพนอนหงายจมกองเลือด อยู่บริเวณหน้าร้านขายของชำ เลขที่ 13/7 ม.9 ซึ่งเปิดอยู่ริมถนนสายจำปุย และมี นางเครือวัลย์  อายุ 57 ปี เป็นเจ้าของร้าน พร้อมชาวบ้านในละแวกใกล้ที่เกิดเหตุ มายืนมุงดูกันเป็นจำนวนมาก

จากการชันสูตรพลิกศพพบผู้ตาย ถูกยิงด้วยอาวุธปืน ไม่ทราบชนิด เข้าบริเวณศีรษะ 1 นัด กระสุนทะลุคาง บริเวณคอ 1 นัด หน้าท้องใกล้สะดือ 1 นัด บริเวณหัวไหล่ซ้าย 1 นัดและอีก 1 นัดเข้าบริเวณหน้าอก กระสุนตัดขั้วหัวใจ นอกจากนี้ยังพบที่แขนขวามีรอยบาดแผลคล้ายถูกของมีคม ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุน กระเด็นตกอยู่ตามชั้นวางขนม พื้นปูนในร้าน รวมทั้งหมด จำนวน 5 ปลอก ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือนายอนันดา อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นคนร้ายคนเดียวกันกับที่ใช้อาวุธปืนยิงสองผัวเมียหน้าปากซอยจำปุย เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

สอบถามนายไพโรจน์ กล่อมหาดยาย ผู้ใหญ่บ้าน ม.9 ทราบว่า ตนเองได้รับแจ้งจากเจ้าของร้านขายของชำ จึงได้รุดไปตรวจสอบ เมื่อมาถึงก็พบนายมนัส ถูกยิงนอนเสียชีวิตอยู่หน้าร้านขายของชำแล้ว จึงได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาตรวจสอบ สำหรับผู้ตาย โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนร่าเริง ชอบสนุก ส่วนผู้ก่อเหตุนั้น ก็เป็นคนใจร้อนตามประสาวัยรุ่น แต่ก็ยอมรับว่าทั้งสองคนนั้นมีพฤติกรรมเสพยาเสพติด ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ทางฝ่ายปกครองและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ขึ้นบัญชีไว้เป็นผู้เสพ ไม่ใช่ผู้ค้า ส่วนสาเหตุมาจากเรื่องอะไรนั้นตนเองยังไม่ชัดเจน แต่ทั้งสองคน มีบ้านอยู่ในซอยเดียวกัน ห่างกันไม่มาก และบ้านทั้งสองคนก็ห่างจากที่เกิดเหตุเพียง 100 เมตร ทำให้ทั้งสองมักจะมาซื้อข้าวของ ณ ร้านเดียวกันประจำ 

ด้านนายบุญฤทธิ์ วัฒนกิจเวชสกุล อายุ 28 ปี ลูกของเจ้าร้าน เปิดเผยว่า ตอนเกิดเหตุนั้น ตนเองนั่งทำงานอยู่ในห้องด้านหลัง และได้ยินตอนที่นายมนัส เดิมมาซื้อของจากแม่ซึ่งอยู่หน้าร้าน และหลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3-4 นัด ก่อนจะเงียบไป และเมื่อตนเองออกมา ก็พบ นายอนันดา ผู้ก่อเหตุ เดินขึ้นไปที่ รถ จยย.ซึ่งจอดอยู่หน้าร้าน ขับหนีออกไป ตนเองจึงได้แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านดังกล่าว

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาที่ รพ.พะโต๊ะ เพื่อจะสอบถามอาการ ของนายจักรพันธ์ และ น.ส.นิตยา สองสามีภรรยา ที่ถูกนายอนันดา ใช้อาวุธปืนยิง และทราบว่าทั้งสองได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.พะโต๊ะ เพื่อให้ปากคำ จึงได้เดินทางต่อมาที่ สภ.โต๊ะ ผู้สื่อข่าวได้พบนางเครือวัลย์ ณภัคจุฑานนท์ อายุ 57 ปี เป็นเจ้าของร้าน ซึ่งได้เข้าให้การกับพนักงานสอบสวน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเองได้จัดของอยู่ในร้าน และนายมนัส ก็ได้เดินมาจากทำงานในสวน พร้อมสั่งแล้วนั่งกินอยู่บริเวณพื้นปูนหน้าประตู ต่อมามานานก็มีนายอนันดา ได้ขับรถ จยย.เข้ามาจอดหน้าร้าน แล้วก็เดินตรงมาที่นายมนัส พร้อมกับถามว่า ไอ้เด่น อยู่ไหน ตนเองก็หันไปตามเสียง และยังไม่ทันที่นายมนัส จะตอบ นายอนันดา ก็ได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงปืน โดยครั้งแรกนึกว่าเสียงปืนแก๊ป แต่เมื่อเดินมาดูก็พบว่า นายมนัส นอนจมกองเลือดอยู่และเห็นนายอนันดา ใช้มีดแทงใส่นายมนัส ตนเองเลยตะโกนว่าทำอะไร นายอนันดา จึงลุกขึ้นจากจุดก่อเหตุ เดินไปขึ้น รถ จยย.แล้วขับออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 
 

ด้านนายจักรพันธ์ เปิดเผยว่า ตนเองพร้อม น.ส.นิตยา ภรรยา และพ่อตา ไปทำธุระมาและได้ทราบว่านายอนันดา ซึ่งศักดิ์ เป็นหลานชายได้ไปก่อเหตุยิงนายมนัส ตาย จึงได้รีบขับรถมา แต่ขณะที่กำลังจะเลี้ยวเข้าไปในซอยจำปุย ก็พบกับนายอนันดา หลายชาย ขับรถยนต์สวนออกมา และได้จอดรถ ก่อนจะลงมาหาตน ซึ่งยังไม่ทันจะลดกระจกลงมาจะพูดคุย ก็เห็นนายอนันดา ยกอาวุธปืนขึ้น ตนเองเห็นท่าไม่ดี จึงได้เหยียบคันเร่งเพื่อหนี แต่นายอนันดา ก็ไม่ลดละยิงกระสุนเข้าใส่จนคมกระสุนทะลุกระจกเข้าบริเวณแผ่นหลังและแขนด้านขวาของตนเอง แต่โชคดีที่เข้าเพียงถากๆเท่านั้น แต่ต้องขนลุกเมื่อมองวิถีกระสุนที่ยิงเข้ามาหากตนเองไม่ก้มหลบก็เข้าบริเวณศีรษะแน่นอน

ขณะที่ น.ส.นิตยา กล่าวว่า ตนเองไม่คิดว่า หลานชายจะทำได้ขนาดนี้ และโชคดีที่ตนเองก็ถูกเพียงเศษกระจกที่แตกกระเด็นมาทิ่มแทงแขนเท่านั้น แต่เมื่อดูวิธีกระสุน แล้วเข้าเต็มลำตัวหรือคอตนเอง เพราะตนเองนั่งอยู่แค๊บหลัง ตรงกับวิธีกระสุนด้วย ส่วนสาเหตุนั้น ตนเองเชื่อว่า นายอนันดา นั้นคงเกิดความหึงหวงตัวภรรยาของเขาเอง เพราะก่อนหน้านี้ นายมนัส นั้นชอบพูดปั่นคอนายอนันดา ว่า นายจักรพันธ์ สามีของตนชอบทักไปโทรและจีบแฟนนายอนันดา ถึงขนาดมีอะไรกันแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าจะพูดหยอกกันแต่นายอนันดา คงคิดมาก ประกอบกับนายอนันดา เสพยาเสพติดด้วย จึงเกิดความระแวงคิดมาก จนคุมสติไม่อยู่ได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น 

ต่อมาทาง พ.ต.อ.มนต์ศักดิ์ ศรีสุวรรณ์ ผกก.สภ.พะโต๊ะ ได้รับแจ้งจากภรรยานายอนันดา ว่า ตัวนายอนันดา หลังก่อเหตุ แล้วได้ขับรถยนต์ไปหาที่ อ.ละแม จ.ชุมพร ขอมอบตัวสู้คดี จึงได้เดินทางไปพร้อมกับ พ.ต.ท.บุญจันทร์ ร้อยดี สวป.สภ.พะโต๊ะ และ ด.ต.อำนาจ สามงามเล็ก ผบ.หมู่(ป.)จึงได้เดินทางไปรับตัวนายอนันดา พร้อมอาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาด .038 ที่ใช้ในการก่อเหตุ 1 กระบอก และกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง ก่อนนำตัวขึ้นไปยังห้องสอบสวน ทันทีโดยไม่ให้สื่อซักถามมูลเหตุที่แท้จริงแต่อย่างใด

ในขณะเดียวกัน ทาง ด.ต.อำนาจ สามงามเล็ก ผบ.หมู่(ป.) ได้ให้ข้อมูลว่า ระหว่างที่นำตัวนายอนันดามานั้น ก็ได้สอบถามถึงแรงจูงในการก่อเหตุ ทราบว่า ตัวนายมนัส มักจะยุแยงทำให้ครอบครัวตนเองเกิดปัญหากัน และเป็นแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว ก่อนเกิดเหตุก็ได้ปรับทุกข์กับภรรยาของเขาเอง แต่ด้วยความระแวง จึงได้ให้ภรรยากลับไปอยู่ที่บ้านพ่อแม่ที่ อ.ละแม ก่อน และเมื่อนายอนันดา กลับมาที่บ้าน ต.พระรักษ์  ก็ได้ขับรถ จยย.พร้อมอาวุธปืน เพื่อจะเข้าไปเครียดปัญหา แต่ไม่ทันจะถามไถ่ ก็ก่อเหตุยิงนายมันส เสียชีวิตทันที ก่อนจะขับ รถ จยย.ออกไปจากที่เกิดเหตุ แล้วไปเปลี่ยนรถที่บ้าน ขับรถยนต์ของพ่อของนายอนันดา หลบหนีไปหาภรรยาที่ อ.ละแม ทันที และได้ติดต่อขอมอบตัวดังกล่าว
 

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.